สรุปภาพมุมมองของ i-Consensus SET100 ณ ราคาหุ้นวันที่ 8 มิถุนายน 2550 เมื่อเทียบกับ ราคาเป้าหมายเฉลี่ยของหุ้นจาก SET100 ในวันที่ 7 มีนาคม 2550 จะเห็นว่า
มีหุ้นที่มีการปรับเป้าหมายขึ้น เพียง 36 บริษัท
ไม่เปลี่ยนแปลง หรือ ไม่มีบทวิเคราะห์ 9 บริษัท
ปรับเป้าลดลง ถึง 55 บริษัท
ดังนั้น แนวโน้ม และมุมมองของผลประกอบการของตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในอนาคต น่าจะมีทิศทางที่ ไม่ได้เป็น บวกมาก ซึ่งหุ้นที่มีการปรับเป้าหมายขึ้นสูงสุด 15อันดับแรก คือ CP7-11 +45%, LOXLEY +27.91%, ATC + 21.14%,TTA +17.44%, MAKRO +15.97%, ACL, BANPU, EGCO, RCL , LPN, MCOT , BEC, QH , AMATA, SIM แต่โดยหุ้นส่วนใหญ่เหล่านี้ ต่างมีราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น รับกับราคาเป้าหมายที่ปรับขึ้นไปแล้ว โดยส่วนมาก ระดับราคาปัจจุบันสูงกว่าราคาเป้าหมายเฉลี่ย เสียอีก
ซึ่งบางครั้ง เรามีมุมมองที่ดูเหมือนว่า การปรับเป้าของนักวิเคราะห์มักจะเกิดขึ้น ตามหลังราคาหุ้นที่ปรับสูงขึ้นไปแล้ว โดยบทวิเคราะห์เป็นเพียง ส่วนสรุปเหตุ และผล ที่ทำให้ราคาหุ้นปรับขึ้นไปได้ ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่พิสูจน์ ทฤษฎีที่เรียกว่า ราคาหุ้นในตลาดมักมี insider หรือบุคคลที่มองเห็นข้อมูลสำคัญ ก่อนที่ราคาจะปรับตัวขึ้นไป และ อาจเรียกอีก ทฤษฏีหนึ่งที่เรียกว่า การปรับตัวของราคาหุ้นที่สูงกว่า ราคาเป้าหมาย เกิดจาก Demand และ Supply มากกว่า เหตุและผล (มูลค่าทางทฤษฏี) ดังจะเห็นได้จากหุ้น CP7-11, ATC, TTA, ACL, BANPU , EGCO ,LPN เป็นต้น ซึ่งเป็นหุ้นที่ส่วนใหญ่ โบรเกอร์ให้คำแนะนำเป็น Over Value มานานแล้ว แต่ก็ยังสามารถ มีราคาสูงกว่าราคาเฉลี่ยได้
ส่วนหุ้นที่มีการปรับราคาเป้าหมายเปลี่ยนแปลงสูงสุด เมื่อเทียบกับ 7Mar07 ได้แก่
ITV, PSL, AH, AI , TRUE, ITD, BT , SIRI, BCP, SAMETL, ROBINS, PDI ดังนั้นหุ้นเหล่านี้ อาจเป็นหุ้นที่ต้องเฝ้าระวังถึงผลประกอบการในอนาคต แต่อย่างไรก็ดี ขึ้นอยู่กับราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน นั้น ต่ำกว่าราคาเป้าเฉลี่ยมากน้อยเพียงใด ดังเช่น AH, BCP แม้จะมีการปรับราคาเป้าหมายลง แต่ ก็นับว่าราคาหุ้นปัจจุบันถือว่าต่ำ และน่าจะมี upside gain อยู่มาก
และหุ้นที่มีผลตอบแทนสูงสุดเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายเฉลี่ย ณ ปัจุบัน คือ LOXLEY, JAS, SAMART, BCP, GSEEL, SPALI, KTB, THAI, ERAWAN, SSI, HMPRO, KTC, TT&T, BECL, TCAP
หมายเหตุ
1. PSL มีการเปลี่ยนแปลง โครงสร้างทุน โดยมีการออกหุ้นปันผล 1 หุ้นสามัญ ต่อ 1หุ้นปันผล จึงทำให้มีจำนวนหุ้นมากขึ้น ดังนั้น อาจทำให้บทวิเคราะห์มีราคาเป้าหมายที่ผิดพลาดได้
2. LOXLEY เป็นหุ้นที่แม้ว่าจะให้ข้อมูลว่าผลตอบแทนสูง แต่เกิดจากบทวิเคราะห์เพียง โบรกเกอร์เดียว ดังนั้นอาจจะมีความแม่นยำน้อยกว่า หุ้นตัวอื่นที่มีจำนวนโบรกเกอร์วิเคราะห์มากกว่า
Download ที่นี่ i-consensus SET100 8Jun07.pdf (164.85 KB)
แต่อย่างไรก็ดีจากการประเมิณจากการใช้ตาราง i-Concensus เพียงอย่างเดียวไม่สามารถตัดสินใจ เลือกซื้อหุ้นได้อย่างเหมาะสมทั้งหมด เหตุเพราะ
1.ราคาเป้าหมายส่วนใหญ่นั้นต้องรอการประเมิณและวิเคราะห์จากนักวิเคราะห์ก่อน ซึ่งอาจจะเป็นข้อมูลที่ช้าเกินไป
2.การ update ข้อมูลของแต่ละสำนักวิจัย มีความถี่ไม่เท่ากัน ดังนั้นอาจมองจากภาพรวมได้เท่านั้น ซึ่งอาจไม่ใช่ข้อมูลที่ล่าสุด ดังนั้นเราจึงเน้นที่ราคาเป้าหมายจากการเฉลี่ยข้อมูล
ซี่ง ส่วนประกอบสำคัญในการเลือกลงทุนหุ้นนั้นอาจจะไม่เลือกจากราคาหุ้นที่ถูกเท่านั้น (เพราะอาจจะมีที่ถูกกว่า) แต่ต้องเป็นเวลาที่เหมาะสมเข้าลงทุนเป็นองค์ประกอบด้วย ดังนั้นอยากให้นักลงทุนต้องใช้วิจารณญาณ และประเมิณ ร่วมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค (หรือแนวโน้มการเคลื่อนที่ของราคาหุ้น ว่าอยู่ในทิศทางใด เช่นขาขึ้นหรือขาลง)
กลยุทธ์การลงทุนหุ้นใน i-Concensus SET100
1.ควรเลือกหุ้นที่มีการประเมิณจากหลายโบรกเกอร์ (Total no. of Broker Recommendation) เช่น มีโบรกเกอร์ประเมิณ JAS เพียง 1 โบรกเกอร์ เทียบกับ TRUE ที่มีการประเมิณที่ 15โบรกเกอร์ ดังนั้นความแม่นยำของราคาเป้าหมายเฉลี่ยของ TRUE จะมีมากกว่า JAS
2.ควรเลือกหุ้นที่มีจำนวน ของ Broker Recommendation ที่ Under Value (U.Value) มากกว่า Over Value (O.Value) ซึ่งหมายถึงราคาหุ้นปัจจุบันต่ำกว่าราคาเป้าหมายของแต่โบรกเกอร์ที่ให้ไว้ มากกว่าโบรกเกอร์ ที่เห็นว่าราคาปัจจุบันสูงกว่าราคาเป้าหมาย
3.หุ้นที่มีราคาเป้าหมายจาก Median (มัธยฐาน) มากกว่าราคาเป้าหมายเฉลี่ย หมายความว่า โบรกเกอร์ส่วนใหญ่ให้ราคาเป้าหมายสูงกว่าราคาเฉลี่ย และมีโบรกเกอร์จำนวนน้อยกว่าที่ให้ราคาต่ำกว่าเป้าหมายเฉลี่ย
หมายเหตุ
i-Concensus SET100 คือ ตารางที่เปรียบเทียบ อัตราผลตอบแทนจากราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์แต่ละ บริษัทหลักทรัพย์ให้คำแนะนำไว้ โดยเปรียบเทียบหุ้นจาก SET100 ว่ามีราคาหุ้น ปัจจุบันต่ำกว่าราคาประเมิณที่นักวิเคราะห์ให้ไว้มากน้อยเพียงใด โดยจะเรียงตามลำดับผลตอบแทน ซี่งนักลงทุนอาจจะต้องพิจารณา จำนวนนักวิเคราะห์ที่ให้คำแนะนำว่าเพียงพอต่อการตัดสินใจหรือไม่ รวมถึงราคาเป้าหมายเหล่านั้น มีการตั้งเป้าหมายสูงหรือต่ำกว่าความเป็นจริงมากเกินไปหรือเปล่า จากราคาเป้าหมายสูงสุด ต่ำสุด ค่ามัธยฐาน และ ค่าเฉลี่ย