i-chart30 25 Jul 06
บทวิเคราะห์ ล่าสุด เชิญ Download ที่นี่ i-chart30 250706.pdf (141.54 KB 24.07.2006 21:32)
+ หุ้นที่เกิดสัญญาณ BUY DAY1 คือ ไม่มี
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ SELL DAY1 คือ ไม่มี
* หุ้นที่น่าจับตา คือ
TPIPL ดูอ่อนหากปรับตัวลงต่ำทำ newlow ที่ 9.85 ก็ต้องขายจะเป็นสัญญาณ SELL อีกครั้ง
BECL หากวันนี้ปิดต่ำกว่า 20.50 ก็จะเกิดสัญญาณขายเช่นกัน
ส่วนหุ้นที่มีแนวโน้มจะเกิดสัญญาณ BUY ในระยะใกล้นี้ คือ THAI ,ADVANC
สภาวะการลงทุน สภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะเคลื่อนทีในกรอบแคบ และอ่อนตัวออกด้านข้าง ซึ่งเปลี่ยนแปลง ไม่เกิน + 1% นั้นหมายความว่าตลาดอาจจะเป็นการชะลอดูสัญญาณอะไรบางอย่าง ซึ่งตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ดีจะมีกรอบการเคลื่อนที่อยู่ในระดับ 671-691จุด ซึ่งหากการทะลุผ่านกรอบใดกรอบหนึ่งไม่ว่าจะบนหรือล่างจะเป็นบอกแนวโน้มที่ชัดเจนว่าทิศทาง ในระยะกลางจะเป็นอย่างไร
ประเด็นที่น่าจับตา หุ้นขนาดเล็กและหุ้นเก็งกำไร เริ่มมีบทบาทสำหรับสภาวะตลาดแบบไร้ทิศทางเช่นนี้ เพราะมีแต่ความกังวลและไม่แน่ใจ ดังจะเห็นได้จากหุ้นใน Top Gain ล้วนแล้วแต่เป็นหุ้นเล็กเก็งกำไรทั้งสิ้น ซึ่งมีทั้ง N-PARK,IEC, DIANA, BLISS ,APURE, BNT เล่นมาที ยกแก็ง ซ่า ป่วนตลาดรายย่อยให้คึกคัก ซึ่งส่วนใหญ่เล่นกันไม่เกินสามวัน ก็ต้องถอยหนี ดูตลาดอีกทีว่าไปในทิศไหน แต่ถ้าตลาดยังเง็งๆ หุ้นแบบนี้ละครับที่จะซ่าได้
กลยุทธ์การลงทุน จะสังเกตว่า วันนี้ตาราง ไม่มีการเปลี่ยนในตัวหุ้นที่เกิดสัญญาณใหม่ไม่ว่า BUY หรือ SELL ซึ่งตลาดอาจจะเป็นการพักตัว ในช่วงต้นสัปดาห์ โดยให้สังเกตสัญญาณ Voulme + ว่ามีทิศทางซื้อหรือขาย เป็นสัญญานเตือนแรกๆ ก่อนเพื่อกำหนดกลยุทธว่าจะหนีหรือลุยเมื่อไหร่สำหรับหุ้นแต่ละตัว
คําแนะนําการลงทุนใน i-chart 30 นั้น เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลตามสัญญานทางเทคนิค ด้วยการบอกสัญญาน หรือทิศทางแนวโน้มของราคาหุ้น ว่าแต่ละสัญญาน มีการปรับตัวขึ้นและปรับลงเช่นใด ซึ่งจะมีคำแนะนำสำหรับการบอกช่วงเวลาที่เกิดสัญญานซื้อและสัญญาณขาย โดยใช้ราคาปิดของสิ้นสุดวัน มาเป็นตัวกำหนด รวมทั้งการบอกจำนวนวันที่เกิดสัญญานและการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้น ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจ ว่าข้อมูลเหล่านี้ หน้าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด
คำนิยามและความหมาย 1) Stock = คือหุ้นที่เลือกมาจาก I-chart model โดยเน้นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางตลาดสูง และมีสภาพคล่อง 2) Last Trade (Close pricบe, Change price, % change) = ราคาปิดของวันก่อน, การเปลี่ยนแปลงของราคา และเปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลง 3) Volume Monitor (Volume,Volume average 5 day) = ปริมาณการซื้อขายของจำนวนหุ้น, ปริมาณการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยใน5วันที่ผ่านมา โดยเครื่องหมาย(+,-) เป็นการบอกว่ามีปริมาณการซื้อขายหุ้นวันนั้นมากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย5วัน ***(จำนวนเต็มต้องคูณด้วย 1,000หุ้น) 4) Momentum Play (Simple Moving Average 5 days[sma 5days], Simple Moving Average 10 days [Sma 10days],Price Over5 days,Price Over10 days ,Sma cross, MACD cross, Bullish or Bearish) = สัญญานทางเทคนิคที่บอกทิศทางของหุ้นว่ามีแนวโน้มขึ้น (+)หรือลง(-) อย่างไร โดยราคาปิดที่มากกว่าราคาเฉลี่ย 5วัน สัญญานเป็น(+) หมายถึงแนวโน้มขึ้น , ราคาเฉลี่ย 5วันสูงกว่าราคาเฉลี่ย10วัน บอกถึงทิศทางขาขึ้น สัญญานเป็น+ , ส่วนสัญญาน MACD ที่เป็น+ เกิดจากค่าของเส้น MACD Line มากกว่าค่าของ Signal Line, และค่าMACD Line ที่มากกว่าศูนย์บอกถึงภาวะหุ้นตัวนั้นว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Bullish) หรือแนวโน้มทึ่เป็นขาลง (Bearish) หากค่าต่ำกว่าศูนย์ 5) Action and Recommend = บอกถึงสัญญาณซื้อหรือขาย จำนวนวันที่เกิดสัญญาณ ราคาที่ซื้อหรือขาย และเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคานับตั้งแต่ที่เริ่มเกิดสัญญาน 6) 52-weeks Range = ช่วงราคาที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
หมายเหตุ รายงานฉบับนี้จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน แต่มิได้มีวัตถุประสงค์จะชี้นําหรือชักชวนให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ระบุในรายงาน ผู้จัดทําได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ใช้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่ไม่อาจรับรองถึงความสมบูรณ์หรือความถูกต้องได้ ทั้งนี้ ข้อมูลและความเห็นต่างๆ ในรายงานอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณ และโปรดศึกษาข้อมูลของบริษัทผู้ ออกหลักทรัพย์และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้จัดทําจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว