Download ที่นี่ i-chart30 06 Nov 07.pdf (119.60 KB)
+ หุ้นที่เกิดสัญญาณ Up Trend day1 คือ ไม่มี
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ Down Trend day1 คือ SET, SET50, ATC, BBL, PTT, PTTEP, SCB
@ หุ้นเด่นที่น่าจับตา คือ CK, KTB, KBANK, ITD, TOP, BANKPU ,CPFหากอ่อนตัวต่อเนื่องจะเกิดสัญญาณ Dowtrend
สรุปสภาวะตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลงตามสภาวะตลาดหุ้นทั่วโลก หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐ เริ่มส่งสัญญาณความหวาดกลัวต่อ ซับไพร์ม อีกครั้ง หลังจากผลประกอบการของบริษัทการเงินส่วนใหญ่มีกำไรน้อยลง จากการขาดทุนจากการลงทุนในซับไพร์ม ซึ่งทำให้มีผู้บริหารหลายบริษัทต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก
โดยปัจจุบัน ดัชนี ตลาดหุ้นไทยปิดตัวในวันแรกของสัปดาห์ ด้วยปรับตัวลดลงกว่า -21 จุด หรือ -2.4% โดยแรงขายเกิดจากหุ้นในกลุ่มพลังงานที่มีสัดส่วนการซื้อขาย รวมถึง 45% ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมดในวัน ซึ่งกลุ่มพลังงานปรับตัวลงแรงกว่าทุกกลุ่ม ที่ -4% และกลุ่มธนาคารที่มีแรงซื้อขายรองลงมา ปรับตัวลง -2.65% ดังนั้น สิ่งที่นักลงทุนต้องควรระมัดระวังในช่วงนี้ คือ หุ้นขนาดใหญ่ มีโอกาสที่เกิดแรงขายต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ ซึ่งจะเห็นได้จากสัญญาณหุ้นในตาราง i-chart30 ว่ามีหุ้นที่เกิดสัญญาณ Downtrend ในหุ้นขนาดใหญ่ไม่ว่า SET, SET50, ATC, BBL, SCB, PTT,PTTEP ดังนั้นการปรับตัวลงในรอบนี้จะมีแนวรับดัชนี ต่อไปที่ บริเวณ 855 และ 820จุด
ประเด็นที่น่าจับตา
1.นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่2 ด้วยมูลค่า กว่า -5229ล้านบาท นับว่าเป็นมูลค่าที่สูงที่สุดในรอบ 2 เดือนครี่งเลยทีเดียว โดยแรงขายต่อเนื่อง 2วันมีมูลค่ารวม เกือบ 8,000ล้านบาท ดังนั้นหากแรงขายยังมีต่อเนื่องเช่นนี้ ก็ยากที่ตลาดจะรีบาวด์กลับในช่วงนี้เช่นกัน
ซึ่งหมายความว่านักลงทุนระยะกลางจะเข้าซื้ออาจต้องรอให้แรงขายของนักลงทุนต่างชาติน้อยลงกว่านี้
กลยุทธ์การลงทุน
ลดพอร์ตการลงทุนตามสัญญาณ i-chart30 หลีกเลี่ยงการถือครองหุ้นขนาดใหญ่
คำนิยามและความหมาย
1) Stock = คือหุ้นที่เลือกมาจาก i-chart model โดยเน้น บริษัทจดทะเบียน ที่มีมูลค่าทางตลาดสูง มีความนิยม มีสภาพคล่องและ สามารถประกอบใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิค แบบ i-chart30ได้
2) Last Trade (Close price, Change price, % change) = ราคาปิดของวันก่อน, การเปลี่ยนแปลงของราคา และเปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลง
3) Volume Monitor (Volume,Volume average 5 day) = ปริมาณการซื้อขายของจำนวนหุ้น, ปริมาณการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยใน5วันที่ผ่านมา โดยเครื่องหมาย(+,-) เป็นการบอกว่ามีปริมาณการซื้อขายหุ้นวันนั้นมากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย5วัน ***(จำนวนเต็มต้องคูณด้วย 1,000หุ้น) 4) Momentum Play (Simple Moving Average 5 days[sma 5days], Simple Moving Average 10 days [Sma 10days],Price Over5 days,Price Over10 days ,Sma cross, MACD cross, Bullish or Bearish) = สัญญานทางเทคนิคที่บอกทิศทางของหุ้นว่ามีแนวโน้มขึ้น (+)หรือลง(-) อย่างไร โดยจะมีการเรียงสัญญาณทางเทคนิคตาม ความไวของสัญญาณ ตั้งแต่ Price over 5d. หรือ 10d.ราคาปิดที่มากกว่าราคาเฉลี่ย 5วัน หรือ10วัน สัญญานเป็น(+) หมายถึงแนวโน้มขึ้น , SMA cross ราคาเฉลี่ย 5วันสูงกว่าราคาเฉลี่ย10วัน บอกถึงทิศทางขาขึ้น สัญญานเป็น+ , ส่วนสัญญาน MACD ที่เป็น+ เกิดจากค่าของเส้น MACD Line มากกว่าค่าของ Signal Line, และค่าMACD Line ที่มากกว่าศูนย์บอกถึงสภาวะหุ้นตัวนั้นว่าเป็นสภาวะกระทิง (Bullish) หรือสภาวะหมี (Bearish) หากค่าต่ำกว่าศูนย์
5) Action and Recommend = Trend (Up and Down) บอกถึงสัญญาณแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง, จำนวนวันที่เกิดสัญญาณ Day , Price action ราคาปิดของวันก่อนเกิดสัญญาณที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง และ % change เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคานับตั้งแต่ที่เริ่มเกิดสัญญาน 6) 52-weeks Range = ช่วงราคาที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
หมายเหตุ รายงานฉบับนี้จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน แต่มิได้มีวัตถุประสงค์จะชี้นําหรือชักชวนให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ระบุในรายงาน ผู้จัดทําได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ใช้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่ไม่อาจรับรองถึงความสมบูรณ์หรือความถูกต้องได้ ทั้งนี้ ข้อมูลและความเห็นต่างๆ ในรายงานอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณ และโปรดศึกษาข้อมูลของบริษัทผู้ ออกหลักทรัพย์และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้จัดทําจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว