Download ที่นี่ i-chart30 180906.pdf (119.35 KB 15.09.2006 22:46)
+ หุ้นที่เกิดสัญญาณ Up Trend day1 คือ ไม่มี
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ Down Trend day1 คือ ไม่มี
* หุ้นที่น่าจับตา คือ ATC, TOP อาจเกิดสัญญาณลบเป็นDowntrend หากปรับตัวลงต่อ
ภาพรวมการลงทุน แม้ตลาดหุ้นไทยตอนเช้าจะปรับตัวขึ้นบวกเพียงเล็กน้อย แต่ท้ายที่สูดก็ปรับตัวลงปิดที่ระดับใกล้จุดต่ำสุดของวันบริเวณ 700จุด โดยจะเห็นว่าตลาดยังคงแกว่งตัวในช่วงแคบ 5จุด ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ไม่น้อยเลยทีเดียว กว่า 16,000ล้านบาท โดยความกังวลได้กลับมาที่กลุ่มพลังงานอีกครั้งหลังจากราคาน้ำมันยังไหลลงเรื่อย แต่อย่างไรก็ดีตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นบวก ในขณะที่คืนวันศุกร์นี้จะมีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐอเมริกา ว่าจะมีทิศทางอย่างไร ซึ่งจะส่งผลต่อการประชุมของเฟดในสัปดาห์หน้าเช่นกัน
ประเด็นที่น่าจับตา
1.นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิเป็นวันที่3 ด้วยมูลค่าการซื้อสุทธิ 1,187ล้านบาท
2.ราคาน้ำมันยังปรับตัวลดลงเรื่อยๆ แม้มีอัตราส่วนการปรับตัวลง ที่น้อยกว่าเดิมก็ตาม โดยปัจจุบันได้สร้างจุดต่ำสุดใหม่อีกครั้งที่บริเวณ 63ดอลลาร์ต่อบาเรล ซึ่งอาจส่งผลเชิงลบให้กับดัชนีอีกครั้งโดยจะเห็นแรงขายจากหุ้น PTT, TOP, PTTEP, RRC
3.ค่าเงินบาท ได้ปรับตัวแข็งค่าขึ้นทดสอบแนวรับเดิม ที่บริเวณ 37.2บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีโอกาสที่เงินบาทไทยรอบนี้จะแข็งค่ากว่า 37.2 ได้ เหตุเพราะ จะเห็นได้ว่าเงินทุนต่างชาติเริ่มไหล เข้ามาซื้อหุ้นสุทธิอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน
ยังไม่มีสัญญาณใดใดที่ชัดเจนจากตลาดหุ้น โดยวานนี้หุ้นในพอร์ต i-chart30 ยังคงสัญญาณเดิม ซึ่งเรายังคงรอการพักตัวของ SET จะหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 5และ10วันที่บริเวณ 695จุด หรือไม่ ซึ่งหากหุ้นไม่ปรับลงกว่านี้ ในสัปดาห์หน้า ก็จะเกิดสัญญาณเชิงบวกได้อีกเช่นกัน หาก SMA cross ขึ้นอีกครั้ง
คําแนะนําการลงทุนใน i-chart 30 นั้น เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลตามสัญญานทางเทคนิค ด้วยการบอกสัญญาน หรือทิศทางแนวโน้มของราคาหุ้น ว่าแต่ละสัญญาน มีการปรับตัวขึ้นและปรับลงเช่นใด ซึ่งจะมีคำแนะนำสำหรับการบอกช่วงเวลาที่เกิดสัญญานแนวโน้มขาขึ้นและสัญญาณแนวโน้มขาลง โดยใช้ราคาปิดของสิ้นสุดวัน มาเป็นตัวกำหนด รวมทั้งการบอกจำนวนวันที่เกิดสัญญานและการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้น ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจ ในการวิเคราะห์การลงทุน
คำนิยามและความหมาย
1) Stock = คือหุ้นที่เลือกมาจาก i-chart model โดยเน้นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางตลาดสูง มีความนิยม มีสภาพคล่องและ สามารถประกอบใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบ i-chart30ได้
2) Last Trade (Close price, Change price, % change) = ราคาปิดของวันก่อน, การเปลี่ยนแปลงของราคา และเปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลง
3) Volume Monitor (Volume,Volume average 5 day) = ปริมาณการซื้อขายของจำนวนหุ้น, ปริมาณการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยใน5วันที่ผ่านมา โดยเครื่องหมาย(+,-) เป็นการบอกว่ามีปริมาณการซื้อขายหุ้นวันนั้นมากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย5วัน ***(จำนวนเต็มต้องคูณด้วย 1,000หุ้น) 4) Momentum Play (Simple Moving Average 5 days[sma 5days], Simple Moving Average 10 days [Sma 10days],Price Over5 days,Price Over10 days ,Sma cross, MACD cross, Bullish or Bearish) = สัญญานทางเทคนิคที่บอกทิศทางของหุ้นว่ามีแนวโน้มขึ้น (+)หรือลง(-) อย่างไร โดยจะมีการเรียงสัญญาณทางเทคนิคตาม ความไวของสัญญาณ ตั้งแต่ Price over 5d. หรือ 10d.ราคาปิดที่มากกว่าราคาเฉลี่ย 5วัน หรือ10วัน สัญญานเป็น(+) หมายถึงแนวโน้มขึ้น , SMA cross ราคาเฉลี่ย 5วันสูงกว่าราคาเฉลี่ย10วัน บอกถึงทิศทางขาขึ้น สัญญานเป็น+ , ส่วนสัญญาน MACD ที่เป็น+ เกิดจากค่าของเส้น MACD Line มากกว่าค่าของ Signal Line, และค่าMACD Line ที่มากกว่าศูนย์บอกถึงสภาวะหุ้นตัวนั้นว่าเป็นสภาวะกระทิง (Bullish) หรือสภาวะหมี (Bearish) หากค่าต่ำกว่าศูนย์
5) Action and Recommend = Trend (Up and Down) บอกถึงสัญญาณแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง, จำนวนวันที่เกิดสัญญาณ Day , Price action ราคาปิดของวันก่อนเกิดสัญญาณที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง และ % change เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคานับตั้งแต่ที่เริ่มเกิดสัญญาน 6) 52-weeks Range = ช่วงราคาที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
หมายเหตุ รายงานฉบับนี้จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน แต่มิได้มีวัตถุประสงค์จะชี้นําหรือชักชวนให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ระบุในรายงาน ผู้จัดทําได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ใช้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่ไม่อาจรับรองถึงความสมบูรณ์หรือความถูกต้องได้ ทั้งนี้ ข้อมูลและความเห็นต่างๆ ในรายงานอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณ และโปรดศึกษาข้อมูลของบริษัทผู้ ออกหลักทรัพย์และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้จัดทําจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว