Download ที่นี่ i-chart30 280906.pdf (119.50 KB 27.09.2006 21:30)
+ หุ้นที่เกิดสัญญาณ Up Trend day1 คือ ATC, PTT, TOP
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ Down Trend day1 คือ TTA, BAY
* หุ้นที่น่าจับตา คือ หุ้นกลุ่มธนาคารที่เริ่มทรงตัว ให้ระวังการอ่อนตัวเช่น BBL, SCB, KBANK, KTB โดยหากอ่อนตัว แนะนำ switch เป็นหุ้นกลุ่มพลังงาน เช่น TOP, PTT, PTTEP, RRC ที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นบวก เป็น Uptrend ณ ตอนนี้
ภาพรวมการลงทุน สภาวะตลาดโลกวานนี้ ปรับตัวขึ้นบวกตามตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา หลังจากการประกาศตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีปรับตัวเพิ่มขึ้น อัตราการว่างงานที่น้อยลง รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมาได้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ และการที่หุ้นบริษัทน้ำมันได้ปรับตัวลงมากและเริ่มมีการดีดกลับบ้างแล้ว ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 5 ปี ครึ่ง โดยเข้าใกล้สถิติ ที่ 11,750 ในเดือนมกราคม 2000 โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 11,720 ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นบวก รวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย
ประเด็นที่น่าจับตา
- นักลงทุนต่างชาติได้เป็นผู้ขายสุทธิเป็นวันที่ 3 แล้วด้วยมูลค่า 974 ล้านบาท
- ราคาน้ำมันโลกเริ่มทรงตัวในระดับ 61 ดอลลาร์ต่อบาเรล มากว่า 5วันแล้ว ซึ่งเชื่อว่าราคาน้ำมันอาจจะมีการดีดกลับได้ในช่วงนี้ รวมถึงหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวลงมาลึกเริ่มที่จะทรงตัวและจะปรับตัวขึ้นเช่นกัน ดั่งจะเห็นได้จาก หุ้น หลักอย่าง PTT, TOP ,RRC เป็นต้น
กลยุทธ์การลงทุน
ตลาดยังไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่ 695ได้ในวานนี้ เนื่องจากจะเห็นว่าเป็นการที่เส้นค่าเฉลี่ยหลายเส้นมารวมกันบริเวณ 695+1 เช่น sma10,sma25,sma75,BB avgเป็นต้น ดังนั้นการทะลุผ่านจะเป็นการบอกความแข็งแรงของ SET ในการปรับตัวขึ้นต่อสู่เป้าหมาย 710จุด อีกครั้งหนึ่ง แต่อย่างไรก็ดี จะเห็นว่า ตาราง i-chart ยังมีหุ้นอยู่ใน Downtrend เป็นจำนวนมากในขณะที่หุ้นเหล่านั้นหลายตัวเป็นบวกเนื่องจากหุ้นมีการดีดกลับแรง ซึ่งเรายังให้เฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณอีกครั้ง โดยจะเห็นว่ารอบนี้ การปรับตัวขึ้นของ SET จะมีกลุ่มพลังงานเป็นตัวนำต่อจากธนาคารที่ขึ้นมาในสัปดาห์ที่แล้ว
คําแนะนําการลงทุนใน i-chart 30 นั้น เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลตามสัญญานทางเทคนิค ด้วยการบอกสัญญาน หรือทิศทางแนวโน้มของราคาหุ้น ว่าแต่ละสัญญาน มีการปรับตัวขึ้นและปรับลงเช่นใด ซึ่งจะมีคำแนะนำสำหรับการบอกช่วงเวลาที่เกิดสัญญานแนวโน้มขาขึ้นและสัญญาณแนวโน้มขาลง โดยใช้ราคาปิดของสิ้นสุดวัน มาเป็นตัวกำหนด รวมทั้งการบอกจำนวนวันที่เกิดสัญญานและการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้น ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจ ในการวิเคราะห์การลงทุน
คำนิยามและความหมาย
1) Stock = คือหุ้นที่เลือกมาจาก i-chart model โดยเน้นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางตลาดสูง มีความนิยม มีสภาพคล่องและ สามารถประกอบใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบ i-chart30ได้
2) Last Trade (Close price, Change price, % change) = ราคาปิดของวันก่อน, การเปลี่ยนแปลงของราคา และเปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลง
3) Volume Monitor (Volume,Volume average 5 day) = ปริมาณการซื้อขายของจำนวนหุ้น, ปริมาณการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยใน5วันที่ผ่านมา โดยเครื่องหมาย(+,-) เป็นการบอกว่ามีปริมาณการซื้อขายหุ้นวันนั้นมากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย5วัน ***(จำนวนเต็มต้องคูณด้วย 1,000หุ้น) 4) Momentum Play (Simple Moving Average 5 days[sma 5days], Simple Moving Average 10 days [Sma 10days],Price Over5 days,Price Over10 days ,Sma cross, MACD cross, Bullish or Bearish) = สัญญานทางเทคนิคที่บอกทิศทางของหุ้นว่ามีแนวโน้มขึ้น (+)หรือลง(-) อย่างไร โดยจะมีการเรียงสัญญาณทางเทคนิคตาม ความไวของสัญญาณ ตั้งแต่ Price over 5d. หรือ 10d.ราคาปิดที่มากกว่าราคาเฉลี่ย 5วัน หรือ10วัน สัญญานเป็น(+) หมายถึงแนวโน้มขึ้น , SMA cross ราคาเฉลี่ย 5วันสูงกว่าราคาเฉลี่ย10วัน บอกถึงทิศทางขาขึ้น สัญญานเป็น+ , ส่วนสัญญาน MACD ที่เป็น+ เกิดจากค่าของเส้น MACD Line มากกว่าค่าของ Signal Line, และค่าMACD Line ที่มากกว่าศูนย์บอกถึงสภาวะหุ้นตัวนั้นว่าเป็นสภาวะกระทิง (Bullish) หรือสภาวะหมี (Bearish) หากค่าต่ำกว่าศูนย์
5) Action and Recommend = Trend (Up and Down) บอกถึงสัญญาณแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง, จำนวนวันที่เกิดสัญญาณ Day , Price action ราคาปิดของวันก่อนเกิดสัญญาณที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง และ % change เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคานับตั้งแต่ที่เริ่มเกิดสัญญาน 6) 52-weeks Range = ช่วงราคาที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
หมายเหตุ รายงานฉบับนี้จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน แต่มิได้มีวัตถุประสงค์จะชี้นําหรือชักชวนให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ระบุในรายงาน ผู้จัดทําได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ใช้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่ไม่อาจรับรองถึงความสมบูรณ์หรือความถูกต้องได้ ทั้งนี้ ข้อมูลและความเห็นต่างๆ ในรายงานอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณ และโปรดศึกษาข้อมูลของบริษัทผู้ ออกหลักทรัพย์และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้จัดทําจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว