i-chart30 17 Jul 06
บทวิเคราะห์ ล่าสุด เชิญ Download ที่นี่ i-chart30 170706.pdf (141.40 KB 16.07.2006 00:10)
+ หุ้นที่เกิดสัญญาณ BUY DAY1 คือ ไม่มี
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ SELL DAY1 คือ BAY, KBANK, PTTCH, THAI มีทั้งหมด 5ตัว โดยปัจจุบัน หุ้นเกิดสัญญาณ SELL เท่ากับ 24 ตัวใน 30 ตัว
* หุ้นที่น่าจับตา เนื่องการทำจุดต่ำสุดใหม่ ซึ่งอาจอ่อนตัวได้ต่อเนื่องคือ ITD, SATTEL, TT&T, ASP, KEST, TPIPL, ZMICO
สภาวะการลงทุน จะเห็นว่าตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลงแรงหลังจากเกิดสัญญาณขายเป็นวันแรกจาก ตาราง i-chart30 ซึ่งจุดสังเกตจะเห็นว่าหุ้นขนาดใหญ่ต่างเกิดสัญญาณขายพร้อมกันและเป็นช่วงจังหวะเดียวกับดัชนี SET และSET50 ที่ปรับตัวลงแรง โดยในวันศุกร์ที่ผ่านมา หุ้นขนาดใหญ่อย่างกลุ่มธนาคารได้เกิดแรงขายอย่างหนัก โดยจะเห็นได้ว่าหุ้นบางตัวนั้นมีลักษณะเปิดกระโดดลงเลยทีเดียวเช่น KBANK, SCB,KEST,BBL ส่วนหุ้นที่น่าระมัดระวังคือหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ ที่มีการทำจุดต่ำสุดใหม่อีกครั้ง
ประเด็นที่น่าจับตา 1.ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ทำจุดสูงสุดใหม่ในปีนี้อีกครั้งที่ ระดับ 77ดอลลาร์ต่อบาเรล หลังจากความกังวลจากการสู้รบระหว่างอิสราเอลและเลบานอน ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องถึงสภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกและจะเป็นภาวะกดดันต่อตลาดหุ้นไทยให้ปรับตัวลงต่อได้
2.สภาวะค่าเงินบาทไทยก็อ่อนตัวเช่นกันที่ 38.07บาทต่อดอลลาร์ซึ่งนับเป็นการอ่อนค่าสุดในรอบสัปดาห์หรือ 0.6%จากจุดแข็งค่าสุดในสัปดาห์เลยทีเดียวและยังมีทีท่าที่จะอ่อนตัวต่อเนื่องได้อีก
3.นักลงทุนต่างประเทศยังเป็นผู้ขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่สอง แต่มูลค่ายังไม่สูงนักคิดเป็นการขายสุทธิเพียง -358ล้านบาท
กลยุทธ์การลงทุน ในระยะสั้นหุ้นอาจจะมีการรีบาวด์ได้ในวัน โดยเป้าหมายการดีดตัว ที่ไม่น่าจะอยู่ราว 670จุด ส่วนการปรับลงต่อจะมีแนวรับระยะสั้นอยู่ที 640จุดเช่นกัน แต่ยังอย่างไรก็ดียังคงแนะนำลดพอร์ตการลงทุนตามสัญญาณ i-chart เพราะยังไม่มีปัจจัยบวกใดใด ณ ตอนนี้ รวมถึงยังคงมีปัจจัยลบอยู่มากทั้งภายในและต่างประเทศ
คําแนะนําการลงทุนใน i-chart 30 นั้น เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลตามสัญญานทางเทคนิค ด้วยการบอกสัญญาน หรือทิศทางแนวโน้มของราคาหุ้น ว่าแต่ละสัญญาน มีการปรับตัวขึ้นและปรับลงเช่นใด ซึ่งจะมีคำแนะนำสำหรับการบอกช่วงเวลาที่เกิดสัญญานซื้อและสัญญาณขาย โดยใช้ราคาปิดของสิ้นสุดวัน มาเป็นตัวกำหนด รวมทั้งการบอกจำนวนวันที่เกิดสัญญานและการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้น ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจ ว่าข้อมูลเหล่านี้ หน้าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด
คำนิยามและความหมาย 1) Stock = คือหุ้นที่เลือกมาจาก I-chart model โดยเน้นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางตลาดสูง และมีสภาพคล่อง 2) Last Trade (Close pricบe, Change price, % change) = ราคาปิดของวันก่อน, การเปลี่ยนแปลงของราคา และเปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลง 3) Volume Monitor (Volume,Volume average 5 day) = ปริมาณการซื้อขายของจำนวนหุ้น, ปริมาณการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยใน5วันที่ผ่านมา โดยเครื่องหมาย(+,-) เป็นการบอกว่ามีปริมาณการซื้อขายหุ้นวันนั้นมากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย5วัน ***(จำนวนเต็มต้องคูณด้วย 1,000หุ้น) 4) Momentum Play (Simple Moving Average 5 days[sma 5days], Simple Moving Average 10 days [Sma 10days],Price Over5 days,Price Over10 days ,Sma cross, MACD cross, Bullish or Bearish) = สัญญานทางเทคนิคที่บอกทิศทางของหุ้นว่ามีแนวโน้มขึ้น (+)หรือลง(-) อย่างไร โดยราคาปิดที่มากกว่าราคาเฉลี่ย 5วัน สัญญานเป็น(+) หมายถึงแนวโน้มขึ้น , ราคาเฉลี่ย 5วันสูงกว่าราคาเฉลี่ย10วัน บอกถึงทิศทางขาขึ้น สัญญานเป็น+ , ส่วนสัญญาน MACD ที่เป็น+ เกิดจากค่าของเส้น MACD Line มากกว่าค่าของ Signal Line, และค่าMACD Line ที่มากกว่าศูนย์บอกถึงภาวะหุ้นตัวนั้นว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Bullish) หรือแนวโน้มทึ่เป็นขาลง (Bearish) หากค่าต่ำกว่าศูนย์ 5) Action and Recommend = บอกถึงสัญญาณซื้อหรือขาย จำนวนวันที่เกิดสัญญาณ ราคาที่ซื้อหรือขาย และเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคานับตั้งแต่ที่เริ่มเกิดสัญญาน 6) 52-weeks Range = ช่วงราคาที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
หมายเหตุ รายงานฉบับนี้จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน แต่มิได้มีวัตถุประสงค์จะชี้นําหรือชักชวนให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ระบุในรายงาน ผู้จัดทําได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ใช้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่ไม่อาจรับรองถึงความสมบูรณ์หรือความถูกต้องได้ ทั้งนี้ ข้อมูลและความเห็นต่างๆ ในรายงานอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณ และโปรดศึกษาข้อมูลของบริษัทผู้ ออกหลักทรัพย์และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้จัดทําจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว