| i-Chart SET50 18Jan08
ตลาดหุ้นไทยยังมีแต่ความผันผวน ปัจจัยเสี่ยงยังคงมีแรงกดดันจากแรงขายหุ้นในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดังเช่น อเมริกา ที่ ดัชนี ดาวโจนส์ และ แนสแดก ปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 10 เดือน แต่อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์เข้าใกล้จุดแนวรับสำคัญที่บริเวณ 12,000จุด รวมถึงแรงขายต่อเนื่องที่มากเกินอยู่ระดับ Oversold ดังนั้น จึงมีโอกาสที่จะทำให้ดัชนีตลาดโลกมีการดีดกลับของหุ้นในสัปดาห์นี้ จากการรีบาวด์ของตลาดหุ้น ดาวโจนส์
โดยการดีดกลับของตลาดหุ้นไทยจะมีแนวต้านสำคัญบริเวณ 810จุดถึง 820จุดเป็นสำคัญ ซึ่งเราเชื่อว่าการปรับตัวของหุ้นไทยเป็นได้แค่เพียงการรีบาวด์ดังนั้น การปรับตัวขึ้นเปลี่ยน |
| i-Chart SET50 11Jan08
ในที่สุดก็ได้ ฤกษ์เปิด i-Chart SET50 เสียที หลังจากมีการร้องขออยู่นาน ซี่งหลายคนอยากให้มีตารางหุ้นเพื่อจะได้คอยจับตาหุ้นกลุ่มหลักอย่าง SET50 เนื่องจาก การปรับตัวขึ้นลงของหุ้นใน SET50นั้นมักมีผล ต่อตลาดหุ้นโดยรวมเนื่องจาก Market Cap. ของหุ้นใน SET50 ทั้งหมด น่าจะคิดเป็นสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 70% ของมูลค่าตลาดรวม ดังนั้นดัชนี SET50 จึงนับเป็นดัชนีชี้วัด แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ได้ใกล้เคียงกับ SET index เลยทีเดียว
และปัจจุบัน มีกองทุนที่ใช้นโยบายการลงทุนผูกติดกับหุ้น SET50 เพื่อให้ผลตอบแทนได้ใกล้เคียงกับดัชนี SET50 นอกจากนี้ ยังมีการออกหน่วยลงทุน ETF (TDEX) ที่เข้ามาซื้อหุ้นใน SET50 รวมถึงการใช้ดัชนี |
| i-chart30 คืออะไร i-chart30 ได้ออกแบบขึ้นมาเพื่อการวางแผนสำหรับการลงทุน ในรูปแบบการซื้อขายตามแนวโน้มทางเทคนิค โดยมิได้มุ่งเน้นให้ซื้อขายระยะสั้นเพียงในหนึ่งวัน i-chart30 มีรูปแบบเป็นการลงทุนระยะกลาง ซื้อขายหุ้นตามรอบ โดยการถือหุ้นตามทิศทางและแนวโน้มการปรับตัวขึ้นลงของอุปสงค์และอุปทานของหุ้น (Demand & Supply) ซึ่งจะเลือกหุ้นที่มีสภาพคล่องและมีความน่าเชื่อถือในระดับ SET100 |
| รวมบทสัมภาษณ์ ทางรายการคอหุ้น ( Modern 9 TV) เกี่ยวกับ i-chart30
รวมบทสัมภาษณ์ ทางรายการคอหุ้น ( Modern 9 TV) เกี่ยวกับตาราง i-chart30
สามารถ Download file เพื่อรับฟัง |
| ผลการดำเนินงาน i-chart30 กับ SET index
หลังจากที่ ตาราง i-chart30 ได้ มีการทำออกมา กว่า 1ปี จึงได้มีการประเมินผลการดำเนินงานว่า มีผลตอบแทนอย่างไรจากบทวิเคราะห์ที่ผ่านมา
โดยเบื้องต้น ผมได้วัดผลการวิเคราะห์ทางเทคนิคจากสัญญาณซื้อขาย ด้วย i-chart30 model กับ SET index และ SET 50 ซึ่งสิ่งหนึ่งจากภาพที่เราเห็นคือ ดัชนีในช่วงกว่า 1ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่าดัชนี มีการเปลียนแปลงเพียงเล็กน้อยหากเทียบระยะเวลาตั้งแต่เดือนเมษายน 2549 (2006) จนถึงช่วงเดือนมิถุนายน 2550(2007) เนื่องจาก ตลาดมีความผันผวน จาก |
| หลักการอ่าน i-chart30
การลงทุนใน i-chart30 เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลตามสัญญานทางเทคนิค ด้วยการบอกสัญญาน หรือทิศทางแนวโน้มของราคาหุ้น ว่าแต่ละสัญญาน มีการปรับตัวขึ้นและปรับลงเช่นใด ซึ่งจะมีคำแนะนำสำหรับ |
| i-chart30 11 Jan 08 + หุ้นที่เกิดสัญญาณ Up Trend day1 คือ ไม่มี
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ Down Trend day1 คือ IRPC, TPPCH, ZMICO
# หุ้นที่น่าจับตา คือ CPF, SCIB, PTTEP, BBL หากอ่อนตัวลงอีกหรือทำจุดต่ำสุดใหม่จะเกิดสัญญาณ Downtrend
ตลาดหุ้นไทย ยังคงมีแนวโน้มการปรับตัวลงต่อเนื่องได้อีก จากแรงขายในหุ้นขนาดใหญ่ ในกลุ่มพลังงานและ ปิโตรเคมีโดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม ปตทได้แก่ PTT, PPTTEP, PTTCH, PTTAR, TOP, IRPC ดังนั้น หุ้นจะดีดกลับตอนไหน หรือ ทรงตัวอยู่ได้ นั้นคง |
| i-chart30 10 Jan 08 + หุ้นที่เกิดสัญญาณ Up Trend day1 คือ ไม่มี
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ Down Trend day1 คือ TMB
@หุ้นที่น่าจับตา ในช่วงนี้คือหุ้นที่ปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดใหม่ ได้แก่ TMB, TPIPL |
| i-chart30 09 Jan 08 + หุ้นที่เกิดสัญญาณ Up Trend day1 คือ ไม่มี
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ Down Trend day1 คือ SPALI
@หุ้นที่น่าจับตา ที่ปรับตัวลงใกล้จุดต่ำสุดในครั้งก่อน คือ PTT, TMB, KTB, SATTEL, TPIPL ซึ่งอาจส่งผลให้มีการดีดกลับของหุ้นเหล่านี้ ได้ แต่หากปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดใหม่ แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุน
สรุปสภาวะตลาด ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงมีการปรับตัวลงต่อเนื่อง จากการอ่อนตัวของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ที่มีการปรับตัวลง ในช่วง 2 สัปดาห์นับแต่ปลายปีกว่า 1,000จุด หรือ -7% โดย |
| i-chart30 07 Jan 08 + หุ้นที่เกิดสัญญาณ Up Trend day1 คือ ไม่มี
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ Down Trend day1 คือ SET, SET50, AOT, ASP, BAY, CK, ITD, KBANK, KTB, PTT, SATTEL, TISCO, TOP
@หุ้นที่น่าจับตา คือ SPALI, CPF, TRUE,BBL, IRPC, PTTCH หากปรับตัวลงต่อ อาจเกิดสัญญาณ Down trendในเร็วนี้
สรุปสภาวะตลาด ตลาดหุ้นไทย ยังคงผันผวน และมีความเสี่ยงในการลงต่อ โดยดัชนีควรปรับตัวขึ้นยืนเหนือ 850จุดภายในสองสัปดาห์นี้ หรืออย่างน้อย 840จุด เพราะการ |
| i-chart30 04 Jan 08 + หุ้นที่เกิดสัญญาณ Up Trend day1 คือ ไม่มี
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ Down Trend day1 คือ BANPU, PHATRA, SCB
@หุ้นที่น่าจับตา คือ ASP, CPF, KBANK, TOP, AOT หากปรับตัวลงต่อ อาจเกิดสัญญาณ Down trendในเร็วนี้
สรุปสภาวะตลาด ตลาดหุ้นไทย ยังเจอแรงขายขนาดหนัก หลังจากเปิดตลาดรับปีใหม่ ได้สองวัน โดยแรงขายส่วนใหญ่ยังเกิดขึ้นในหุ้นกลุ่มหลัก คือพลังงาน กับธนาคาร ซึ่งประเด็นที่น่าจับตาคือ แม้เงินบาทจะแข็งค่า อย่างเร็วในช่วงนี้ แต่ มิได้เป็นปัจจัยบวก ที่ส่งเสริมให้นักลงทุนต่างชาติหยุดแรงขายแต่อย่างใด ซึ่งปัจจัยหนี่งที่สำคัญกว่านั้น คือ ค่าเงิน |
| i-chart30 03 Jan 08 + หุ้นที่เกิดสัญญาณ Up Trend day1 คือ ไม่มี
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ Down Trend day1 คือ ไม่มี
@หุ้นที่น่าจับตา คือ TPIPL หากปรับตัวขึ้นต่อ อาจเกิดสัญญาณ Up trendในเร็วนี้
ประเด็นที่น่าจับตา 1.ค่าเงินบาท มีแนวโน้มแข็งค่าทำสถิติ ใหม่ในสัปดาห์นี้ โดยเราอาจได้เห็นค่าเงินบาทแตะ 33.50 บาทต่อดอลลาร์ในเร็ววันนี้ ซึ่งอาจส่งผลให้เงินทุนไหลกลับเข้ามาอีกครั้งใน สัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้าได้
2.ราคาทองคำโลก ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง ซึ่งส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการทำจุดสูงสุดของราคาน้ำมันขึ้นใหม่ได้เช่นกัน หรืออาจถึงค่าเงินดอลลาร์ที่จะอ่อนตัวในช่วงนี้ได้ |
| i-chart30 28 Dec 07 + หุ้นที่เกิดสัญญาณ Up Trend day1 คือ CPF, TT&T, ZMICO, TRUE
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ Down Trend day1 คือ ไม่มี
@หุ้นที่น่าจับตา คือ SPALI , TTA, ASP, MCOTหากปรับตัวขึ้นต่อ อาจเกิดสัญญาณ Up trendในเร็วนี้ |
| i-chart30 27 Dec 07 + หุ้นที่เกิดสัญญาณ Up Trend day1 คือ ไม่มี
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ Down Trend day1 คือ ไม่มี |
| i-chart30 26 Dec 07 + หุ้นที่เกิดสัญญาณ Up Trend day1 มีทั้งหมด 14 ตัว คือ BANPU, BAY, BBL, BCP, IRPC, KBANK, KTB, PTT,PTTCH, PTTEP, SATTEL, SCB, TMB, TOP นอกจากนี้ ยังมี SET และ SET50 ปรับขึ้นเป็นสัญญาณ uptrend วันแรกเช่นกัน
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ Down Trend day1 คือ ไม่มี
@หุ้นที่น่าจับตา คือ SPALI , TTA, ASP, TPIPL, ZMICO, MCOTหากปรับตัวขึ้นต่อ อาจเกิดสัญญาณ Up trendในเร็วนี้
สรุปสภาวะตลาด
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรง รับข่าวหลังการเลือกตั้ง โดยดัชนีถูกผลักดัน ด้วยหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน ธนาคาร และหุ้นกลุ่มการเมือง ซึ่งการปรับตัวของ SET index ที่ยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25วัน ที่ 830จุด นั้นเป็นสัญญาณที่ดี ทำให้ตลาดยังมีโอกาสปรับตัวเป็นขาขึ้นในระยะกลาง ได้อีกครั้ง โดยแรงซื้อวันนี้ จำนวนมากเกิดจากสถาบันการเงิน กองทุนรวมต่างๆ ที่มียอดซื้อสุทธิที่ 2,777ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิอีก 1,209ล้านบาท นับเป็นการซื้อของ นักลงทุนต่างประเทศในรอบ 10วันทำการ |