Download ที่นี่ i-chart30 14Aug 07.pdf (119.59 KB)
+ หุ้นที่เกิดสัญญาณ Up Trend day1คือ ไม่มี
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ Down Trend day1 คือ AOT
@ หุ้นเด่นที่น่าจับตา คือ CK, IRPC, BAY เป็นหุ้นที่แข็งแกร่งกว่าตลาด
สรุปสภาวะตลาด
ตลาดหุ้นไทย แม้ปรับตัวลงอย่างรุนแรง ในช่วงตลาดเปิดเช้า แต่อย่างไรก็ดี สามารถปรับตัวขึ้นปิดที่จุดสูงสุดของวัน ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีแรงซื้อกลับในหุ้นขนาดใหญ่เช่นกัน หลังจากเปิดตัวที่จุดต่ำสุดในตอนเช้า ซึ่งจะเห็นได้จาก PTT, ADVANC, PTTEP, TOP ,RRC, SCC,BBL , IRP
โดยมุมมองว่าแรงดีดกลับของSETเกิดจาก การอ่อนตัวอย่างรุนแรง และเข้าสู่ระดับแรงขายที่มากเกินไปจึงทำให้หุ้นมีแรงดีดกลับ แต่เรายังคงให้ระมัดระวังการถอยตัวลงต่อ อาจเกิดขึ้นได้อีกหากปรับตัวไม่ผ่านแนวต้านสำคัญที 820จุด
ประเด็นที่น่าจับตา
1.นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิออกมาอย่างหนักในเย็นวันศุกร์กว่า -4,369ล้านบาท ซึ่งเมื่อสะสมรวมยอดการซื้อขายใน 3 สัปดาห์ เป็นการขายสุทธิกว่า 10,000ล้านบาท แล้ว
2.ราคาน้ำมันโลก Light Clude Oil ตลาดNYMEX มีโอกาสอ่อนตัวลงต่อเนื่องได้อีกในช่วงนี้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 72 ดอลลาร์ต่อบาเรล ซึ่งมุมมองทางเทคนิค ยังเชื่อว่าจะมีการปรับตัวลงถึง 68ดอลลาร์ต่อบาเรล ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงานและ ดัชนีของตลาดหุ้นไทยได้
3.ค่าเงินบาทยังส่งสัญญาณอ่อนตัวต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันอยู่ราว 34.10บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งหากยังคงปรับตัวขึ้นต่อจะสามารถอ่อนตัวได้ถึง 34.50 บาทเป็นแนวถัดไป ดังนั้น จึงอาจเป็นสาเหตุให้นักลงทุนต่างชาติ สามารถขายหุ้นไทยได้อีก
กลยุทธ์การลงทุน
แม้ระยะสั้น SET จะมีโอกาสรีบาวด์ แต่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูงจากสภาวะตลาดทั่วโลก รวมถึงปัจจัยจากประเด็นที่น่าจับตาที่กล่าวในเบื้องต้น ดังนั้น หากการรีบาวด์หุ้นที่ไม่ผ่าน 820จุด อาจเกิดการอ่อนตัวอีกครั้ง โดยแนวรับที่สำคัญเมื่อดัชนีหลุด 800 จะอยู่ที่ 780จุด และ 765จุด เป็นแนวสุดท้าย
คำนิยามและความหมาย
1) Stock = คือหุ้นที่เลือกมาจาก i-chart model โดยเน้นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางตลาดสูง มีความนิยม มีสภาพคล่องและ สามารถประกอบใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบ i-chart30ได้
2) Last Trade (Close price, Change price, % change) = ราคาปิดของวันก่อน, การเปลี่ยนแปลงของราคา และเปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลง
3) Volume Monitor (Volume,Volume average 5 day) = ปริมาณการซื้อขายของจำนวนหุ้น, ปริมาณการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยใน5วันที่ผ่านมา โดยเครื่องหมาย(+,-) เป็นการบอกว่ามีปริมาณการซื้อขายหุ้นวันนั้นมากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย5วัน ***(จำนวนเต็มต้องคูณด้วย 1,000หุ้น) 4) Momentum Play (Simple Moving Average 5 days[sma 5days], Simple Moving Average 10 days [Sma 10days],Price Over5 days,Price Over10 days ,Sma cross, MACD cross, Bullish or Bearish) = สัญญานทางเทคนิคที่บอกทิศทางของหุ้นว่ามีแนวโน้มขึ้น (+)หรือลง(-) อย่างไร โดยจะมีการเรียงสัญญาณทางเทคนิคตาม ความไวของสัญญาณ ตั้งแต่ Price over 5d. หรือ 10d.ราคาปิดที่มากกว่าราคาเฉลี่ย 5วัน หรือ10วัน สัญญานเป็น(+) หมายถึงแนวโน้มขึ้น , SMA cross ราคาเฉลี่ย 5วันสูงกว่าราคาเฉลี่ย10วัน บอกถึงทิศทางขาขึ้น สัญญานเป็น+ , ส่วนสัญญาน MACD ที่เป็น+ เกิดจากค่าของเส้น MACD Line มากกว่าค่าของ Signal Line, และค่าMACD Line ที่มากกว่าศูนย์บอกถึงสภาวะหุ้นตัวนั้นว่าเป็นสภาวะกระทิง (Bullish) หรือสภาวะหมี (Bearish) หากค่าต่ำกว่าศูนย์
5) Action and Recommend = Trend (Up and Down) บอกถึงสัญญาณแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง, จำนวนวันที่เกิดสัญญาณ Day , Price action ราคาปิดของวันก่อนเกิดสัญญาณที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง และ % change เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคานับตั้งแต่ที่เริ่มเกิดสัญญาน 6) 52-weeks Range = ช่วงราคาที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
หมายเหตุ รายงานฉบับนี้จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน แต่มิได้มีวัตถุประสงค์จะชี้นําหรือชักชวนให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ระบุในรายงาน ผู้จัดทําได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ใช้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่ไม่อาจรับรองถึงความสมบูรณ์หรือความถูกต้องได้ ทั้งนี้ ข้อมูลและความเห็นต่างๆ ในรายงานอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณ และโปรดศึกษาข้อมูลของบริษัทผู้ ออกหลักทรัพย์และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้จัดทําจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว