Download ที่นี่ i-chart30 060906.pdf (119.29 KB 05.09.2006 22:08)
+ หุ้นที่เกิดสัญญาณ Up Trend day1 คือ TPIPL
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ Down Trend day1 คือ PTTEP
* หุ้นที่น่าจับตา หุ้นSCIB เริ่มเห็นแรงขายออกมาบ้างแล้วจากสัญญาณการอ่อนตัวต่ำกว่า ค่าเฉลี่ย5วัน หรือ SMA5 (-) ซึ่งนับเป็นการขึ้นสัญญาณ Uptrend กว่า 23วัน ด้วยการ+17.65% ดังนั้นอาจจะใช้กลยุทธ์ทำกำไรบางส่วน หากเริ่มมีการอ่อนตัวและจะแนะนำขายทั้งหมดอีกครั้ง เมื่อ Momentum เป็น DownTrend
ส่วนหุ้น BANPU และ AOT เป็นหุ้นเด่นเก็งกำไร ที่อาจเกิดสัญญาณ Uptrend ได้ในเร็วนี้
ภาพรวมการลงทุน ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ปรับตัวลงในกรอบแคบเพียงเล็กน้อย ลดลง -2.43จุด ปิดที่ 701.10จุด โดยเรามองแค่เป็นการพักฐานระยะสั้น ตามสัญญานทางเทคนิคและการอ่อนตัวตามตลาดโลก โดยจะเห็นว่ามีแรงขายออกมาบ้างจากกลุ่มธนาคารที่ขึ้นแรงในวันก่อนหน้านี้ รวมถึงการขึ้นเครื่องหมายxd ของ BBL และการอ่อนตัวต่อเนื่องของหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันยังมีที่ท่าอ่อนตัวลงได้อีก ซึ่งเรามองแนวรับของ SET index น่าที่จะไม่ควรอ่อนตัวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย5วัน หรือ696จุด ที่ยังคงรักษาระดับความเป็นแนวโน้มขาขึ้นได้ต่อเนื่อง
ประเด็นที่น่าจับตา
1.แม้ดัชนีจะอ่อนตัวลงแต่ยังไม่มีแรงขาย ที่มีน้ำหนักชัดเจนอย่างไร ด้งนั้นเราเชื่อว่าเป็นแค่การพักตัวทางเทคนิคระยะสั้น ด้วยวอลุ่มเพียง 9 พันกว่าล้านบาทถือว่าน้อยมาก
2.ทองคำเริ่มทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งในรอบ 3สัปดาห์ที่ผ่านมา ปัจจุบันอยู่ที่ 638 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่ราคาน้ำมันยังคงทรงตัว และดูจะอ่อนตัวลงอีก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเงินทุนของ Hedge Fund กำลังมุ่งหน้าไปยังตลาดทองคำและตลาดเงินตลาดทุนอีกครั้ง หากน้ำมันยังดูอ่อน และไม่น่าสนใจอย่างในช่วงนี้
3.วันนี้จะมีการประกาศการประชุมคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน ซึ่งคาดว่ายังคงไม่มีการปรับอัตราดอกเบี้ย RP 14วันแต่อย่างใด และยังคงระดับไว้ที่ 5% ซึ่งคาดว่าอาจจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ให้คึกคักได้
กลยุทธ์การลงทุน
สัญญาณจากตาราง i-chart30 ยังคงทิศทางในแนวโน้มขาขึ้น ตราบเท่าที่ SET indexไม่หลุด 693จุด ระดับ SMA10 ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ โดยเรายังคงให้น้ำหนักในหุ้นกลุ่มธนาคารและหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งถ้าตลาดจะคึกคักจริงรอบนี้ หุ้นหลักทรัพย์ก็คงจะแสดงสีสรรด้วยาการขยับนำ ให้เห็นในรอบนี้อย่างแน่นอนครับ
คําแนะนําการลงทุนใน i-chart 30 นั้น เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลตามสัญญานทางเทคนิค ด้วยการบอกสัญญาน หรือทิศทางแนวโน้มของราคาหุ้น ว่าแต่ละสัญญาน มีการปรับตัวขึ้นและปรับลงเช่นใด ซึ่งจะมีคำแนะนำสำหรับการบอกช่วงเวลาที่เกิดสัญญานแนวโน้มขาขึ้นและสัญญาณแนวโน้มขาลง โดยใช้ราคาปิดของสิ้นสุดวัน มาเป็นตัวกำหนด รวมทั้งการบอกจำนวนวันที่เกิดสัญญานและการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้น ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจ ในการวิเคราะห์การลงทุน
คำนิยามและความหมาย
1) Stock = คือหุ้นที่เลือกมาจาก i-chart model โดยเน้นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางตลาดสูง มีความนิยม มีสภาพคล่องและ สามารถประกอบใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบ i-chart30ได้
2) Last Trade (Close price, Change price, % change) = ราคาปิดของวันก่อน, การเปลี่ยนแปลงของราคา และเปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลง
3) Volume Monitor (Volume,Volume average 5 day) = ปริมาณการซื้อขายของจำนวนหุ้น, ปริมาณการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยใน5วันที่ผ่านมา โดยเครื่องหมาย(+,-) เป็นการบอกว่ามีปริมาณการซื้อขายหุ้นวันนั้นมากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย5วัน ***(จำนวนเต็มต้องคูณด้วย 1,000หุ้น) 4) Momentum Play (Simple Moving Average 5 days[sma 5days], Simple Moving Average 10 days [Sma 10days],Price Over5 days,Price Over10 days ,Sma cross, MACD cross, Bullish or Bearish) = สัญญานทางเทคนิคที่บอกทิศทางของหุ้นว่ามีแนวโน้มขึ้น (+)หรือลง(-) อย่างไร โดยจะมีการเรียงสัญญาณทางเทคนิคตาม ความไวของสัญญาณ ตั้งแต่ Price over 5d. หรือ 10d.ราคาปิดที่มากกว่าราคาเฉลี่ย 5วัน หรือ10วัน สัญญานเป็น(+) หมายถึงแนวโน้มขึ้น , SMA cross ราคาเฉลี่ย 5วันสูงกว่าราคาเฉลี่ย10วัน บอกถึงทิศทางขาขึ้น สัญญานเป็น+ , ส่วนสัญญาน MACD ที่เป็น+ เกิดจากค่าของเส้น MACD Line มากกว่าค่าของ Signal Line, และค่าMACD Line ที่มากกว่าศูนย์บอกถึงสภาวะหุ้นตัวนั้นว่าเป็นสภาวะกระทิง (Bullish) หรือสภาวะหมี (Bearish) หากค่าต่ำกว่าศูนย์
5) Action and Recommend = Trend (Up and Down) บอกถึงสัญญาณแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง, จำนวนวันที่เกิดสัญญาณ Day , Price action ราคาปิดของวันก่อนเกิดสัญญาณที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง และ % change เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคานับตั้งแต่ที่เริ่มเกิดสัญญาน 6) 52-weeks Range = ช่วงราคาที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
หมายเหตุ รายงานฉบับนี้จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน แต่มิได้มีวัตถุประสงค์จะชี้นําหรือชักชวนให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ระบุในรายงาน ผู้จัดทําได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ใช้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่ไม่อาจรับรองถึงความสมบูรณ์หรือความถูกต้องได้ ทั้งนี้ ข้อมูลและความเห็นต่างๆ ในรายงานอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณ และโปรดศึกษาข้อมูลของบริษัทผู้ ออกหลักทรัพย์และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้จัดทําจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว