i-chart30 02 Aug 06
บทวิเคราะห์ ล่าสุด เชิญ Download ที่นี่ i-chart30 020806.pdf (141.69 KB 01.08.2006 18:26)
+ หุ้นที่เกิดสัญญาณ BUY DAY1 คือ ไม่มี
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ SELL DAY1 คือ KEST, SCB
* หุ้นที่น่าจับตา คือ กลุ่มหลักทรัพย์และกลุ่มสื่อสารทีหลายตัวเกิดสัญญาณ - ในช่อง SMA5 และSMA10 แล้วดังนั้นให้ระมัดระวังเพราะมีโอกาสเกิดสัญญาณ SELL คือ SATTEL, TT&T, ADVANC, ZMICO, ASP
สภาวะการลงทุน ตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวตามสภาวะตลาดโลก โดยได้ปรับตัวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 10วันที่บริเวณ685จุดในช่วงบ่าย แต่ได้มีแรงดีดกล้บในช่วงครี่งชั่วโมงท้ายตลาดปิดตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยอีกครั้ง ซึ่งเรามองว่าตลาดหุ้นยังคงไร้ปัจจัยบวกในช่วงนี้ โดยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนก็ประกาศออกมาแล้ว ดังนั้นตลาดยังคงมีทิศทางแกว่งตัว ออกด้านข้าง โดยยังมีแนวโน้มการอ่อนตัวที่ต่อเนื่องได้อีก ซึ่งหากดูหุ้นขนาดใหญ่เริ่มที่จะส่งสัญญาณเป็น SELL อีกครั้ง
ประเด็นที่น่าจับตา ธนาคารกสิการไทยและธนาคารไทยพาณิชย์ได้มีการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ขึ้นอีก 0.25-0.50%ในวานนี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดทุนอยู่บ้างตามปัจจัยจิตวิทยา เนื่องจากจะทำให้นักลงทุนในตลาดหุ้นอาจลดสัดส่วนการลงทุนและไปฝากเงินในตลาดเงินอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ดี เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราดอกเบี้ยในอดีตที่ผ่านมา ถือว่า ณ ปัจจุบัน ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากนัก เพราะในอดีต ดอกเบี้ยเงินฝากประจำเคยปรับตัวสูงถึง 6% ขณะที่ MLR อยู่ในระดับ 10.50% ซึ่งในปีนี้คาดว่า MLR น่าจะสูงสุดได้ไม่เกิน 8.5%
กลยุทธ์การลงทุน เน้นการทำกำไร บางส่วน เพื่อลดสัดส่วนการลงทุน โดยให้น้ำหนักการพักตัวของดัชนี ไม่ควรที่จะต่ำกว่า 680จุดในสัปดาห์นี้ หากต่ำกว่าดัชนีอาจปรับลงได้ต่อเนื่องในสัปดาห์หน้าอีกครั้ง
คําแนะนําการลงทุนใน i-chart 30 นั้น เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลตามสัญญานทางเทคนิค ด้วยการบอกสัญญาน หรือทิศทางแนวโน้มของราคาหุ้น ว่าแต่ละสัญญาน มีการปรับตัวขึ้นและปรับลงเช่นใด ซึ่งจะมีคำแนะนำสำหรับการบอกช่วงเวลาที่เกิดสัญญานซื้อและสัญญาณขาย โดยใช้ราคาปิดของสิ้นสุดวัน มาเป็นตัวกำหนด รวมทั้งการบอกจำนวนวันที่เกิดสัญญานและการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้น ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจ ว่าข้อมูลเหล่านี้ หน้าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด
คำนิยามและความหมาย 1) Stock = คือหุ้นที่เลือกมาจาก I-chart model โดยเน้นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางตลาดสูง และมีสภาพคล่อง 2) Last Trade (Close pricบe, Change price, % change) = ราคาปิดของวันก่อน, การเปลี่ยนแปลงของราคา และเปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลง 3) Volume Monitor (Volume,Volume average 5 day) = ปริมาณการซื้อขายของจำนวนหุ้น, ปริมาณการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยใน5วันที่ผ่านมา โดยเครื่องหมาย(+,-) เป็นการบอกว่ามีปริมาณการซื้อขายหุ้นวันนั้นมากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย5วัน ***(จำนวนเต็มต้องคูณด้วย 1,000หุ้น) 4) Momentum Play (Simple Moving Average 5 days[sma 5days], Simple Moving Average 10 days [Sma 10days],Price Over5 days,Price Over10 days ,Sma cross, MACD cross, Bullish or Bearish) = สัญญานทางเทคนิคที่บอกทิศทางของหุ้นว่ามีแนวโน้มขึ้น (+)หรือลง(-) อย่างไร โดยราคาปิดที่มากกว่าราคาเฉลี่ย 5วัน สัญญานเป็น(+) หมายถึงแนวโน้มขึ้น , ราคาเฉลี่ย 5วันสูงกว่าราคาเฉลี่ย10วัน บอกถึงทิศทางขาขึ้น สัญญานเป็น+ , ส่วนสัญญาน MACD ที่เป็น+ เกิดจากค่าของเส้น MACD Line มากกว่าค่าของ Signal Line, และค่าMACD Line ที่มากกว่าศูนย์บอกถึงภาวะหุ้นตัวนั้นว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Bullish) หรือแนวโน้มทึ่เป็นขาลง (Bearish) หากค่าต่ำกว่าศูนย์ 5) Action and Recommend = บอกถึงสัญญาณซื้อหรือขาย จำนวนวันที่เกิดสัญญาณ ราคาที่ซื้อหรือขาย และเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคานับตั้งแต่ที่เริ่มเกิดสัญญาน 6) 52-weeks Range = ช่วงราคาที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
หมายเหตุ รายงานฉบับนี้จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน แต่มิได้มีวัตถุประสงค์จะชี้นําหรือชักชวนให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ระบุในรายงาน ผู้จัดทําได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ใช้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่ไม่อาจรับรองถึงความสมบูรณ์หรือความถูกต้องได้ ทั้งนี้ ข้อมูลและความเห็นต่างๆ ในรายงานอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณ และโปรดศึกษาข้อมูลของบริษัทผู้ ออกหลักทรัพย์และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้จัดทําจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว