ความเสี่ยงของตลาดหุ้น หลายประการที่ทำให้ยากต่อการลงทุนในช่วงนี้
ตลาดหุ้นทั่วโลก ได้ปรับตัวเป็นแนวโน้มขาลง ขนาดใหญ่หมดแล้ว
หลายท่าน หลังจากได้ อ่านบทความที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์เรื่อง Yen carry Trade ที่เขียนไว้ก่อนหน้านี้ คงพอจะเข้าใจแล้วว่า ตลาดหุ้นนั้นน่ากลัวมากหากมีการเปลี่ยน แนวโน้มเป็นขาลง อ่านบทความ Yen carry trade ย้อนหลัง คลิ๊ก
เนื่องด้วยในระยะเวลา 2 ปี กว่าที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลก ต่างปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง แม้ว่าเศรษฐกิจ หรือตัวเลข ดุลการค้าของอเมริกาจะขาดดุลต่อเนื่องก็ตาม โดยปัจจุบัน เราเชื่อว่า ตอนนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกได้เปลี่ยนแนวโน้มขาลงแล้ว ดั่งจะได้เห็นจาก ในกราฟในบทความต่อไปนี้ คลิ๊ก
ซึ่งสภาวะ การอ่อนตัวของตลาดโลกเกิดจากความกังวล ในด้านการเงินของเหล่าบรรดา บริษัทการเงินชั้นนำต่างๆทั้งหลายที่มีอยู่ทั้งในอเมริกาและยุโรป ที่ได้รับผลกระทบจากหนี้เสีย ในซับไพร์ม ซี่งแม้ว่า เรื่องนี้จะได้ยินมานาน กว่าหลายเดือน แต่ก็ไม่ได้ทำให้หุ้นตกในทันที ทันใด เพราะ มาตราการที่สร้างภาพออกมาว่ายังไม่น่ากลัว หรือการปิดบังข้อมูลบางอย่างที่ ยังไม่บอกหมด เนื่องจาก การตื่นตระหนกที่ มีข่าวร้าย จะทำให้เกิดแรงขายที่ เรียกว่า Panic Sell จะส่งผลร้ายอย่างมาก ต่อธรุกิจการเงินโดยรวมของทั่วโลก
ซึ่งประเด็นหนึ่งที่น่าจับตาคือ จะเห็นได้ว่าแม้ว่าตลาดหุ้นโลกจะถูกปรับตัวขึ้น ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2007 แต่ ก็มิได้ร้อนแรงเหมือนแต่ก่อน ซึ่งหมายความว่า กองทุนที่ประเมินความเสี่ยงหรือความเสียหายได้ล่วงหน้าก่อน ก็จะสามารถรับรู้ ได้ว่าจะเกิดหายนะ ในไม่ช้านี้ รวมถึง ผู้ที่ล่วงรู้ข้อมูลภายในก็ต่างเทขายหุ้นออกมาเช่นกัน ซึ่งจะเห็นได้ชัด ก็คือการขายหุ้นต่อเนื่อง นับตั้งแต่ ปลายเดือน กรกฎาคม ปี 2550 จนนับถึงปัจจุบัน เป็นแรงขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติสะสมมากกว่า 100,000 ล้านบาท
โดยจุดหนี่งที่ผม เฝ้าสังเกต มานานในช่วงหลายเดือนนี้ คือ ส่วนต่าง ของราคาหุ้นในกระดานต่างประเทศ และกระดานปกติ มีส่วนต่างกัน น้อยมาก หรือบางวันหุ้นกระดานต่างประเทศกับปรับตัวลงต่ำกว่า ราคาหุ้นในกระดานหลักเสียอีก ซึ่งในอดีต หลายปีที่ผ่านมาไม่เคยเห็นอาการอย่างนี้มาก่อน ซึ่งจะเห็นจากในภาพว่าส่วนต่าง ของราคาหุ้น ในกระดาน Foreign กับ กระดาน Local มีแนวโน้มลดลงตลอดตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ยกเว้นเพียงแต่หุ้นของ LH ที่มีกองทุนของรัฐบาลสิงคโปร์ ถือ และ บริษัทไทย NVDR ถือจำนวนมาก
ซึ่งจุดที่น่าสังเกตุจากในกราฟหุ้น ต่างประเทศ หลายๆประเทศ มีรูปแบบการเกิดสัญเตือน แบบ Bearish Divergence ทั้งนั้งจาก indicator RSI หรือ MACD ซึ่งหากนักวิเคราะห์ทางเทคนิคพิจารณาแล้วก็จะเห็นสัญญาณเตือนเหล่านี้ว่า ต่อไปนี้ ตลาดจะมีโอกาสปรับตัวลงในไม่ช้า
โดยบทสรุปที่น่าสนใจ จากการที่ท่านได้ ดู กราฟ ใน Presentation มีดังนี้คือ
จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคจะเห็นว่ามีตลาดหุ้นที่ ค่า MACD ระดับ weekปรับตัว ต่ำกว่า 0 หลายตัวบ้างก็พึ่งลง บ้างก็ลงต่ำกว่า 0 มา 2-3 สัปดาห์แล้ว ซึ่งปรกติแล้วการอ่อนตัวของดัชนีที่มีค่า MACD ปรับตัวลงเช่นนี้ จะทำให้เกิดสภาวะ Bearish ไปอย่างน้อย 1-2 เดือนเป็นอย่างน้อย นั่นหมายความว่าตลาดหุ้นจะอ่อนตัวเป็นขาลงอย่างเร็วสุดคือ 1-2เดือน หรือ อาจจะยาวนานเป็นปีได้เลย เนื่องจากตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมากว่า 2-3 ปีติดต่อกัน
กลยุทธ์ที่ดี ที่สุดคือการเลือกแค่เล่นเก็งกำไรระยะสั้น ในช่วงจังหวะรีบาวด์
หรือการเลือกการลงทุนในแนวทางอื่นเช่น การ Short Sell หุ้น หรือ การเปิดบัญชี ซื้อขาย Future หรือ Option เพื่อชดเชยความเสี่ยง ในกรณีหุ้นขาลง ตลอดปี 2008นี้ หรือ การเลือกเปลี่ยนเก็งกำไรจากหุ้น ไปเก็งกำไรตราสารดังกล่าวแทน
Down load บทความ
World index Turn to Downtrend.pdf (570.38 KB 22.01.2008 21:45)