i-chart30 24 Jul 06
บทวิเคราะห์ ล่าสุด เชิญ Download ที่นี่ i-chart30 240706.pdf (141.34 KB 21.07.2006 22:28)
+ หุ้นที่เกิดสัญญาณ BUY DAY1 คือ SET, SET50, ASP, ATC, BANPU, ITD, KBANK, KEST, KTB, PTTEP, SCB, SPALI, TOP, TPIPL, ZMICO โดยนับรวมได้ 15ตัว ซึ่งนับว่าตาราง i-chart30 สัญญาณBUY 22/32 จากหุ้นทั้งหมด
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ SELL DAY1 คือ ไม่มี
* หุ้นที่น่าจับตา คือ ZMICO, TPIPL , ASP ซึ่งหุ้นเหล่านี้เกิดสัญญาณSELL มาเป็นเวลานาน ก่อนหน้านี้เป็นเวลา 57, 56,45 วันตามลำดับ ดังนั้นการเริ่มเกิดสัญญาณ BUY เป็นวันแรกในรอบนี้อาจเป็นแนวโน้มขาขึ้นรอบใหญ่อีกครั้งของหุ้นเหล่านี้ก็ได้
สภาวะการลงทุน วันศุกร์สิ้นสัปดาห์ดูเหมือนตลาดหุ้นไทยกลับปรับแรงขึ้นมากกว่าตลาดหุ้นต่างประเทศทั่วโลก หรือสวนทางกับตลาดอื่นด้วยซ้ำ ซึ่งอย่างที่ผมบอกไปในเมื่อวานก่อนว่าตลาดเรายังมีความกังวลภายในประเทศมากกว่า ปัจจัยภายนอกจึงทำให้ วันพฤหัส ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นน้อยที่สุด หลังจาก แม้เฟดส่งสัญญาณว่าจะมีการยุติ การปรับอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ซึ่งจะส่งผลบวกกับตลาดทุนทั่วโลก
แต่มาวันศุกร์นี้ ตลาดไทย ปรับขึ้นแรงกว่า จากปัจจัยบวกภายในประเทศที่เกิดขึ้นอีกครั้ง จากข่าวการออกพระราชกฤษฎีกา ที่มีการโปรดเกล้าให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 15ตุลาคมนี้ จึงทำให้เกิดความชัดเจนทางการเมืองอีกครั้ง ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้น ขึ้นแรงในภาคบ่าย และปิดบวกขึ้นกว่า 16.75จุด โดยมีปริมาณการซื้อขายมีสูงถึง 21,823ล้านบาท ซึ่งนับเป็นการซื้อขายที่มากที่สุดในรอบสามเดือนเลยทีเดียว
ประเด็นที่น่าจับตา หุ้นกลุ่ม รับเหมาก่อสร้าง และ กลุ่มหลักทรัพย์ เป็นกลุ่มนำปรับขึ้นแรง มีการเปลี่ยนแปลงสูงสุด กว่า +10% ถึง+20% เลยทีเดียว เพราะทั้งสองกลุ่มต่างได้ประโยชน์โดยตรง ส่วนหุ้นกลุ่มพลัง เและ TPI ก็ถือว่าเป็น หุ้นที่นำตลาดในด้านปริมาณเช่นกัน ดังเช่น RRC, PTTEP, PTT
กลยุทธ์การลงทุน เราเชื่อว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อจากสัญญาณเทคนิค หากไม่มีปัจจัยลบใด ใด ในต่างประเทศ ซึ่งในหุ้นหลายตัวที่มีการปรับตัวขึ้นเป็นสัญญาณบวก โดยตาราง i-chart30 มีหุ้นปรับขึ้นเป็นสัญญาณ BUY ถึง 13ตัว ส่วน SET, SET50 ก็ปรับขึ้น BUY เป็นวันแรกเช่นกัน ดังนี้นแนวโน้มตลาดน่าจะกลับมาดีอีกครั้ง หากไม่มีปัจจัยอื่นมารบกวน
โดยสัญญาณที่ชี้ความแข็งแกร่งของความเชื่อมั่นของประเทศไทย ณ ตอนนี้ ก็คือค่าเงินบาท ครับ ซึ่งจะเห็นว่าค่าเงินบาทได้มีการแข็งค่าขึ้นทันที ทะลุแนวต้าน 38.0 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นตัวช่วยยืนยันความแข็งแกร่งของการลงทุนในประเทศอีกครั้ง
คําแนะนําการลงทุนใน i-chart 30 นั้น เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลตามสัญญานทางเทคนิค ด้วยการบอกสัญญาน หรือทิศทางแนวโน้มของราคาหุ้น ว่าแต่ละสัญญาน มีการปรับตัวขึ้นและปรับลงเช่นใด ซึ่งจะมีคำแนะนำสำหรับการบอกช่วงเวลาที่เกิดสัญญานซื้อและสัญญาณขาย โดยใช้ราคาปิดของสิ้นสุดวัน มาเป็นตัวกำหนด รวมทั้งการบอกจำนวนวันที่เกิดสัญญานและการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้น ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจ ว่าข้อมูลเหล่านี้ หน้าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด
คำนิยามและความหมาย 1) Stock = คือหุ้นที่เลือกมาจาก I-chart model โดยเน้นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางตลาดสูง และมีสภาพคล่อง 2) Last Trade (Close pricบe, Change price, % change) = ราคาปิดของวันก่อน, การเปลี่ยนแปลงของราคา และเปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลง 3) Volume Monitor (Volume,Volume average 5 day) = ปริมาณการซื้อขายของจำนวนหุ้น, ปริมาณการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยใน5วันที่ผ่านมา โดยเครื่องหมาย(+,-) เป็นการบอกว่ามีปริมาณการซื้อขายหุ้นวันนั้นมากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย5วัน ***(จำนวนเต็มต้องคูณด้วย 1,000หุ้น) 4) Momentum Play (Simple Moving Average 5 days[sma 5days], Simple Moving Average 10 days [Sma 10days],Price Over5 days,Price Over10 days ,Sma cross, MACD cross, Bullish or Bearish) = สัญญานทางเทคนิคที่บอกทิศทางของหุ้นว่ามีแนวโน้มขึ้น (+)หรือลง(-) อย่างไร โดยราคาปิดที่มากกว่าราคาเฉลี่ย 5วัน สัญญานเป็น(+) หมายถึงแนวโน้มขึ้น , ราคาเฉลี่ย 5วันสูงกว่าราคาเฉลี่ย10วัน บอกถึงทิศทางขาขึ้น สัญญานเป็น+ , ส่วนสัญญาน MACD ที่เป็น+ เกิดจากค่าของเส้น MACD Line มากกว่าค่าของ Signal Line, และค่าMACD Line ที่มากกว่าศูนย์บอกถึงภาวะหุ้นตัวนั้นว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Bullish) หรือแนวโน้มทึ่เป็นขาลง (Bearish) หากค่าต่ำกว่าศูนย์ 5) Action and Recommend = บอกถึงสัญญาณซื้อหรือขาย จำนวนวันที่เกิดสัญญาณ ราคาที่ซื้อหรือขาย และเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคานับตั้งแต่ที่เริ่มเกิดสัญญาน 6) 52-weeks Range = ช่วงราคาที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
หมายเหตุ รายงานฉบับนี้จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน แต่มิได้มีวัตถุประสงค์จะชี้นําหรือชักชวนให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ระบุในรายงาน ผู้จัดทําได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ใช้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่ไม่อาจรับรองถึงความสมบูรณ์หรือความถูกต้องได้ ทั้งนี้ ข้อมูลและความเห็นต่างๆ ในรายงานอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณ และโปรดศึกษาข้อมูลของบริษัทผู้ ออกหลักทรัพย์และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้จัดทําจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว