Download ที่นี่ i-chart30 20Aug 07.pdf (119.10 KB)
+ หุ้นที่เกิดสัญญาณ Up Trend day1คือ ไม่มี
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ Down Trend day1 คือ ไม่มี
สรุปภาพรวมตลาด
สรุปภาพรวมตลาดวันศุกร์ที่ผ่านมา จะเห็นว่ามีแรงขาย อย่างมากในช่วงเปิดตลาดในตอนบ่ายหลังจาก ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตัวต่ำสุดในวัน -874 จุด หรือ - 5.42% รวมถึงตลาดหุ้นสิงคโปร์เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดหุ้นฮั่งเส็งที่มีข่าวการปรับตัวลงอย่างรุนแรงถึง -1,000จุด ซึ่งทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ตื่นตระหนก เทขายในช่วงเปิดตลาดบ่าย ที่จุดต่ำสุดของวันคือ 732จุด แต่ท้ายที่สุด เกิดแรงซื้อจากหุ้น กลุ่มธนาคารและหลักทรัพย์ทำให้เกิดการดีดกลับอย่างรวดเร็ว ดีดกลับปิดตัวที่ 758จุด ซึ่งจุดสังเกตส่วนหนี่งคือ วันนั้น มีการรับข่าวสารที่ไม่เท่ากัน เนื่องจากตอนข้อมูลในตลาดฮั่งเส็ง บางแหล่งข้อมูลจะได้รับข้อมูลช้ากว่า ตลาดจริงถึงเกือบ 30นาที ดังนั้นขณะที่บางส่วนตกใจขายเนื่องจาก เห็นการลง -1,000จุด แต่บางนักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบัน ได้เห็นการดีดกลับ ที่ -500จุด และ -200จุดตามลำดับ จึงทำให้เกิดแรงซื้อสวนกลับในตลาดหุ้นไทยอย่างรวดเร็ว
แต่อย่างไรก็ดี เรายังมองตลาดเป็นแค่การรีบาวด์ระยะสั้น ซึ่งอาจเกิดแรงขายอีกครั้งที่บริเวณ 776-780จุด ดังนั้น นักลงทุนอาจต้องมีการประเมิณผลอีกครั้งเมื่อถึงแนวดังกล่าวเนื่องจาก
ปัจจัยเสี่ยงที่ยังมีอยู่
1. นักลงทุนต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่องกว่า 45,000ล้านบาทแล้ว โดยยอดขายสุทธิในวันศุกร์มีถึง 6,800ล้านบาท
2.ปัจจัย Supprime ยังไม่น่าจบลงง่าย เนื่องจากปัจจุบัน จะเห็นว่ามีแรงขายสินทรัพย์ต่างๆทั่วโลก ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ ซึ่งได้แก่ หุ้นทั่วโลก ทองคำ น้ำมัน และ Commodities ต่างๆ เช่น สังกะสี ทองแดง เงิน อลูมิเนียม ล้วนปรับตัวลงอย่างรวดเร็วเปรียบเสมือนตลาดหุ้น แต่ยังไม่เห็นการหยุดขายจากสินทรัพย์เหล่านี้อย่างชัดเจน ซึ่งหมายความว่ายังมีสิ่งที่ทุกคนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ ที่น่ากลัวจะเกิดขึ้นอีกในไม่ช้า เพราะยังมีผู้ขายอย่างหนักและต่อเนื่องอยู่
กลยุทธ์การลงทุน
การสะสมหุ้น ไว้เพื่อถือลงทุนในระยะกลางถึงยาว ยังพอทำได้ แต่ส่วนนักลงทุนระยะสั้น ให้คอยหาจังหวะขายอีกครั้งเมื่อหุ้นเข้าใกล้เส้นค่าเฉลี่ย 5วัน ตราบเท่าที่ยังไม่เห็นแรงซื้อหุ้นกลับจากนักลงทุนต่างชาติ
คำนิยามและความหมาย
1) Stock = คือหุ้นที่เลือกมาจาก i-chart model โดยเน้นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางตลาดสูง มีความนิยม มีสภาพคล่องและ สามารถประกอบใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบ i-chart30ได้
2) Last Trade (Close price, Change price, % change) = ราคาปิดของวันก่อน, การเปลี่ยนแปลงของราคา และเปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลง
3) Volume Monitor (Volume,Volume average 5 day) = ปริมาณการซื้อขายของจำนวนหุ้น, ปริมาณการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยใน5วันที่ผ่านมา โดยเครื่องหมาย(+,-) เป็นการบอกว่ามีปริมาณการซื้อขายหุ้นวันนั้นมากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย5วัน ***(จำนวนเต็มต้องคูณด้วย 1,000หุ้น) 4) Momentum Play (Simple Moving Average 5 days[sma 5days], Simple Moving Average 10 days [Sma 10days],Price Over5 days,Price Over10 days ,Sma cross, MACD cross, Bullish or Bearish) = สัญญานทางเทคนิคที่บอกทิศทางของหุ้นว่ามีแนวโน้มขึ้น (+)หรือลง(-) อย่างไร โดยจะมีการเรียงสัญญาณทางเทคนิคตาม ความไวของสัญญาณ ตั้งแต่ Price over 5d. หรือ 10d.ราคาปิดที่มากกว่าราคาเฉลี่ย 5วัน หรือ10วัน สัญญานเป็น(+) หมายถึงแนวโน้มขึ้น , SMA cross ราคาเฉลี่ย 5วันสูงกว่าราคาเฉลี่ย10วัน บอกถึงทิศทางขาขึ้น สัญญานเป็น+ , ส่วนสัญญาน MACD ที่เป็น+ เกิดจากค่าของเส้น MACD Line มากกว่าค่าของ Signal Line, และค่าMACD Line ที่มากกว่าศูนย์บอกถึงสภาวะหุ้นตัวนั้นว่าเป็นสภาวะกระทิง (Bullish) หรือสภาวะหมี (Bearish) หากค่าต่ำกว่าศูนย์
5) Action and Recommend = Trend (Up and Down) บอกถึงสัญญาณแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง, จำนวนวันที่เกิดสัญญาณ Day , Price action ราคาปิดของวันก่อนเกิดสัญญาณที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง และ % change เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคานับตั้งแต่ที่เริ่มเกิดสัญญาน 6) 52-weeks Range = ช่วงราคาที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
หมายเหตุ รายงานฉบับนี้จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน แต่มิได้มีวัตถุประสงค์จะชี้นําหรือชักชวนให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ระบุในรายงาน ผู้จัดทําได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ใช้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่ไม่อาจรับรองถึงความสมบูรณ์หรือความถูกต้องได้ ทั้งนี้ ข้อมูลและความเห็นต่างๆ ในรายงานอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณ และโปรดศึกษาข้อมูลของบริษัทผู้ ออกหลักทรัพย์และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้จัดทําจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว