i-chart30 09 Aug 06
บทวิเคราะห์ ล่าสุด เชิญ Download ที่นี่ i-chart30 090806.pdf (141.70 KB 08.08.2006 20:56)
+ หุ้นที่เกิดสัญญาณ BUY DAY1 คือ BBL, KEST
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ SELL DAY1 คือ ไม่มี
* หุ้นที่น่าจับตา คือ AOTมีแนวโน้มที่จะเกิดเป็นสัญญาณ BUY ในเร็วนี้
สภาวะการลงทุน ตลาดหุ้นไทยวานนี้สามารถปรับขึ้นทะลุแนวต้าน 710จุด ปิดตัวที่ 711จุด โดยมีหุ้นกลุ่มธนาคาร สร้างรูปแบบการทะลุกรอบสามเหลี่ยม ได้แก่ BBL,KBANK, SCIB และหุ้นกลุ่มพลังงานสามารถทำจุดสูงสุดขึ้นใหม่ จะเห็นได้จากหุ้น PTT, PTTEP, RRC ซึ่งตลาดยังคงมีแนวโน้มจะปรับตัวได้ต่อ เพื่อทดสอบแนวต้าน 720จุด
ประเด็นที่น่าจับตา ค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง นับเป็นการแข็งค่าที่สุดในรอบ 3เดือนปรับทะลุแนวต้านสำคัญบริเวณ 37.8บาท ปิดที่ระดับ 37.63บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยถือว่าเป็นการแข็งค่าเพื่อเก็งกำไรก่อนการประกาศการปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งคาดว่าจะไม่มีการประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก ซึ่งส่งผลต่อเงินทุน ที่จะไหลเข้าตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ ซึ่งจะเห็นว่าหุ้นขนาดใหญ่ ในกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงานปรับขึ้นต่อเนื่องในช่วงนี้ โดยปริมาณการซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติยังคงมี ต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีการซื้อสุทธิจาก หุ้น NVDR ในกลุ่ม BIG CAP ไม่ว่าจะเป็น BBL, SCC, PTTEP, PTT
กลยุทธ์การลงทุน ตลาดยังคงปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง จากสัญญาณ i-chart30 ที่ปรับขึ้นมามากกว่า 13วันแล้ว รวมถึงหุ้นอีกหลายตัวในตาราง ดังนั้นหากจะเลือกซื้อหุ้นเพิ่มจะต้องเลือกซื้อหุ้นที่มีความแข็งแกร่งกว่าตลาด ส่วนหุ้นที่มีอยู่ในพอร์ตยังคงแนะนำถือ หากยังไม่เกิดสัญญาณขายใดใด เพราะ ตลาดยังคงดูสดใสอยู่ ณ ช่วงนี้
คําแนะนําการลงทุนใน i-chart 30 นั้น เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลตามสัญญานทางเทคนิค ด้วยการบอกสัญญาน หรือทิศทางแนวโน้มของราคาหุ้น ว่าแต่ละสัญญาน มีการปรับตัวขึ้นและปรับลงเช่นใด ซึ่งจะมีคำแนะนำสำหรับการบอกช่วงเวลาที่เกิดสัญญานซื้อและสัญญาณขาย โดยใช้ราคาปิดของสิ้นสุดวัน มาเป็นตัวกำหนด รวมทั้งการบอกจำนวนวันที่เกิดสัญญานและการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้น ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจ ว่าข้อมูลเหล่านี้ หน้าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด
คำนิยามและความหมาย 1) Stock = คือหุ้นที่เลือกมาจาก I-chart model โดยเน้นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางตลาดสูง และมีสภาพคล่อง 2) Last Trade (Close pricบe, Change price, % change) = ราคาปิดของวันก่อน, การเปลี่ยนแปลงของราคา และเปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลง 3) Volume Monitor (Volume,Volume average 5 day) = ปริมาณการซื้อขายของจำนวนหุ้น, ปริมาณการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยใน5วันที่ผ่านมา โดยเครื่องหมาย(+,-) เป็นการบอกว่ามีปริมาณการซื้อขายหุ้นวันนั้นมากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย5วัน ***(จำนวนเต็มต้องคูณด้วย 1,000หุ้น) 4) Momentum Play (Simple Moving Average 5 days[sma 5days], Simple Moving Average 10 days [Sma 10days],Price Over5 days,Price Over10 days ,Sma cross, MACD cross, Bullish or Bearish) = สัญญานทางเทคนิคที่บอกทิศทางของหุ้นว่ามีแนวโน้มขึ้น (+)หรือลง(-) อย่างไร โดยราคาปิดที่มากกว่าราคาเฉลี่ย 5วัน สัญญานเป็น(+) หมายถึงแนวโน้มขึ้น , ราคาเฉลี่ย 5วันสูงกว่าราคาเฉลี่ย10วัน บอกถึงทิศทางขาขึ้น สัญญานเป็น+ , ส่วนสัญญาน MACD ที่เป็น+ เกิดจากค่าของเส้น MACD Line มากกว่าค่าของ Signal Line, และค่าMACD Line ที่มากกว่าศูนย์บอกถึงภาวะหุ้นตัวนั้นว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Bullish) หรือแนวโน้มทึ่เป็นขาลง (Bearish) หากค่าต่ำกว่าศูนย์ 5) Action and Recommend = บอกถึงสัญญาณซื้อหรือขาย จำนวนวันที่เกิดสัญญาณ ราคาที่ซื้อหรือขาย และเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคานับตั้งแต่ที่เริ่มเกิดสัญญาน 6) 52-weeks Range = ช่วงราคาที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
หมายเหตุ รายงานฉบับนี้จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน แต่มิได้มีวัตถุประสงค์จะชี้นําหรือชักชวนให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ระบุในรายงาน ผู้จัดทําได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ใช้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่ไม่อาจรับรองถึงความสมบูรณ์หรือความถูกต้องได้ ทั้งนี้ ข้อมูลและความเห็นต่างๆ ในรายงานอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณ และโปรดศึกษาข้อมูลของบริษัทผู้ ออกหลักทรัพย์และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้จัดทําจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว