Download ที่นี่ i-chart30 250906.pdf (119.54 KB 22.09.2006 22:54)
+ หุ้นที่เกิดสัญญาณ Up Trend day1 คือ ไม่มี
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ Down Trend day1 รวมทั้งหมด 10 ตัวคือ ADVANC, AOT, ASP, ITD, KEST, LH, TMB, TOP, TPIPL, TRUE
* หุ้นที่น่าจับตา คือ SET, SET50, TTA, SPALI, ZMICO, SCIB, BAY ซึ่งหุ้นเหล่านี้อาจเกิดสัญญาณ Downtrend ในระยะใกล้นี้หากปรับตัวลงต่อ
ส่วนหุ้นที่ ทำจุดต่ำสุดใหม่ อาจปรับตัวลงต่อเนื่องได้แก่ CPF, TT&T, SATTEL, TPIPL
ภาพรวมการลงทุน
ตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ถือว่าเป็นสัปดาห์ แห่งประวัติศาสตร์ก็ว่าได้ เพราะถือ ว่าหุ้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง อย่างไม่เคยมีมาก่อน หลังจากได้มีการปฎิรูปทางการเมือง และอำนาจทางการเมืองของรัฐบาลทักษิณ ทีหมดไป ส่งผลให้หุ้นที่เกี่ยวข้องทางการเมือง ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงทั้งสิ้น รวมถึงหุ้นของอดีตนายก ก็เช่นกัน และส่วนใหญ่ปรับตัวลงกว่า 10% และแม้กระทั้งทำจุดต่ำสุดใหม่แบบหาแนวรับไม่เจอ เลยทีเดียว ซึ่งได้แก่
1.หุ้นกลุ่มเครือญาติและนายกที่ปรับลงแรง ITV, SATTEL, WIN , MLINK, SC, TRAF ซึ่งส่วนใหญ่ทำ new low แทบทั้งสิ้น
2. หุ้น นักการเมือง และพวกพ้อง GEN, EMC, EWC, SOLAR, POWER, MCOT, BNT, KMC, IEC
3. หุ้นกลุ่มธุรกิจที่อาศัย นโยบาย หรือโครงการของรัฐ ได้แก่ ITD, STEC, CPF, TRUE
ดังนั้น คงต้องแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยง หุ้นดังกล่าว ณ ช่วงนี้ เพราะแรงขายยังคงมีต่อเนื่อง และหากทำจุดต่ำสุดใหม่เรื่อย ก็ไม่รู้ว่าจะหยุดที่ไหน เท่าไหร่/ แต่ถ้านักลงทุนท่านใดจะมองเป็นโอกาส ซื้อสวน แนะนำว่าให้ดูวอลุ่มว่าแรงขายหมดหรือยัง และคงต้องดูสัญญาณทางเทคนิค ว่าจะกลับมาแข็งแรงเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นเช่น sma 5 วันได้ก่อนหรือไม่ หรือ RSI ต้องต่ำมากๆและ ถ้าให้เกิดเป็น Bullish Divergence ขึ้นก่อนแล้วค่อยซื้อ จึงจะถือว่าปลอดภัยครับ
ส่วนท่านใดอยากดูรายละเอียดถึงชื่อคนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอดีตนายกทักษิณ ซึ่งหากเขาเหล่านั้นมีการสัมพันธ์กับหุ้นใดๆ นั้นควรระมัดระวัง ครับ เพราะอาจถูกตรวจสอบ และไม่โดดเด่นดังเดิม ก็ต้องดูรายละเอียดต่อได้ในเวปนี้ ครับ http://www.akeyuth.com/ShowNews.php?Link=News/SetIndex/2006-09-20/16-25.htm
ประเด็นที่น่าจับตา
- วันพฤหัสที่ 21 กันยายน มีมูลค่าการซื้อขายที่สูงที่สุดในรอบ5เดือน นับแต่วันที่อดีตนายกทักษิณ ประกาศเว้นวรรคทางการเมือง ในวันที่ 5 เมษายน หุ้นขึ้นกว่า 25จุด ที่ 51,000ล้านบาท แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้หุ้น ได้มีการปรับตัวลดลงกว่า 30จุด ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นมาจากจุดต่ำสุด กว่า20จุด เมื่อเทียบกับจุดต่ำสุด โดยมีปริมาณการซื้อขายถืง 43,000ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในวันพฤหัส ที่ 21 กันยา ด้วยมูลค่าสูงที่สุดในรอบ 5 เดือน ที่ 7,391ล้านบาท เมื่อเทียบกับจุดสูงสุดในคราวก่อน คือ วันที่ 5 เมษายน +14,396 ล้านบาท
- เมื่อดูในภาพด้านล่างจะเห็นว่าหลังจากดีใจ ไปแล้ว จะมีเงินเข้ามาซื้อหุ้นเป็นจำนวนมาก ในช่วงก่อนตอนเว้นวรรค คือเดือนเมษายน นั้น และหลังจากแรงซื้อในวันแรก หุ้นก็มีการพักตัวกว่า 1 สัปดาห์ ซึ่งหลังจากนั้น ถึงจะประคอง sideway ขึ้นต่อ อีก 2 อาทิตย์

- ค่าเงินบาทยังดู แข็งค่า แม้ว่าจะอ่อนตัวในช่วงการเกิดการรัฐประหาร แต่ ณ 3 วันที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ ว่านักลงทุนมิได้กังวลหรือ ย้ายเงินลงทุนออกแต่อย่างได เพราะบาทยังคงรักษาการแข็งค่าอยู่ได้
กลยุทธ์การลงทุน
จะเห็นได้ว่าตลาดปรับตัวลดลง ในหุ้นกลุ่มการเมือง เท่านั้น ในขณะที่หุ้นขนาดใหญ่ และพื้นฐานดี มีการปรับตัวเล็กน้อย ตามสภาวะตลาด โดยเราเชื่อว่าแรงซื้อในหุ้นกลุ่มธนาคาร และหุ้นขนาดใหญ่ เช่น BBL , SCC ที่มีแรงซื้อทั้งในกระดานต่างประเทศ และ NVDR ที่ยังมีการสะสมอยู่มากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา จะยังไม่สามารถขายออกได้ ดังนั้น ผมว่ากองทุนเหล่านี้ จะถือหุ้นและไม่ยอมขายหุ้นเหล่านี้ในช่วงนี้ ส่วนบรรยากาศโดยรวมหากตลาดหุ้นไม่มีปัจจัยบวกใดๆ อาจทำให้หุ้นโดยรวม อาจอ่อนตัว ออกด้านข้างในช่วง 1-2 สัปดาห์ ก่อนมีความชัดเจนใน นายก คนใหม่
คําแนะนําการลงทุนใน i-chart 30 นั้น เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลตามสัญญานทางเทคนิค ด้วยการบอกสัญญาน หรือทิศทางแนวโน้มของราคาหุ้น ว่าแต่ละสัญญาน มีการปรับตัวขึ้นและปรับลงเช่นใด ซึ่งจะมีคำแนะนำสำหรับการบอกช่วงเวลาที่เกิดสัญญานแนวโน้มขาขึ้นและสัญญาณแนวโน้มขาลง โดยใช้ราคาปิดของสิ้นสุดวัน มาเป็นตัวกำหนด รวมทั้งการบอกจำนวนวันที่เกิดสัญญานและการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้น ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจ ในการวิเคราะห์การลงทุน
คำนิยามและความหมาย
1) Stock = คือหุ้นที่เลือกมาจาก i-chart model โดยเน้นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางตลาดสูง มีความนิยม มีสภาพคล่องและ สามารถประกอบใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบ i-chart30ได้
2) Last Trade (Close price, Change price, % change) = ราคาปิดของวันก่อน, การเปลี่ยนแปลงของราคา และเปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลง
3) Volume Monitor (Volume,Volume average 5 day) = ปริมาณการซื้อขายของจำนวนหุ้น, ปริมาณการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยใน5วันที่ผ่านมา โดยเครื่องหมาย(+,-) เป็นการบอกว่ามีปริมาณการซื้อขายหุ้นวันนั้นมากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย5วัน ***(จำนวนเต็มต้องคูณด้วย 1,000หุ้น) 4) Momentum Play (Simple Moving Average 5 days[sma 5days], Simple Moving Average 10 days [Sma 10days],Price Over5 days,Price Over10 days ,Sma cross, MACD cross, Bullish or Bearish) = สัญญานทางเทคนิคที่บอกทิศทางของหุ้นว่ามีแนวโน้มขึ้น (+)หรือลง(-) อย่างไร โดยจะมีการเรียงสัญญาณทางเทคนิคตาม ความไวของสัญญาณ ตั้งแต่ Price over 5d. หรือ 10d.ราคาปิดที่มากกว่าราคาเฉลี่ย 5วัน หรือ10วัน สัญญานเป็น(+) หมายถึงแนวโน้มขึ้น , SMA cross ราคาเฉลี่ย 5วันสูงกว่าราคาเฉลี่ย10วัน บอกถึงทิศทางขาขึ้น สัญญานเป็น+ , ส่วนสัญญาน MACD ที่เป็น+ เกิดจากค่าของเส้น MACD Line มากกว่าค่าของ Signal Line, และค่าMACD Line ที่มากกว่าศูนย์บอกถึงสภาวะหุ้นตัวนั้นว่าเป็นสภาวะกระทิง (Bullish) หรือสภาวะหมี (Bearish) หากค่าต่ำกว่าศูนย์
5) Action and Recommend = Trend (Up and Down) บอกถึงสัญญาณแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง, จำนวนวันที่เกิดสัญญาณ Day , Price action ราคาปิดของวันก่อนเกิดสัญญาณที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง และ % change เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคานับตั้งแต่ที่เริ่มเกิดสัญญาน 6) 52-weeks Range = ช่วงราคาที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
หมายเหตุ รายงานฉบับนี้จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน แต่มิได้มีวัตถุประสงค์จะชี้นําหรือชักชวนให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ระบุในรายงาน ผู้จัดทําได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ใช้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่ไม่อาจรับรองถึงความสมบูรณ์หรือความถูกต้องได้ ทั้งนี้ ข้อมูลและความเห็นต่างๆ ในรายงานอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณ และโปรดศึกษาข้อมูลของบริษัทผู้ ออกหลักทรัพย์และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้จัดทําจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว