Download ที่นี่ i-chart30 301006.pdf (174.89 KB 27.10.2006 18:11)
+ หุ้นที่เกิดสัญญาณ Up Trend day1 คือ ไม่มี
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ Down Trend day1 คือ BAY, ITV
* หุ้นที่น่าจับตา คือ ITD, ADVANC, CPF อาจเกิดสัญญาณDowntrend ในระยะใกล้นี้ หากอ่อนตัวต่อเนื่อง
ภาพรวมการลงทุน ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5วันเป็นครั้งแรกในรอบ 16วัน หรือกว่า สามสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเส้นแนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 722จุด ในขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศ เริ่มอ่อนตัวให้เห็นบ้างแล้วดังเช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงค์โปร์ เกาหลี ไต้หวัน รวมถึงตลาดหุ้นในยุโรป แต่อย่างไรก็ดีตลาดหุ้นดาวโจนส์และแนสแดก ยังเดินหน้าปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
เราเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังคงเป็นลักษณะพักฐาน เขาสู่เส้นค่าเฉลี่ย 10วัน โดยปริมาณการซื้อขายระหว่างวัน ยังถือว่ามีปริมาณเพียงเล็กน้อย ในวันศุกร์นี้ ซึ่งแรงขายส่วนใหญ่ เกิดจากหุ้นขนาดใหญ่หลังจากมีการรับข่าวผลประกอบการในไตรมาส3 นี้ ซึ่งได้แก่หุ้นในกลุ่มธนาคาร รวมถึงกลุ่มพลังงานที่มีการประกาศผลประกอบการบางส่วนออกมาบ้างแล้ว
ประเด็นที่น่าจับตา
1.สัญญาณค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องติดต่อกันเป็นวันที่ 4ทำสถิติใหม่ที่ 36.87บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่อย่างไรก็ดีเราเชื่อว่าเงินบาทอาจจะมีการดีดกลับได้ในช่วงนี้ หากดูมุมมองทางเทคนิค รวมถึงสัญญาณการแข็งค่าของดัชนีค่าเงินดอลลาร์ให้เห็นบ้างแล้ว โดยเราเชื่อว่า แนวต้านสำคัญ คือไม่น่าจะแข็งค่าเกิน 36.7บาท
2.ราคาน้ำมันโลกวานนี้ อ่อนตัวกลับเข้าสู่ระดับ 60 ดอลลาร์อีกครั้ง หลังจากดีดตัวขึ้นแรงกว่า2 เหรียญ ในวันก่อนที่ 61.5ดอลลาร์ต่อบาเรล อย่างไรก็ดี เรายังคงต้องเฝ้าจับตาการปรับลดการผลิตน้ำมันจากกลุ่มโอเปก ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ที่จะมีการลดการผลิต 1.2ล้านบาเรล ต่อวัน ว่าจะมีผลกระทบต่อราคาน้ำมันโลกเช่นไร ในสัปดาห์หน้านี้
3.ในช่วงสัปดาห์หน้านี้ อาจจะมีการเก็งกำไรที่คึกคักขึ้นได้อีกครั้ง เนื่องจากอยู่ในช่วงการประกาศผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 โดยบริษัทส่วนใหญ่จะเริ่มประกาศใน สัปดาห์หน้านี้
กลยุทธ์การลงทุน ให้เฝ้าติดตามตาราง i-chart30 อย่างระมัดระวังเพราะเริ่มมีสัญญาณ Downtrend ให้เห็นบ้างแล้ว โดยมีหุ้นอยู่ใน Down trend อีก 2ตัว เพิ่มเป็น8ตัว จากหุ้นทั้งหมด 30ตัว ซึ่งจะเห็นว่า SET ก็อ่อนตัวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5วันแล้วเช่นกัน ดังนั้น ท่านนักลงทุนอาจจะทำกำไรบางส่วน เมื่อหุ้นต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5วัน และอีกส่วนหนึ่งที่ต่ำกว่าเส้น 10วัน โดยให้ขายทั้งหมดเมื่อเกิดสัญญาณ SMA Cross เป็น - หรือ Downtrend ในวันแรก
คําแนะนําการลงทุนใน i-chart 30 นั้น เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลตามสัญญานทางเทคนิค ด้วยการบอกสัญญาน หรือทิศทางแนวโน้มของราคาหุ้น ว่าแต่ละสัญญาน มีการปรับตัวขึ้นและปรับลงเช่นใด ซึ่งจะมีคำแนะนำสำหรับการบอกช่วงเวลาที่เกิดสัญญานแนวโน้มขาขึ้นและสัญญาณแนวโน้มขาลง โดยใช้ราคาปิดของสิ้นสุดวัน มาเป็นตัวกำหนด รวมทั้งการบอกจำนวนวันที่เกิดสัญญานและการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้น ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจ ในการวิเคราะห์การลงทุน
คำนิยามและความหมาย
1) Stock = คือหุ้นที่เลือกมาจาก i-chart model โดยเน้นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางตลาดสูง มีความนิยม มีสภาพคล่องและ สามารถประกอบใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบ i-chart30ได้
2) Last Trade (Close price, Change price, % change) = ราคาปิดของวันก่อน, การเปลี่ยนแปลงของราคา และเปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลง
3) Volume Monitor (Volume,Volume average 5 day) = ปริมาณการซื้อขายของจำนวนหุ้น, ปริมาณการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยใน5วันที่ผ่านมา โดยเครื่องหมาย(+,-) เป็นการบอกว่ามีปริมาณการซื้อขายหุ้นวันนั้นมากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย5วัน ***(จำนวนเต็มต้องคูณด้วย 1,000หุ้น) 4) Momentum Play (Simple Moving Average 5 days[sma 5days], Simple Moving Average 10 days [Sma 10days],Price Over5 days,Price Over10 days ,Sma cross, MACD cross, Bullish or Bearish) = สัญญานทางเทคนิคที่บอกทิศทางของหุ้นว่ามีแนวโน้มขึ้น (+)หรือลง(-) อย่างไร โดยจะมีการเรียงสัญญาณทางเทคนิคตาม ความไวของสัญญาณ ตั้งแต่ Price over 5d. หรือ 10d.ราคาปิดที่มากกว่าราคาเฉลี่ย 5วัน หรือ10วัน สัญญานเป็น(+) หมายถึงแนวโน้มขึ้น , SMA cross ราคาเฉลี่ย 5วันสูงกว่าราคาเฉลี่ย10วัน บอกถึงทิศทางขาขึ้น สัญญานเป็น+ , ส่วนสัญญาน MACD ที่เป็น+ เกิดจากค่าของเส้น MACD Line มากกว่าค่าของ Signal Line, และค่าMACD Line ที่มากกว่าศูนย์บอกถึงสภาวะหุ้นตัวนั้นว่าเป็นสภาวะกระทิง (Bullish) หรือสภาวะหมี (Bearish) หากค่าต่ำกว่าศูนย์
5) Action and Recommend = Trend (Up and Down) บอกถึงสัญญาณแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง, จำนวนวันที่เกิดสัญญาณ Day , Price action ราคาปิดของวันก่อนเกิดสัญญาณที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง และ % change เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคานับตั้งแต่ที่เริ่มเกิดสัญญาน 6) 52-weeks Range = ช่วงราคาที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
หมายเหตุ รายงานฉบับนี้จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน แต่มิได้มีวัตถุประสงค์จะชี้นําหรือชักชวนให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ระบุในรายงาน ผู้จัดทําได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ใช้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่ไม่อาจรับรองถึงความสมบูรณ์หรือความถูกต้องได้ ทั้งนี้ ข้อมูลและความเห็นต่างๆ ในรายงานอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณ และโปรดศึกษาข้อมูลของบริษัทผู้ ออกหลักทรัพย์และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้จัดทําจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว