i-chart30 21 Jul 06
บทวิเคราะห์ ล่าสุด เชิญ Download ที่นี่ i-chart30 210706.pdf (141.73 KB 20.07.2006 18:14)
+ หุ้นที่เกิดสัญญาณ BUY DAY1 คือ BBL, CPF, ITV, PTT, TMB, TPI, TTA ซึ่งมีทั้งหมด 7ตัว
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ SELL DAY1 คือ ไม่มี
* หุ้นที่น่าจับตา คือ ADVANC , PTTEP, ATC ที่มีแนวโน้มอาจเกิดเป็นสัญญาณ BUY ได้อีก ในระยะใกล้นี้
หมายเหตุ มีการปรับเปลี่ยนหุ้น เข้าใหม่คือ TTA และหุ้นเปลี่ยนออก คือ KK
สภาวะการลงทุน ตลาดหุ้นไทยยังคงปรับตัวขึ้นบวกต่อเนื่องเป็นวันทึ่สอง หลังจากข่าวการส่งสัญญาณของเฟดว่าจะยุติการขึ้นดอกเบี้ย ในการประชุมครั้งต่อไป ในระยะใกล้นี้ ดังนั้นจึงส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นบวกพร้อมเพรียงกัน ดังจะเห็นได้จาก ตลาดหุ้น อินเดีย +3.45% เกาหลี +3.21% ,ญี่ปุ่น+3.08% ฟิลิปปินส์ +3.02%เ, อินโดนีเซีย +2.74%, ไต้หวัน +2.65%, ฮ่องกง +2.33% ส่วนตลาดหุ้นไทย ปรับขึ้นเพียง +1.34% ซึ่งหากดูให้ดีจะเห็นว่าปรับตัวขึ้นน้อยกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ดังนั้นเราจึงมองว่าตลาดหุ้นไทยยังคงมีความกังวลอยู่จากนักลงทุน ในเรื่องปัจจัยภายในประเทศ
ประเด็นที่น่าจับตา สัญญาณการหยุดอัตราดอกเบี้ยของเฟด จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลงทันที ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น แต่อย่างไรก็ดีการแข็งค่าของเงินบาทยังคงไม่ชัดเจนนัก หากยังไม่ปรับตัวต่ำกว่า 38บาทต่อดอลลาร์ ดังนั้นจังหวะสัญญาณโบกธงคงต้องดูการแข็งค่าของค่าเงินเป็นสำคัญ
กลยุทธ์การลงทุน จะเห็นว่ามีหุ้นเกิดสัญญาณBUY ขึ้นใหม่ถึง7ตัว ซึ่งจะมี TPI ที่อาจจะเป็นตัวนำตลาดอีกครั้งในรอบนี้ รวมถึงหุ้นกลุ่มธนาคารบางตัว เช่น BBL และหุ้นกลุ่มพลังงานเช่น PTT, PTTEP ดังนั้นหากจะเข้าลงทุนอีกครั้งควรเลือกหุ้นเป็นรายตัว ตามสัญญาณ
คําแนะนําการลงทุนใน i-chart 30 นั้น เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลตามสัญญานทางเทคนิค ด้วยการบอกสัญญาน หรือทิศทางแนวโน้มของราคาหุ้น ว่าแต่ละสัญญาน มีการปรับตัวขึ้นและปรับลงเช่นใด ซึ่งจะมีคำแนะนำสำหรับการบอกช่วงเวลาที่เกิดสัญญานซื้อและสัญญาณขาย โดยใช้ราคาปิดของสิ้นสุดวัน มาเป็นตัวกำหนด รวมทั้งการบอกจำนวนวันที่เกิดสัญญานและการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้น ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจ ว่าข้อมูลเหล่านี้ หน้าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด
คำนิยามและความหมาย 1) Stock = คือหุ้นที่เลือกมาจาก I-chart model โดยเน้นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางตลาดสูง และมีสภาพคล่อง 2) Last Trade (Close pricบe, Change price, % change) = ราคาปิดของวันก่อน, การเปลี่ยนแปลงของราคา และเปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลง 3) Volume Monitor (Volume,Volume average 5 day) = ปริมาณการซื้อขายของจำนวนหุ้น, ปริมาณการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยใน5วันที่ผ่านมา โดยเครื่องหมาย(+,-) เป็นการบอกว่ามีปริมาณการซื้อขายหุ้นวันนั้นมากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย5วัน ***(จำนวนเต็มต้องคูณด้วย 1,000หุ้น) 4) Momentum Play (Simple Moving Average 5 days[sma 5days], Simple Moving Average 10 days [Sma 10days],Price Over5 days,Price Over10 days ,Sma cross, MACD cross, Bullish or Bearish) = สัญญานทางเทคนิคที่บอกทิศทางของหุ้นว่ามีแนวโน้มขึ้น (+)หรือลง(-) อย่างไร โดยราคาปิดที่มากกว่าราคาเฉลี่ย 5วัน สัญญานเป็น(+) หมายถึงแนวโน้มขึ้น , ราคาเฉลี่ย 5วันสูงกว่าราคาเฉลี่ย10วัน บอกถึงทิศทางขาขึ้น สัญญานเป็น+ , ส่วนสัญญาน MACD ที่เป็น+ เกิดจากค่าของเส้น MACD Line มากกว่าค่าของ Signal Line, และค่าMACD Line ที่มากกว่าศูนย์บอกถึงภาวะหุ้นตัวนั้นว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Bullish) หรือแนวโน้มทึ่เป็นขาลง (Bearish) หากค่าต่ำกว่าศูนย์ 5) Action and Recommend = บอกถึงสัญญาณซื้อหรือขาย จำนวนวันที่เกิดสัญญาณ ราคาที่ซื้อหรือขาย และเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคานับตั้งแต่ที่เริ่มเกิดสัญญาน 6) 52-weeks Range = ช่วงราคาที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
หมายเหตุ รายงานฉบับนี้จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน แต่มิได้มีวัตถุประสงค์จะชี้นําหรือชักชวนให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ระบุในรายงาน ผู้จัดทําได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ใช้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่ไม่อาจรับรองถึงความสมบูรณ์หรือความถูกต้องได้ ทั้งนี้ ข้อมูลและความเห็นต่างๆ ในรายงานอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณ และโปรดศึกษาข้อมูลของบริษัทผู้ ออกหลักทรัพย์และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้จัดทําจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว