Download ที่นี่ i-chart30 290906.pdf (119.34 KB 28.09.2006 17:44)
+ หุ้นที่เกิดสัญญาณ Up Trend day1 คือ ไม่มี
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ Down Trend day1 คือ BBL, KBANK, SCB, KTB, ZMICO
* หุ้นที่น่าจับตา คือ หุ้น TMB ที่มีการทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 52สัปดาห์ที่ 2.98บาท แนะนำขายหยุดขาดทุน
ภาพรวมการลงทุน ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงสวนทางกับตลาดโลก ที่ล้วนแล้วแต่ปรับตัวขึ้นต่อตามตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ซึ่งปัจจุบัน ตลาดหุ้นดาวโจนส์ ก็เข้าใกล้แนวต้านที่ ระดับ11750 จุดซึ่งเป็นจุดสูงสุดเมื่อเดือน มกราคมปี 2000 ดังนั้นการทะลุผ่านหุ้นจะดีใจมาก แต่ หากชนแล้วลงเลย ก็บอกได้ว่าตลาดหุ้นโลกอาจจะพักตัวอีกครั้ง ซึ่งแบบสองมีความน่าจะเป็นมากกว่า อย่างไรก็ดี จะเห็นว่าหุ้นที่ถูกทิ้งคือกลุ่มธนาคาร ซึ่งจะเห็นได้จาก ตารางi-chart30 เกิดเป็นสัญญาณ downtrend เช่น BBL, KBANK, SCB, KTB เหตุผลที่หุ้นเหล่านี้ ปรับตัวลง น่าจะมาจากการลดพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่มีหุ้นกลุ่มธนาคารอยู่มาก แล้วต้องการลดสัดส่วนลงเนื่องจากความไม่แน่ใจในสภาวะทางการเมืองของไทย และความเสี่ยงที่อาจจะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือในอนาคต ดังนั้นจึงมีแรงขายออกมา
ประเด็นที่น่าจับตา
1. Window Dressing จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ เพราะหลายคนอาจจะคิดว่าสิ้นสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นควรจะปิด ตัวขึ้นสูงสุด เพราะจะมีการบันทึกพอร์ตการลงทุนของเหล่ากองทุนต่างๆ ซึ่งจะนำราคาปิดมาคิด แต่คำตอบนี้มันถูกไม่หมดครับ เพราะการทำ Window Dressing จะทำสัปดาห์สุดท้ายของการปิดแต่ละไตรมาส ซึ่งอาจจะใช้ราคาปิดของวันใดวันหนึ่งของสัปดาห์นั้น ก็ได้ นั่นหมายความว่า หุ้นอาจจะไม่ปิดสวยในวันศุกร์นี้ แต่สามารถบันทึกราคาปิดที่สูงกว่าเช่นวันจันทร์หรืออังคาร ก็เป็นได้ครับ
2.ค่าเงินบาทเริ่มส่งสัญญาณอ่อนตัวให้เห็นแล้ว โดยมีการอ่อนค่าทะลุระดับ ราคา 37.5บาทต่อดอลลาร์ ส่วนนักลงทุนต่างชาติกลับกลายเป็นซื้อสุทธิเพียงเล็กน้อยที่ 14 ล้านบาท
กลยุทธ์การลงทุน
จะเห็นว่ามีหุ้นเกิดสัญญาณ Downtrend เพิ่มมากขึ้น โดยจะมีสัญญาณจากหุ้นกลุ่มธนาคารอีก 4 ตัว เป็น24ตัวจาก 30ตัว ดังนั้นตลาดยังมีโอกาสอ่อนตัว เป็น Downtrend ได้ต่อเนื่องเว้นแต่เพียงหุ้นกลุ่มพลังงานอาจจะประคองตลาดได้ถ้า น้ำมันปรับตัวขึ้น
คําแนะนําการลงทุนใน i-chart 30 นั้น เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลตามสัญญานทางเทคนิค ด้วยการบอกสัญญาน หรือทิศทางแนวโน้มของราคาหุ้น ว่าแต่ละสัญญาน มีการปรับตัวขึ้นและปรับลงเช่นใด ซึ่งจะมีคำแนะนำสำหรับการบอกช่วงเวลาที่เกิดสัญญานแนวโน้มขาขึ้นและสัญญาณแนวโน้มขาลง โดยใช้ราคาปิดของสิ้นสุดวัน มาเป็นตัวกำหนด รวมทั้งการบอกจำนวนวันที่เกิดสัญญานและการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้น ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจ ในการวิเคราะห์การลงทุน
คำนิยามและความหมาย
1) Stock = คือหุ้นที่เลือกมาจาก i-chart model โดยเน้นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางตลาดสูง มีความนิยม มีสภาพคล่องและ สามารถประกอบใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบ i-chart30ได้
2) Last Trade (Close price, Change price, % change) = ราคาปิดของวันก่อน, การเปลี่ยนแปลงของราคา และเปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลง
3) Volume Monitor (Volume,Volume average 5 day) = ปริมาณการซื้อขายของจำนวนหุ้น, ปริมาณการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยใน5วันที่ผ่านมา โดยเครื่องหมาย(+,-) เป็นการบอกว่ามีปริมาณการซื้อขายหุ้นวันนั้นมากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย5วัน ***(จำนวนเต็มต้องคูณด้วย 1,000หุ้น) 4) Momentum Play (Simple Moving Average 5 days[sma 5days], Simple Moving Average 10 days [Sma 10days],Price Over5 days,Price Over10 days ,Sma cross, MACD cross, Bullish or Bearish) = สัญญานทางเทคนิคที่บอกทิศทางของหุ้นว่ามีแนวโน้มขึ้น (+)หรือลง(-) อย่างไร โดยจะมีการเรียงสัญญาณทางเทคนิคตาม ความไวของสัญญาณ ตั้งแต่ Price over 5d. หรือ 10d.ราคาปิดที่มากกว่าราคาเฉลี่ย 5วัน หรือ10วัน สัญญานเป็น(+) หมายถึงแนวโน้มขึ้น , SMA cross ราคาเฉลี่ย 5วันสูงกว่าราคาเฉลี่ย10วัน บอกถึงทิศทางขาขึ้น สัญญานเป็น+ , ส่วนสัญญาน MACD ที่เป็น+ เกิดจากค่าของเส้น MACD Line มากกว่าค่าของ Signal Line, และค่าMACD Line ที่มากกว่าศูนย์บอกถึงสภาวะหุ้นตัวนั้นว่าเป็นสภาวะกระทิง (Bullish) หรือสภาวะหมี (Bearish) หากค่าต่ำกว่าศูนย์
5) Action and Recommend = Trend (Up and Down) บอกถึงสัญญาณแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง, จำนวนวันที่เกิดสัญญาณ Day , Price action ราคาปิดของวันก่อนเกิดสัญญาณที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง และ % change เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคานับตั้งแต่ที่เริ่มเกิดสัญญาน 6) 52-weeks Range = ช่วงราคาที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
หมายเหตุ รายงานฉบับนี้จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน แต่มิได้มีวัตถุประสงค์จะชี้นําหรือชักชวนให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ระบุในรายงาน ผู้จัดทําได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ใช้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่ไม่อาจรับรองถึงความสมบูรณ์หรือความถูกต้องได้ ทั้งนี้ ข้อมูลและความเห็นต่างๆ ในรายงานอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณ และโปรดศึกษาข้อมูลของบริษัทผู้ ออกหลักทรัพย์และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้จัดทําจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว