Download ที่นี่ i-chart30 050906.pdf (119.17 KB 04.09.2006 23:19)
+ หุ้นที่เกิดสัญญาณ Up Trend day1 คือ ADVANC, ASP, BBL, ITD, KBANK, KTB, SCB ซึ่งนับเป็นหุ้นเกิดสัญญาณขึ้นใหม่กว่า 7ตัว โดยส่วนใหญ่เป็นหุ้นธนาคาร
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ Down Trend day1 คือ ไม่มี
* หุ้นที่น่าจับตา อาจเกิดสัญญาณ Uptrend พร้อมรอการกลับตัว ได้แก่ TOP, AOT , TPIPL
ภาพรวมการลงทุน ในที่สุดตลาดหุ้นไทยก็สามารถปรับตัวขึ้นเหนือ 700จุดอีกครั้ง เป็นดังที่เราคาดการณ์ จาก สัญญาณ i-chart30 ที่ขึ้นเครื่องหมาย Uptrend ในวันก่อน ซึ่งจะเห็นว่าแรงซื้อยังคงมีต่อเนื่องจากหุ้นขนาดใหญ่ โดยเห็นได้จากหุ้นกลุ่มธนาคาร ได้แก่ SCB, BBL, KBANK, SCIB, KTB และหุ้นขนาดใหญ่อย่าง SCC ,ADVANC ก็ต่างปรับตัวขึ้นแรงเช่นกัน โดยปริมาณการซื้อขายในวันก็ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องที่ระดับ 11,000ล้านบาท
ประเด็นที่น่าจับตา
1.จะเห็นว่าหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากปรับตัวลงอย่างยาวนานเนื่อง ช่วงการเมืองไม่มั่นคงนับแต่ต้นปี 2549 ซึ่งจะเห็นได้จากหุ้น ITD, STEC, CK ภาพในระดับสัปดาห์เริ่มกลับมาสดใสอีกครั้ง ถือว่าควรจับตามอง
2.ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอีกครั้งทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบกว่า 3เดือน อยู่ที่ระดับ 68.30ดอลลาร์ต่อบาเรล ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงานได้ เช่น PTT, PTTEP, TOP, RRC
3.ส่วนค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าต่อเนื่องจากวันศุกร์ที่ผ่านมาอีกครั้งซึ่งมีโอกาสทดสอบแนวรับในครั้งก่อนที่ 37.30บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเรามองว่านี้คือสาเหตุสำคัญที่ จะเห็นได้ว่าต่างชาติเริ่มกลับมาซื้อหุ้นขนาดใหญ่ในช่วงนี้ จากกระดาน BigLot หรือ NVDR
กลยุทธ์การลงทุน
เรามองว่าตลาดยังคงปรับตัวไปในทิศทางบวก อย่างเต็มรูปแบบถึงแม้ว่าปริมาณการซื้อขายยังไม่คึกคักนัก และเราเชื่อว่า วอลุ่มจะกลับมาอีกครั้ง เมื่อมีความเชื่อมั่นของนักลงทุน ที่มองปัจจัยจากการเมืองเป็นบวกอีกครั้ง โดยปัจจัยการทะลุผ่านแนวต้านของดัชนีที่ 715 จุด ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในครั้งก่อน จะเป็นสัญญาณหนึ่งที่บอกของความเชื่อมั่นการขึ้นรอบใหญ่ได้
และเมื่อมองตามสัญญาณi-chart ก็ยังเชื่อว่าตลาดยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่องได้อีก โดย จะเห็นว่าวันนี้ก็มีหุ้นเกิดสัญญาณ ในตาราง i-chart30 เพิ่มขึ้นอีก7ตัว ซึ่งทำให้มีหุ้น Uptrend อยู่ในพอร์ตแล้ว กว่า22ตัวจาก 30ตัว ดังนั้นยังคงซื้อและถือหุ้นตามสัญญาณได้เลยครับ
คําแนะนําการลงทุนใน i-chart 30 นั้น เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลตามสัญญานทางเทคนิค ด้วยการบอกสัญญาน หรือทิศทางแนวโน้มของราคาหุ้น ว่าแต่ละสัญญาน มีการปรับตัวขึ้นและปรับลงเช่นใด ซึ่งจะมีคำแนะนำสำหรับการบอกช่วงเวลาที่เกิดสัญญานแนวโน้มขาขึ้นและสัญญาณแนวโน้มขาลง โดยใช้ราคาปิดของสิ้นสุดวัน มาเป็นตัวกำหนด รวมทั้งการบอกจำนวนวันที่เกิดสัญญานและการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้น ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจ ในการวิเคราะห์การลงทุน
คำนิยามและความหมาย
1) Stock = คือหุ้นที่เลือกมาจาก i-chart model โดยเน้นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางตลาดสูง มีความนิยม มีสภาพคล่องและ สามารถประกอบใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบ i-chart30ได้
2) Last Trade (Close price, Change price, % change) = ราคาปิดของวันก่อน, การเปลี่ยนแปลงของราคา และเปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลง
3) Volume Monitor (Volume,Volume average 5 day) = ปริมาณการซื้อขายของจำนวนหุ้น, ปริมาณการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยใน5วันที่ผ่านมา โดยเครื่องหมาย(+,-) เป็นการบอกว่ามีปริมาณการซื้อขายหุ้นวันนั้นมากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย5วัน ***(จำนวนเต็มต้องคูณด้วย 1,000หุ้น) 4) Momentum Play (Simple Moving Average 5 days[sma 5days], Simple Moving Average 10 days [Sma 10days],Price Over5 days,Price Over10 days ,Sma cross, MACD cross, Bullish or Bearish) = สัญญานทางเทคนิคที่บอกทิศทางของหุ้นว่ามีแนวโน้มขึ้น (+)หรือลง(-) อย่างไร โดยจะมีการเรียงสัญญาณทางเทคนิคตาม ความไวของสัญญาณ ตั้งแต่ Price over 5d. หรือ 10d.ราคาปิดที่มากกว่าราคาเฉลี่ย 5วัน หรือ10วัน สัญญานเป็น(+) หมายถึงแนวโน้มขึ้น , SMA cross ราคาเฉลี่ย 5วันสูงกว่าราคาเฉลี่ย10วัน บอกถึงทิศทางขาขึ้น สัญญานเป็น+ , ส่วนสัญญาน MACD ที่เป็น+ เกิดจากค่าของเส้น MACD Line มากกว่าค่าของ Signal Line, และค่าMACD Line ที่มากกว่าศูนย์บอกถึงสภาวะหุ้นตัวนั้นว่าเป็นสภาวะกระทิง (Bullish) หรือสภาวะหมี (Bearish) หากค่าต่ำกว่าศูนย์
5) Action and Recommend = Trend (Up and Down) บอกถึงสัญญาณแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง, จำนวนวันที่เกิดสัญญาณ Day , Price action ราคาปิดของวันก่อนเกิดสัญญาณที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง และ % change เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคานับตั้งแต่ที่เริ่มเกิดสัญญาน 6) 52-weeks Range = ช่วงราคาที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
หมายเหตุ รายงานฉบับนี้จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน แต่มิได้มีวัตถุประสงค์จะชี้นําหรือชักชวนให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ระบุในรายงาน ผู้จัดทําได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ใช้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่ไม่อาจรับรองถึงความสมบูรณ์หรือความถูกต้องได้ ทั้งนี้ ข้อมูลและความเห็นต่างๆ ในรายงานอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณ และโปรดศึกษาข้อมูลของบริษัทผู้ ออกหลักทรัพย์และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้จัดทําจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว