Download ที่นี่ i-chart30 231106.pdf (175.23 KB 22.11.2006 17:47)
+ หุ้นที่เกิดสัญญาณ Up Trend day1 คือ ADVANC, ZMICO
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ Down Trend day1 คือ BBL, SSI
* หุ้นที่น่าจับตา คือ THAI, AOT อาจเกิดสัญญาณ Downtrend ในเร็วนี้ หากอ่อนตัวลงอีก / ส่วนหุ้น IRPC, TTA, ADVANC คือหุ้นเด่นน่าจับตาอาจเกิดสัญญาณ Uptrend ได้ในเร็วนี้เช่นกัน
หุ้นที่สร้างจุดต่ำสุดใหม่ คือ TT&T, ITV
ภาพรวมการลงทุน ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นบวกเพียงเล็กน้อย ที่ +4.79จุด หรือ +0.66% เมื่อเทียบกับบรรยากาสโดยรวมของสภาวะตลาดหุ้นโลก ซึ่งในวานนี้หุ้นเอเซียส่วนใหญ่ เกิดสัญญาณการดีดกลับทางเทคนิค หลังอ่อนตัวต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน โดยส่วนใหญ่ล้วนปรับตัวขึ้นบวกมากกว่า +1% ได้แก่ ญี่ปุ่น +1.14%, ฮ่องกง +1.28%, เกาหลี+1.18%,อินโดนีเซีย +1.43%, หรือแม้สิงคโปร์ +0.98% ซึ่งจะเห็นว่าตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นน้อยกว่าเพื่อนบ้าน โดยแรงซื้อยังกระจัดกระจาย ไม่มีหุ้นกลุ่มใดปรับตัวขึ้นอย่างชัดเจน โดยการปรับตัวขึ้นต่อของดัชนี จะมีแนวต้านที่ 734 จุดเป็นแนวต้านสำคัญ ซึ่งหากยังไม่มีแรงซื้ออย่างชัดเจน จากหุ้นกลุ่มใด ก็เชื่อว่าตลาดยังคงมีโอกาสเคลื่อนที่ออกด้านข้างทดสอบแนวรับที่ 720จุด อีกครั้ง
ประเด็นที่น่าจับตา
1.ส่วนนักลงทุนต่างชาติ ยังคงขายหุ้นอีกเล็กน้อยด้วยมูลค่ากว่า -379 ล้านบาท โดยมีแรงขายหุ้นที่น่าจับตา คือ AOT, PTTEP, BBL, TPIPL
กลยุทธ์การลงทุน จะเห็นได้ว่าหุ้นในพอร์ต หลายตัว ได้มีการอ่อนตัวและปรับฐานลงมากว่า 5-8วันทำการ แต่ก็มีแรงซื้อกลับมาให้เห็นบ้างบางตัวแล้ว ซึ่งท่านจะสังเกตได้จากสัญญาณบวกที่เกิดขึ้นในช่อง SMA5 แต่อย่างไรก็ดี เรายังคงให้รอสัญญาณยืนยันเมื่อหุ้นสามารถยืนเหนือ SMA10 หรือ SMA Cross เป็นบวกได้หรือไม่ ถึงจะกลับเข้ามาซื้อหุ้นเข้า พอร์ตอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นคงต้องรอดู การปรับตัวในรอบนี้ให้ดีว่าจะทะลุผ่านแนวต้านของดัชนีที่ 735จุดได้หรือไม่ ครับ โดยหุ้นที่ดูมี Volumeที่น่าจับตาคือ กลุ่มหลักทรัพย์ ได้แก่ KEST, ZMICO, ASP
คําแนะนําการลงทุนใน i-chart 30 นั้น เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลตามสัญญานทางเทคนิค ด้วยการบอกสัญญาน หรือทิศทางแนวโน้มของราคาหุ้น ว่าแต่ละสัญญาน มีการปรับตัวขึ้นและปรับลงเช่นใด ซึ่งจะมีคำแนะนำสำหรับการบอกช่วงเวลาที่เกิดสัญญานแนวโน้มขาขึ้นและสัญญาณแนวโน้มขาลง โดยใช้ราคาปิดของสิ้นสุดวัน มาเป็นตัวกำหนด รวมทั้งการบอกจำนวนวันที่เกิดสัญญานและการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้น ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจ ในการวิเคราะห์การลงทุน
คำนิยามและความหมาย
1) Stock = คือหุ้นที่เลือกมาจาก i-chart model โดยเน้นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางตลาดสูง มีความนิยม มีสภาพคล่องและ สามารถประกอบใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบ i-chart30ได้
2) Last Trade (Close price, Change price, % change) = ราคาปิดของวันก่อน, การเปลี่ยนแปลงของราคา และเปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลง
3) Volume Monitor (Volume,Volume average 5 day) = ปริมาณการซื้อขายของจำนวนหุ้น, ปริมาณการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยใน5วันที่ผ่านมา โดยเครื่องหมาย(+,-) เป็นการบอกว่ามีปริมาณการซื้อขายหุ้นวันนั้นมากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย5วัน ***(จำนวนเต็มต้องคูณด้วย 1,000หุ้น) 4) Momentum Play (Simple Moving Average 5 days[sma 5days], Simple Moving Average 10 days [Sma 10days],Price Over5 days,Price Over10 days ,Sma cross, MACD cross, Bullish or Bearish) = สัญญานทางเทคนิคที่บอกทิศทางของหุ้นว่ามีแนวโน้มขึ้น (+)หรือลง(-) อย่างไร โดยจะมีการเรียงสัญญาณทางเทคนิคตาม ความไวของสัญญาณ ตั้งแต่ Price over 5d. หรือ 10d.ราคาปิดที่มากกว่าราคาเฉลี่ย 5วัน หรือ10วัน สัญญานเป็น(+) หมายถึงแนวโน้มขึ้น , SMA cross ราคาเฉลี่ย 5วันสูงกว่าราคาเฉลี่ย10วัน บอกถึงทิศทางขาขึ้น สัญญานเป็น+ , ส่วนสัญญาน MACD ที่เป็น+ เกิดจากค่าของเส้น MACD Line มากกว่าค่าของ Signal Line, และค่าMACD Line ที่มากกว่าศูนย์บอกถึงสภาวะหุ้นตัวนั้นว่าเป็นสภาวะกระทิง (Bullish) หรือสภาวะหมี (Bearish) หากค่าต่ำกว่าศูนย์
5) Action and Recommend = Trend (Up and Down) บอกถึงสัญญาณแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง, จำนวนวันที่เกิดสัญญาณ Day , Price action ราคาปิดของวันก่อนเกิดสัญญาณที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง และ % change เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคานับตั้งแต่ที่เริ่มเกิดสัญญาน 6) 52-weeks Range = ช่วงราคาที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
หมายเหตุ รายงานฉบับนี้จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน แต่มิได้มีวัตถุประสงค์จะชี้นําหรือชักชวนให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ระบุในรายงาน ผู้จัดทําได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ใช้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่ไม่อาจรับรองถึงความสมบูรณ์หรือความถูกต้องได้ ทั้งนี้ ข้อมูลและความเห็นต่างๆ ในรายงานอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณ และโปรดศึกษาข้อมูลของบริษัทผู้ ออกหลักทรัพย์และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้จัดทําจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว