Download ที่นี่ i-chart30 20 Sep 07.pdf (119.74 KB)
+ หุ้นที่เกิดสัญญาณ Up Trend day1คือ SSI
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ Down Trend day1 คือ ไม่มี
@หุ้นเด่นที่น่าจับตา คือ BBL, MCOT หากปรับตัวขึ้นต่ออาจเกิดสัญญาณ Uptrend / ส่วน SATTEL หากอ่อนตัวลงอีกอาจเกิดสัญญาณ downtrend ในเร็วนี้
สรุปภาพรวมตลาด
ในที่สุด ธนาคารกลางสหรัฐ อเมริกา ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย ลงอีก 0.50% ซึ่งทำให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวลงเหลือเพียง 4.75% และมีแนวโน้มที่จะปรับลดลงอีกในการประชุมครั้งต่อไป ในปลายเดือน ตุลาคมนี้ ซึ่ง หลังจากการประกาศ ลดอัตราดอกเบี้ยในคืนวานนี้ ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นแรง เนื่องจากสาเหตุความคลายกังวลของนักลงทุนระยะสั้น ที่กังวลผลกระทบของ Subprime อาจเกิดขึ้นอีก หากไม่มีการลดอัตราดอกเบี้ย
แต่อย่างไรก็ดี การลดอัตราดอกเบี้ยที่เกินคาด เช่นนี้ อาจเป็นแค่การดีใจ ระยะสั้น เพราะนักวิเคราะห์หลายฝ่าย เริ่มเห็นว่า เฟดอาจมีความกังวล ลึกๆ ที่ยังมองไม่เห็น หรือยังไม่ได้เปิดเผยออกมาถึง ผลกระทบของ Sub prime ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างแท้จริง ซึ่งในไตรมาสที่ 3 นี้ อาจจะได้เห็นผลประกอบการของ เหล่าบริษัทการเงิน และกองทุนต่างๆ ว่ามีผลประกอบการเช่นไร จากผลกระทบของ Subprime บ้าง
ดังนั้น นักลงทุน อาจเล่นเก็งกำไรหุ้นได้ในสองสามวันนี้ เพียงแต่ อย่างหลงระเริง เพราะเราเชื่อว่า ผลกระทบของsub prime ยังต้องมีอีกให้เห็นอย่างแน่นอน
ประเด็นที่น่าจับตา
1.ค่าเงินดอลลาร์ index อ่อนค่าลงทันทีหลังจากข่าวการลดอัตราดอกเบี้ย โดยล่าสุดทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ12 ปีไปเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ราคาทองคำ ทำ new high ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เช่นกัน
2.ราคาน้ำมันโลก ยังคงไต่ระดับปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องล่าสุด แตะระดับ 82.25 เหรียญดอลลาร์ต่อบาเรลแล้ว
กลยุทธ์การลงทุน
เน้นทำกำไรระยะสั้น หาก SET ยังไม่สามารถยืนเหนือ 820จุด ได้ ยังไม่ยืนยันการปรับตัวขึ้นต่อในสัปดาห์หน้า
คำนิยามและความหมาย
1) Stock = คือหุ้นที่เลือกมาจาก i-chart model โดยเน้นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางตลาดสูง มีความนิยม มีสภาพคล่องและ สามารถประกอบใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบ i-chart30ได้
2) Last Trade (Close price, Change price, % change) = ราคาปิดของวันก่อน, การเปลี่ยนแปลงของราคา และเปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลง
3) Volume Monitor (Volume,Volume average 5 day) = ปริมาณการซื้อขายของจำนวนหุ้น, ปริมาณการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยใน5วันที่ผ่านมา โดยเครื่องหมาย(+,-) เป็นการบอกว่ามีปริมาณการซื้อขายหุ้นวันนั้นมากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย5วัน ***(จำนวนเต็มต้องคูณด้วย 1,000หุ้น) 4) Momentum Play (Simple Moving Average 5 days[sma 5days], Simple Moving Average 10 days [Sma 10days],Price Over5 days,Price Over10 days ,Sma cross, MACD cross, Bullish or Bearish) = สัญญานทางเทคนิคที่บอกทิศทางของหุ้นว่ามีแนวโน้มขึ้น (+)หรือลง(-) อย่างไร โดยจะมีการเรียงสัญญาณทางเทคนิคตาม ความไวของสัญญาณ ตั้งแต่ Price over 5d. หรือ 10d.ราคาปิดที่มากกว่าราคาเฉลี่ย 5วัน หรือ10วัน สัญญานเป็น(+) หมายถึงแนวโน้มขึ้น , SMA cross ราคาเฉลี่ย 5วันสูงกว่าราคาเฉลี่ย10วัน บอกถึงทิศทางขาขึ้น สัญญานเป็น+ , ส่วนสัญญาน MACD ที่เป็น+ เกิดจากค่าของเส้น MACD Line มากกว่าค่าของ Signal Line, และค่าMACD Line ที่มากกว่าศูนย์บอกถึงสภาวะหุ้นตัวนั้นว่าเป็นสภาวะกระทิง (Bullish) หรือสภาวะหมี (Bearish) หากค่าต่ำกว่าศูนย์
5) Action and Recommend = Trend (Up and Down) บอกถึงสัญญาณแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง, จำนวนวันที่เกิดสัญญาณ Day , Price action ราคาปิดของวันก่อนเกิดสัญญาณที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง และ % change เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคานับตั้งแต่ที่เริ่มเกิดสัญญาน 6) 52-weeks Range = ช่วงราคาที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
หมายเหตุ รายงานฉบับนี้จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน แต่มิได้มีวัตถุประสงค์จะชี้นําหรือชักชวนให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ระบุในรายงาน ผู้จัดทําได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ใช้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่ไม่อาจรับรองถึงความสมบูรณ์หรือความถูกต้องได้ ทั้งนี้ ข้อมูลและความเห็นต่างๆ ในรายงานอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณ และโปรดศึกษาข้อมูลของบริษัทผู้ ออกหลักทรัพย์และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้จัดทําจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว