Dollar Index ตอนที่ 2 / ความสำคัญของค่าเงินดอลลาร์
ซึ่ง ณ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่า Dollar Index นั้นเป็นดัชนีสำคัญ ในการบอกถึงแนวโน้มการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆดังนี้
1.ทิศทางค่าเงินดอลลาร์ต่อสกุลเงินต่างๆ เช่น ไทยบาทต่อดอลลาร์ , เยนต่อดอลลาร์ , ปอนด์ ต่อดอลลาร์ หรือ ยูโรต่อดอลลาร์
ซึ่งหมายความว่า หาก Dollar index มีการอ่อนค่าลง ก็จะส่งผลถึงแนวโน้มของเงินสกุลต่างๆ ว่ามีโอกาสที่จะแข็งค่าต่อดอลลาร์ แต่อย่างไรก็ดี การที่ค่าเงินสกุลต่าง จะแข็งค่าต่อเงินสกุลดอลลาร์อาจมีอัตราส่วนที่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับ สภาวะเศรษฐกิจ การเมือง ความเชื่อมั่น และ Demand & Supply ของเงินสกุลนั้น ว่ามีมากน้อยอย่างไร
2.กระแสเงิน (Fund Flow) ที่มักจะเข้าไปลงทุนในประเทศที่มีค่าเงินแข็งกว่าเงินสกุลดอลลาร์ ซึ่งจะเข้าทั้งในตลาดตราสารเงิน และตลาดทุน โดยจะเห็นว่าส่วนใหญ่ที่ผ่านมาเมื่อเงินบาทไทยมีแนวโน้มที่จะแข็งค่า ก็มักจะมีเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาซื้อหุ้นจำนวนมาก จึงทำให้ปริมาณการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติ ดูจะเป็นสัดส่วนเดียวกับเงินบาทที่แข็งค่า คือต่างชาติมักจะซื้อหุ้นเมื่อเห็นว่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าและจะขายเมื่อเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าดังตัวอย่างในรูป
แต่อย่างไรก็ดีจะเห็นว่า ในปี 2008 เกิดการขายของนักลงทุนต่างชาติในขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่า ก็เป็นได้ เนื่องจากเกิดวิกฤติการณ์ ซับไพร์ม ที่ทำให้เงินลงทุนสินทรัพย์ทั่วโลกถูกเทขาย เพื่อนำเงินกลับมาอุ้มวิกฤติ ในประเทศอเมริกา
3.ราคาทองคำ
เนื่องจากเงินสกุลดอลลาร์เปรียบเสมือนเงินสกุลหลักในการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ซึ่งหากค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลงไป ก็จะทำให้เงินดอลลาร์ถูกแปลงสภาพเป็นสินทรัพย์อื่นๆ ที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ดังเช่นทองคำเป็นต้น โดยในอดีตที่ผ่านมาทองคำเปรียบเสมือนเงินสดสกุลหนึ่งที่มีสภาพคล่องและสามารถใช้เป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันเงินเฟ้อได้ดี
ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างทองคำและดอลลาร์มักจะมีความสัมพันธ์แบบผกผันคือ หากดอลลาร์อ่อน ทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น และหากดอลลาร์แข็ง ทองคำจะปรับตัวลดลง
4.ราคาน้ำมัน
ความสัมพันธ์ของราคาน้ำมันมักจะเป็นสัดส่วนผกผันกับดัชนีค่าเงินดอลลาร์ กล่าวคือ ราคาน้ำมันมักปรับตัวสูงขึ้นเมื่อค่าเงินดอลลาร์มีการอ่อนค่า
โดยปัจจัยที่ 1 คือ เงินสกุลดอลลาร์เปรียบเสมือนสกุลหลัก ในการแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าที่มีอยู่ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรดาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ำมัน ทองคำ เหล็ก ธัญพืช ต่างใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในการแลกเปลี่ยนซื้อขาย จึงทำให้ประเทศคู่ค้าต่าง ๆ ต้องการที่จะขายสินค้า ในมูลค่าทางการเงินเท่าเดิม (คือยังได้เงินดอลลาร์มาซื้อสินค้าอย่างอื่นในปริมาณหรือขนาดเท่าเดิม) แต่หากค่าเงินดอลลาร์อ่อนก็หมายถึงอำนาจซื้อของเงินดอลลาร์ลดน้อยลง จึงทำให้ผู้ขายสินค้าเหล่านี้ปรับราคาให้สูงขึ้นเพื่มมาชดเชยมูลค่าดอลลาร์ที่ขาดหายไป
ปัจจัยที่ 2 อาจเกิดสภาวะการเก็งกำไร เข้าถือครองในสินทรัพย์ โภคภัณฑ์ (commodities) มากขึ้นเมื่อ ค่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่า เพราะผู้ลงทุนทุกคนต่างมุ่งหวังที่จะถือสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มแข็งค่ามากกว่าอ่อนค่า เพื่อรักษามูลค่าสินทรัพย์รวมที่ได้ลงทุนไว้ ดังนั้น เมื่อแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์อ่อนก็จะส่งผลให้ราคา Commodities ปรับตัวสูงขึ้น
ที่มา กราฟข้อมูล: บ. บิสนิวส์(ประเทศไทย)
สนใจอบรมการวิเคราะห์แนวโน้มค่าเงินสกุลดอลลาร์ และปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์อื่นๆ สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ในหลักสูตร i-Technical workshop 202 คลิ๊กที่นี่