Download ที่นี่ i-chart30 130906.pdf (119.62 KB 12.09.2006 22:33)
+ หุ้นที่เกิดสัญญาณ Up Trend day1 คือ BECL
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ Down Trend day1 คือ TMB
* หุ้นที่น่าจับตา คือ PTTEP และ BANPU แม้จะอยู่ในช่วง Downtrend แต่ยังคงมีแรงขายต่อเนื่อง โดยสังเกตจาก Volume ขายยังคงมีอยู่มากแนะนำหลีกเลี่ยง
ภาพรวมการลงทุน ตลาดหุ้นไทยยังคงแกว่งตัวอย่างไร้ทิศทาง ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานยังคงเป็นหุ้นที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด โดยหุ้น PTTEP และBANPU ปรับตัวลดลงด้วยปริมาณการขายที่ยังมีอยู่มากขณะ ที TOP เริ่มแกว่งตัวออกด้านข้าง แต่ที่สำคัญคือหุ้น PTT ที่สามารถปรับตัวขึ้นเป็นแท่งเขียว แม้จะปิดที่ระดับเดียวกับราคาปิดเมื่อวานก่อน ซึ่งแรงซื้อกลับของ PTT ในบริเวณ 208-210 ยังคงเป็นแนวรับสำคัญ
ประเด็นที่น่าจับตา
1.ราคาน้ำมันโลกเริ่มมีสัญญาณการกลับตัวที่ระดับ 65ดอลลาร์ต่อบาเรล ซึ่งอาจจะส่งผลเชิงบวกให้หุ้นกลุ่มพลังงาน ดีดกลับได้ในช่วงนี้
2.นักลงทุนต่างชาติมีการขายหุ้นมากขึ้น โดยมีการขายสุทธิที่ 883ล้านบาท
3.หุ้นขนาดเล็กและหุ้นกลุ่มรับเหมายังคงเป็นหุ้นที่โดดเด่นในการ เลือกเล่นเก็งกำไรสำหรับนักลงทุนในช่วงนี้
กลยุทธ์การลงทุน
จะเห็นได้ว่า แม้ตลาดหุ้น ที่ไม่แน่นอนเช่นนี้ การดูตารางi-chart จะทำให้คุณหนักแน่นในการลงทุนมากขึ้น เพราะ หากมิได้ดูตารางi-chart ก็คงจะหวั่นไหว ว่าควรขายหุ้น หรือจะถือไว้ก่อนดี แต่หากเมื่อติดตามการเคลื่อนตัวของสัญญาณ momentum play จะเห็นว่าหุ้น บางตัวเช่นกลุ่มธนาคารและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ยังคงรักษาระดับราคาไว้ได้เป็นอย่างดี และยังคงรักษาระดับสัญญาณ เป็นบวก ได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าสภาวะตลาดหุ้นที่ซบเซา แต่ก็ยังมีหุ้นที่แข็งแรงกว่าตลาด ดังนั้นแม้ SET ,SET50 จะเกิดสัญญาณขายเป็นวันที่สอง หากหุ้นตัวใดยังไม่ปรับตัวเป็น DownTrend ก็อดทนถือกันไปก่อนนะครับ
คําแนะนําการลงทุนใน i-chart 30 นั้น เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลตามสัญญานทางเทคนิค ด้วยการบอกสัญญาน หรือทิศทางแนวโน้มของราคาหุ้น ว่าแต่ละสัญญาน มีการปรับตัวขึ้นและปรับลงเช่นใด ซึ่งจะมีคำแนะนำสำหรับการบอกช่วงเวลาที่เกิดสัญญานแนวโน้มขาขึ้นและสัญญาณแนวโน้มขาลง โดยใช้ราคาปิดของสิ้นสุดวัน มาเป็นตัวกำหนด รวมทั้งการบอกจำนวนวันที่เกิดสัญญานและการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้น ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจ ในการวิเคราะห์การลงทุน
คำนิยามและความหมาย
1) Stock = คือหุ้นที่เลือกมาจาก i-chart model โดยเน้นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางตลาดสูง มีความนิยม มีสภาพคล่องและ สามารถประกอบใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบ i-chart30ได้
2) Last Trade (Close price, Change price, % change) = ราคาปิดของวันก่อน, การเปลี่ยนแปลงของราคา และเปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลง
3) Volume Monitor (Volume,Volume average 5 day) = ปริมาณการซื้อขายของจำนวนหุ้น, ปริมาณการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยใน5วันที่ผ่านมา โดยเครื่องหมาย(+,-) เป็นการบอกว่ามีปริมาณการซื้อขายหุ้นวันนั้นมากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย5วัน ***(จำนวนเต็มต้องคูณด้วย 1,000หุ้น) 4) Momentum Play (Simple Moving Average 5 days[sma 5days], Simple Moving Average 10 days [Sma 10days],Price Over5 days,Price Over10 days ,Sma cross, MACD cross, Bullish or Bearish) = สัญญานทางเทคนิคที่บอกทิศทางของหุ้นว่ามีแนวโน้มขึ้น (+)หรือลง(-) อย่างไร โดยจะมีการเรียงสัญญาณทางเทคนิคตาม ความไวของสัญญาณ ตั้งแต่ Price over 5d. หรือ 10d.ราคาปิดที่มากกว่าราคาเฉลี่ย 5วัน หรือ10วัน สัญญานเป็น(+) หมายถึงแนวโน้มขึ้น , SMA cross ราคาเฉลี่ย 5วันสูงกว่าราคาเฉลี่ย10วัน บอกถึงทิศทางขาขึ้น สัญญานเป็น+ , ส่วนสัญญาน MACD ที่เป็น+ เกิดจากค่าของเส้น MACD Line มากกว่าค่าของ Signal Line, และค่าMACD Line ที่มากกว่าศูนย์บอกถึงสภาวะหุ้นตัวนั้นว่าเป็นสภาวะกระทิง (Bullish) หรือสภาวะหมี (Bearish) หากค่าต่ำกว่าศูนย์
5) Action and Recommend = Trend (Up and Down) บอกถึงสัญญาณแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง, จำนวนวันที่เกิดสัญญาณ Day , Price action ราคาปิดของวันก่อนเกิดสัญญาณที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง และ % change เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคานับตั้งแต่ที่เริ่มเกิดสัญญาน 6) 52-weeks Range = ช่วงราคาที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
หมายเหตุ รายงานฉบับนี้จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน แต่มิได้มีวัตถุประสงค์จะชี้นําหรือชักชวนให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ระบุในรายงาน ผู้จัดทําได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ใช้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่ไม่อาจรับรองถึงความสมบูรณ์หรือความถูกต้องได้ ทั้งนี้ ข้อมูลและความเห็นต่างๆ ในรายงานอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณ และโปรดศึกษาข้อมูลของบริษัทผู้ ออกหลักทรัพย์และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้จัดทําจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว