ตลาดจะกลับ จริงหรือไม่
สภาวะ ตลาดหุ้น แบบนี้ คงมีหลายคน คงหวาดกลัว ตลาดหุ้น ไปเหมือนกัน เพราะดัชนี เล่นลงมาไม่หยุดตั้งแต่ วันที่ 10 พ.ค. 49 ดัชนี ตลาดหุ้นไทย ได้ทำจุดสูงสุดที่ 787.55จุด ซึ่งตอนนั้นหลายนักวิเคราะห์ก็มองกันว่าปีนี้ คงได้เห็นดัชนีที่ 800จุดเป็นแน่ แต่ที่ไหนได้ เมื่อทุกคนมั่นใจมาก ก็เป็นจังหวะที่ดีในการขาย ดังนั้นนักลงทุนต่างชาติจึงกระหน่ำขายหุ้นมาตลอดระยะเวลา 6สัปดาห์ ขายกว่า -34,000ล้านบาท ในเดือน พ.ค. และ -16,158ล้านบาท ในเดือนมิ.ย

ซึ่งทำให้ดัชนี ปรับตัวถึงจุดต่ำสุดบริเวณ 641จุด นับเป็นการปรับตัวลดลงเกือบ 150จุด ดังในรูปด้านล่างที่จะเห็นว่าดัชนีปรับตัวลงพร้อมกับแรงขาย จากนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งจะเห็นจากแท่งกราฟ ในแนวเส้นประ โดยในวันศุกร์ที่ 16มิ.ย. เริ่มเห็นสัญญาณการซื้อหุ้นกลับเป็นครั้งแรก ซึ่งจะสังเกตว่า การซื้อขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ เป็นบวกครั้งแรกในรอบ 6สัปดาห์เช่นกัน ดังนั้นเรามองว่า ดัชนีตลาดหุ้น อาจมีการเปลี่ยนทิศทางเป็นขาขึ้นอีกครั้ง หากนักลงทุนต่างชาติกลับมาเป็นผู้ซื้อสุทธิ แต่อย่างไรก็ดี

เมื่อมาดูแนวโน้มการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติ ม้กจะมีทิศทางเดียวกับค่าเงินบาท เพราะเมื่อใด ที่ค่าเงินบาทแข็งค่า ก็จะมีแรงซื้อหุ้นเข้ามาจากนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน (ดังภาพวงกลมสีน้ำเงินและสีเขียว) และ หากเมื่อค่าเงินบาทมี แนวโน้มอ่อนค่าเมื่อนั้น นักลงทุนต่างชาติก็จะทำการขายหุ้นด้วยเช่นกัน (ดังภาพวงกลมสีชมพู)

ดังนั้นบทสรุปสภาวะตลาดหุ้น ณ ตอนนี้ ว่าจะมีทิศทางใด นั้น คงต้องดูแนวโน้มค่าเงินบาทเป็นส่วนประกอบสำคัญ เพราะล่าสุดค่าเงินบาท ได้ทดสอบแนวต้านระดับ 38.50บาทต่อดอลลาร์เป็นครั้งที่สอง ซึ่งหากไม่ผ่านแนวต้านนี้ ค่าเงินบาทจะมีโอกาสมาแข็งค่าอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้น แต่อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่สร้างความกังวลต่อตลาดหุ้นโลก ขณะนี้คือแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งในวันที่ 28-29มิ.ย.นี้ ธนาคารกลางสหรัฐ มีแนวโน้มที่จะปรับอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง เพิ่มขึ้น อีก 0.25% ซึ่ง ณ ตอนนี้นักลงทุนทั่วโลกต่างมองข้ามถึงการปรับอัตราดอกเบี้ย ในเดือนสิงหาคม ว่าเฟดจะยังคงปรับดอกเบี้ยขึ้นต่อเพื่อชะลอภาวะเงินเฟ้อหรือไม่ ซึ่งทำให้ปัจจุบัน แนวโน้มค่าเงินสกุลเอเซีย จะอ่อนค่าเมื่อ ดอกเบี้ยสหรัฐปรับตัวขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ธนาคารในประเทศต่างๆ ก็มักจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นตามเพื่อรักษาระดับส่วนต่างๆ ซึ่งผมมองว่าเมือใดดอกเบี้ยเริ่มนิ่ง คือหยุดการปรับขึ้น เมื่อนั้นจะเป็นโอกาสที่ดีของตลาดหุ้นอีกครั้ง ซึ่งอาจจะเป็นในช่วงไตรมาสที่ 4ของปีนี้
กลยุทธ์การลงทุน
เรามองว่าตลาดหุ้นเอเซียและตลาดหุ้นไทย มีการดีดกลับ หลังจากการอ่อนตัว ยาวนานกว่า 6สัปดาห์ ซึ่งยังคงไม่มีปัจจัยบวกใด ๆ ที่ชัดเจน ดังนั้นหากหุ้นปรับตัวได้ต่อ อาจจะต้องดูแนวต้านที่ 700จุดว่าจะผ่านได้หรือไม่ โดยให้ดูแนวโน้มค่าเงินเป็นส่วนประกอบ โดยมีหุ้นกลุ่มที่น่าจับตาคือ กลุ่มเหล็กและกลุ่มเดินเรือ ซึ่งปรกติหุ้นจะรีบาวด์ ไม่เกินสามวัน โดยจะมีแนวต้าน ที่ 684 และ 700จุด ในวันจันทร์และอังคารนี้