i-chart30 10 Jul 06
บทวิเคราะห์ ล่าสุด เชิญ Download ที่นี่ i-chart30 100706.pdf (141.59 KB 07.07.2006 18:03)
+ หุ้นที่เกิดสัญญาณ BUY DAY1 คือ SCIB
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ SELL DAY1 คือ ไม่มี
สภาวะ ตลาดหุ้น ตลาดหุ้นไทยยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบ รวมถึงปริมาณการซื้อขาย ยังคงเบาบางเพียง 11,000ล้านเท่านั้น โดยหุ้นส่วนใหญ่ยังเคลื่อนที่ในกรอบแคบออกด้านข้าง ซึ่งสถานการณ์ที่ไม่ชัดเจน หรือเป็นการพักตัวจากหุ้นใหญ่เช่นนี้ ก็จะเป็นโอกาส ให้หุ้นหุ้นเก็งกำไร กลับมาเล่นอีกครั้ง โดยจะเห็นได้จากหุ้นกลุ่ม EWC, POWER, APURE, WIN , EVER ซึ่งหมายถึงว่าสัปดาห์นึ้หุ้นใหญ่อาจจะมีการพักตัว แต่เป็นโอกาสที่หุ้นขนาดกลางและเล็ก จะมีการไล่ราคาเพื่อเก็งกำไร ดังจะเห็นได้จากรูปด้านล่าง
ประเด็นที่น่าจับตา
1.ราคาน้ำมันเริ่มมีการพักตัวหลังจากทดสอบแนวต้านระดับ 75ดอลลาร์ต่อบาเรลล์ แต่อย่างไรก็ดีราคาน้ำมันในประเทศ ปรับราคาสูงขึ้นอีก ตอนนี้ก็คงเห็นลิตรละ 30บาทแล้ว ดังนั้น น่าเป็นห่วงต่อภาวะเศรษฐกิจในอนาคต นะครับ
2.นักลงทุนต่างชาติยังเป็นผู้ซื้อสุทธิต่อเนื่องกว่า สองสัปดาห์ โดยสัดส่วนเริ่มน้อยลงให้เห็นแล้ว
3.ค่าเงินบาท ได้ส่งสัญญาณแข็งค่าในช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งดูเหมือนจะแข็งค่าทะลุจุดต่ำสุดเดิมที่ 38.7บาทต่อดอลล่าร์สู 38.5บาทต่อดอลล่าร์อีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อหุ้นไทยได้อยู่
4.ประเด็นการเมืองอาจเริ่มร้อนแรงอีกครั้ง โดยในปลายสัปดาห์จะมีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรในวันศุกร์ที่14 กรกฎาคมนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อตลาดอีกครั้งแน่นอน
หมายเหตุ SETV9FB-SETV9FS =ยอดการซื้อขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในแต่ละวัน(พันล้านบาท) , A_D (SETV9FB,SETV9FS) =การซื้อขายสุทธิสะสมของนักลงทุนต่างชาติ ในระยะเวลา4เดือนที่ผ่านมา , CLX5 = สัญญาการซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าในประเทศสหรัฐอเมริกา (ดอลล่าห์ต่อบาเรลห์) ,RTXGL = ราคาซื้อขายทองคำในตลาดโลก ,DXYO = ดัชนีค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐ , RTXUSTB = อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทกับเงินดอลล่าห์สหรัฐ
กลยุทธ์การลงทุน ตลาดหุ้นอาจเคลื่อนที่ในกรอบแคบ รอดูสัญญาณทางการเมือง รวมถึง ระดับราคาน้ำมัน ที่จะทำจุดสูงสุดใหม่ และสภาวะการอ่อนค่าของเงินดอลล่าร์ ซึ่งสถานการณ์เช่น นี้ อาจทำให้หุ้นซึมอีกครั้ง โดยหุ้นกลุ่มเก็งกำไรจะเข้ามามีบทบาทแทน
คําแนะนําการลงทุนใน i-chart 30 นั้น เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลตามสัญญานทางเทคนิค ด้วยการบอกสัญญาน หรือทิศทางแนวโน้มของราคาหุ้น ว่าแต่ละสัญญาน มีการปรับตัวขึ้นและปรับลงเช่นใด ซึ่งจะมีคำแนะนำสำหรับการบอกช่วงเวลาที่เกิดสัญญานซื้อและสัญญาณขาย โดยใช้ราคาปิดของสิ้นสุดวัน มาเป็นตัวกำหนด รวมทั้งการบอกจำนวนวันที่เกิดสัญญานและการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้น ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจ ว่าข้อมูลเหล่านี้ หน้าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด
คำนิยามและความหมาย 1) Stock = คือหุ้นที่เลือกมาจาก I-chart model โดยเน้นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางตลาดสูง และมีสภาพคล่อง 2) Last Trade (Close pricบe, Change price, % change) = ราคาปิดของวันก่อน, การเปลี่ยนแปลงของราคา และเปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลง 3) Volume Monitor (Volume,Volume average 5 day) = ปริมาณการซื้อขายของจำนวนหุ้น, ปริมาณการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยใน5วันที่ผ่านมา โดยเครื่องหมาย(+,-) เป็นการบอกว่ามีปริมาณการซื้อขายหุ้นวันนั้นมากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย5วัน ***(จำนวนเต็มต้องคูณด้วย 1,000หุ้น) 4) Momentum Play (Simple Moving Average 5 days[sma 5days], Simple Moving Average 10 days [Sma 10days],Price Over5 days,Price Over10 days ,Sma cross, MACD cross, Bullish or Bearish) = สัญญานทางเทคนิคที่บอกทิศทางของหุ้นว่ามีแนวโน้มขึ้น (+)หรือลง(-) อย่างไร โดยราคาปิดที่มากกว่าราคาเฉลี่ย 5วัน สัญญานเป็น(+) หมายถึงแนวโน้มขึ้น , ราคาเฉลี่ย 5วันสูงกว่าราคาเฉลี่ย10วัน บอกถึงทิศทางขาขึ้น สัญญานเป็น+ , ส่วนสัญญาน MACD ที่เป็น+ เกิดจากค่าของเส้น MACD Line มากกว่าค่าของ Signal Line, และค่าMACD Line ที่มากกว่าศูนย์บอกถึงภาวะหุ้นตัวนั้นว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Bullish) หรือแนวโน้มทึ่เป็นขาลง (Bearish) หากค่าต่ำกว่าศูนย์ 5) Action and Recommend = บอกถึงสัญญาณซื้อหรือขาย จำนวนวันที่เกิดสัญญาณ ราคาที่ซื้อหรือขาย และเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคานับตั้งแต่ที่เริ่มเกิดสัญญาน 6) 52-weeks Range = ช่วงราคาที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
หมายเหตุ รายงานฉบับนี้จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน แต่มิได้มีวัตถุประสงค์จะชี้นําหรือชักชวนให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ระบุในรายงาน ผู้จัดทําได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ใช้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่ไม่อาจรับรองถึงความสมบูรณ์หรือความถูกต้องได้ ทั้งนี้ ข้อมูลและความเห็นต่างๆ ในรายงานอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณ และโปรดศึกษาข้อมูลของบริษัทผู้ ออกหลักทรัพย์และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้จัดทําจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว