Download ที่นี่ i-chart30 051006.pdf (119.31 KB 04.10.2006 20:54)
+ หุ้นที่เกิดสัญญาณ Up Trend day1 คือ ASP, ITD, SCIB, SPALI, TTA, ZMICO
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ Down Trend day1 คือ ไม่มี
* หุ้นที่น่าจับตา คือ KEST, LH, TPIPL, TT&T, ITV, SATTEL อาจเกิดสัญญาณบวกเร็วๆนี้
ภาพรวมการลงทุน ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นบวกเป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์ปิดตัวที่ระดับสูงสุดของวัน +0.9% ด้วยปริมาณการซื้อขายเพียง 13,795ล้านบาท โดยมีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มธนาคาร และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งจะเห็นได้จาก BBL ที่สามารถปรับตัวขึ้นบวกถึง 5บาท หรือ +4.72%, KBANK +2.27%, SCB +3.39%, ITD +11.11%, CK+7.98%, STEC +6.62% ในขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานยังคงอ่อนตัวลง เนื่องจากราคาน้ำมันโลก อ่อนตัวทำจุดต่ำสุดใหม่ ต่ำกว่า 60ดอลลาร์ต่อบาเรล
ส่วนสภาวะตลาดหุ้นในเอเซีย วานนี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงเนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลงเป็นส่วนมาก
ประเด็นที่น่าจับตา
1. ราคาน้ำมันโลกอ่อนตัวทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 7เดือน ครึ่ง ล่าสุดอยู่ที่ 58.4ดอลลาร์ต่อบาเรล
2. ดัชนีดอลลาร์ index เริ่มส่งสัญญาณแข็งค่าขึ้น ดังนั้น อาจต้องจับตาดูค่าเงินบาทในช่วงนี้ ว่าจะมีการอ่อนตัวจากการที่ดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นหรือไม่
3.นักลงทุนต่างชาติยังคงเป็นผู้ขายต่อเนื่องอีกเล็กน้อย ด้วยมูลค่าการขายสุทธิ 397.84ล้านบาท
กลยุทธ์การลงทุน
จะเห็นได้ว่า SET index เริ่มส่งสัญญาณ uptrend อีกครั้ง เพียงแต่การยืนยันต้องรอการปรับตัวขึ้นต่อในวันพฤหัสนี้ ว่าเป็นอย่างไร รวมถึงมูลค่าการซื้อขายต้องปรับตัวมากขึ้นด้วย ซึ่งเมื่อดูตาราง i-chart30 จะเห็นว่ามีหุ้นปรับขึ้นเป็นสัญญาณ uptrend ถึง 6ตัว และมีหุ้นที่กำลังจะเกิดสัญญาณเป็น uptrend อีก6ตัว ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีสัญญาณบวกจากหุ้นกลุ่ม รับเหมา ธนาคาร และ หลักทรัพย์ให้เห็นบ้างแล้ว
แต่อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่าการปรับตัวของดัชนีเป็นการแสดงถึงความแข็งแกร่งของดัชนี ไม่ให้ต่ำกว่า 680จุด ซึ่งการปรับตัวขึ้นบวกอย่างชัดเจนนั้น ควรจะทะลุผ่านยอดสูงสุดในครั้งก่อนที่ 697จุด ให้ได้
คําแนะนําการลงทุนใน i-chart 30 นั้น เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลตามสัญญานทางเทคนิค ด้วยการบอกสัญญาน หรือทิศทางแนวโน้มของราคาหุ้น ว่าแต่ละสัญญาน มีการปรับตัวขึ้นและปรับลงเช่นใด ซึ่งจะมีคำแนะนำสำหรับการบอกช่วงเวลาที่เกิดสัญญานแนวโน้มขาขึ้นและสัญญาณแนวโน้มขาลง โดยใช้ราคาปิดของสิ้นสุดวัน มาเป็นตัวกำหนด รวมทั้งการบอกจำนวนวันที่เกิดสัญญานและการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้น ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจ ในการวิเคราะห์การลงทุน
คำนิยามและความหมาย
1) Stock = คือหุ้นที่เลือกมาจาก i-chart model โดยเน้นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางตลาดสูง มีความนิยม มีสภาพคล่องและ สามารถประกอบใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบ i-chart30ได้
2) Last Trade (Close price, Change price, % change) = ราคาปิดของวันก่อน, การเปลี่ยนแปลงของราคา และเปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลง
3) Volume Monitor (Volume,Volume average 5 day) = ปริมาณการซื้อขายของจำนวนหุ้น, ปริมาณการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยใน5วันที่ผ่านมา โดยเครื่องหมาย(+,-) เป็นการบอกว่ามีปริมาณการซื้อขายหุ้นวันนั้นมากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย5วัน ***(จำนวนเต็มต้องคูณด้วย 1,000หุ้น) 4) Momentum Play (Simple Moving Average 5 days[sma 5days], Simple Moving Average 10 days [Sma 10days],Price Over5 days,Price Over10 days ,Sma cross, MACD cross, Bullish or Bearish) = สัญญานทางเทคนิคที่บอกทิศทางของหุ้นว่ามีแนวโน้มขึ้น (+)หรือลง(-) อย่างไร โดยจะมีการเรียงสัญญาณทางเทคนิคตาม ความไวของสัญญาณ ตั้งแต่ Price over 5d. หรือ 10d.ราคาปิดที่มากกว่าราคาเฉลี่ย 5วัน หรือ10วัน สัญญานเป็น(+) หมายถึงแนวโน้มขึ้น , SMA cross ราคาเฉลี่ย 5วันสูงกว่าราคาเฉลี่ย10วัน บอกถึงทิศทางขาขึ้น สัญญานเป็น+ , ส่วนสัญญาน MACD ที่เป็น+ เกิดจากค่าของเส้น MACD Line มากกว่าค่าของ Signal Line, และค่าMACD Line ที่มากกว่าศูนย์บอกถึงสภาวะหุ้นตัวนั้นว่าเป็นสภาวะกระทิง (Bullish) หรือสภาวะหมี (Bearish) หากค่าต่ำกว่าศูนย์
5) Action and Recommend = Trend (Up and Down) บอกถึงสัญญาณแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง, จำนวนวันที่เกิดสัญญาณ Day , Price action ราคาปิดของวันก่อนเกิดสัญญาณที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง และ % change เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคานับตั้งแต่ที่เริ่มเกิดสัญญาน 6) 52-weeks Range = ช่วงราคาที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
หมายเหตุ รายงานฉบับนี้จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน แต่มิได้มีวัตถุประสงค์จะชี้นําหรือชักชวนให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ระบุในรายงาน ผู้จัดทําได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ใช้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่ไม่อาจรับรองถึงความสมบูรณ์หรือความถูกต้องได้ ทั้งนี้ ข้อมูลและความเห็นต่างๆ ในรายงานอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณ และโปรดศึกษาข้อมูลของบริษัทผู้ ออกหลักทรัพย์และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้จัดทําจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว