Download ที่นี่ i-chart30 021106.pdf (174.98 KB 01.11.2006 17:37)
+ หุ้นที่เกิดสัญญาณ Up Trend day1 คือ BAY, SCB, TTA
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ Down Trend day1 คือ CPF
* หุ้นที่น่าจับตา คือ BAY, BBL, SCB, KTB กำลังสร้างจุดสูงสุดใหม่รวมถึง มีปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่นอย่าง น่าจับตา/หุ้น ATC อาจเกิดสัญญาณ Uptrend ในระยะใกล้นี้ หากปรับตัวขึ้นเหนือ 36.25บาท ได้/TPIPL หุ้นเด่นเก็งกำไรที่มีการปรับตัวขึ้น พร้อมปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่น
ภาพรวมการลงทุน ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นบวกมากกว่าทุกตลาดในเอเซีย ยกเว้นสิงคโปร์ ด้วยการดีดตัวขึ้นบวกกว่า +1.16%ปิดตัวใกล้จุดสูงสุดของวัน โดยหุ้นที่มีการซื้อขายส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มธนาคาร ซึ่งจะสังเกต ได้จาก BBL, SCB, KTB ที่กำลังสร้างจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง โดยประเด็นที่น่าจับตา คือเงินทุนยังคงไหลเข้าไปประเทศต่อเนื่องหลังจากวานนี้มีการประกาศตัวเลขบัญชีเดินสะพัดในเดือนกันยายน ที่เกินดุลถึง 1.18 พันล้านดอลลาร์ และ เกินดุลการค้าที่ 1.4พันล้านดอลลาร์ จึงส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นทำสถิติใหม่ด้วยเช่นกัน ที่ 36.62บาทต่อดอลลาร์ ซึงยังคงสร้างสถิติใหม่ในรอบ7ปี
ประเด็นที่น่าจับตา
1.แม้ราคาน้ำมันจะยังคงอ่อนตัวและแกว่งตัวอยู่ในช่วง 60ดอลลาร์ต่อบาเรล แต่สิ่งที่น่าจับตาในรอบนี้ คือราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมัน ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาราคาทองคำมักจะเคลื่อนที่ในทิศทางเดียวกับราคาน้ำมัน ดังนั้นแสดงให้เห็นว่าความต้องการทองคำในรอบนี้แข็งแกร่งกว่าน้ำมัน โดยล่าสุดสามารถทะลุผ่านระดับราคา 602ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือเป็นการสร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 1เดือน โดยมุมมองทางเทคนิคเชื่อว่าราคาทองคำเริ่มที่จะปรับตัวเป็นขาขึ้นอีกครั้ง (น่าลงทุนซื้อทองคำ อีกครั้ง เป้าหมายขายช่วงต้นปี)
2.ปริมาณการซื้อสุทธิของนักลงทุน ยังคงมีเล็กน้อยเพียง 169ล้านบาท ดังนั้นคงต้องเฝ้าติดตามการซื้อของนักลงทุนต่างชาติอย่างใกล้ชิดในช่วงนี้
กลยุทธ์การลงทุน หุ้นในตาราง i-chart30 ปรับเปลี่ยนเป็น Uptrend อีกครั้งในวันนี้กว่า 3ตัว รวมถึง ดัชนี SET,SET50 โดยจะเห็นว่าหุ้นกลุ่มธนาคาร และหลักทรัพย์ เริ่มจะสร้างจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องในรอบใหม่นี้ ดังนั้น ควรเฝ้าติดตามปริมาณการซื้อขาย ที่ควรจะมากกว่าค่าเฉลี่ย 5วันอีกครั้ง เพื่อบอกถึงความเชื่อมั่นหากหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างมั่นใจ ดังจะสังเกต ได้จากหุ้น BAY และ AOT
คําแนะนําการลงทุนใน i-chart 30 นั้น เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลตามสัญญานทางเทคนิค ด้วยการบอกสัญญาน หรือทิศทางแนวโน้มของราคาหุ้น ว่าแต่ละสัญญาน มีการปรับตัวขึ้นและปรับลงเช่นใด ซึ่งจะมีคำแนะนำสำหรับการบอกช่วงเวลาที่เกิดสัญญานแนวโน้มขาขึ้นและสัญญาณแนวโน้มขาลง โดยใช้ราคาปิดของสิ้นสุดวัน มาเป็นตัวกำหนด รวมทั้งการบอกจำนวนวันที่เกิดสัญญานและการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้น ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจ ในการวิเคราะห์การลงทุน
คำนิยามและความหมาย
1) Stock = คือหุ้นที่เลือกมาจาก i-chart model โดยเน้นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางตลาดสูง มีความนิยม มีสภาพคล่องและ สามารถประกอบใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบ i-chart30ได้
2) Last Trade (Close price, Change price, % change) = ราคาปิดของวันก่อน, การเปลี่ยนแปลงของราคา และเปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลง
3) Volume Monitor (Volume,Volume average 5 day) = ปริมาณการซื้อขายของจำนวนหุ้น, ปริมาณการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยใน5วันที่ผ่านมา โดยเครื่องหมาย(+,-) เป็นการบอกว่ามีปริมาณการซื้อขายหุ้นวันนั้นมากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย5วัน ***(จำนวนเต็มต้องคูณด้วย 1,000หุ้น) 4) Momentum Play (Simple Moving Average 5 days[sma 5days], Simple Moving Average 10 days [Sma 10days],Price Over5 days,Price Over10 days ,Sma cross, MACD cross, Bullish or Bearish) = สัญญานทางเทคนิคที่บอกทิศทางของหุ้นว่ามีแนวโน้มขึ้น (+)หรือลง(-) อย่างไร โดยจะมีการเรียงสัญญาณทางเทคนิคตาม ความไวของสัญญาณ ตั้งแต่ Price over 5d. หรือ 10d.ราคาปิดที่มากกว่าราคาเฉลี่ย 5วัน หรือ10วัน สัญญานเป็น(+) หมายถึงแนวโน้มขึ้น , SMA cross ราคาเฉลี่ย 5วันสูงกว่าราคาเฉลี่ย10วัน บอกถึงทิศทางขาขึ้น สัญญานเป็น+ , ส่วนสัญญาน MACD ที่เป็น+ เกิดจากค่าของเส้น MACD Line มากกว่าค่าของ Signal Line, และค่าMACD Line ที่มากกว่าศูนย์บอกถึงสภาวะหุ้นตัวนั้นว่าเป็นสภาวะกระทิง (Bullish) หรือสภาวะหมี (Bearish) หากค่าต่ำกว่าศูนย์
5) Action and Recommend = Trend (Up and Down) บอกถึงสัญญาณแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง, จำนวนวันที่เกิดสัญญาณ Day , Price action ราคาปิดของวันก่อนเกิดสัญญาณที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง และ % change เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคานับตั้งแต่ที่เริ่มเกิดสัญญาน 6) 52-weeks Range = ช่วงราคาที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
หมายเหตุ รายงานฉบับนี้จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน แต่มิได้มีวัตถุประสงค์จะชี้นําหรือชักชวนให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ระบุในรายงาน ผู้จัดทําได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ใช้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่ไม่อาจรับรองถึงความสมบูรณ์หรือความถูกต้องได้ ทั้งนี้ ข้อมูลและความเห็นต่างๆ ในรายงานอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณ และโปรดศึกษาข้อมูลของบริษัทผู้ ออกหลักทรัพย์และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้จัดทําจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว