ต่อจากบทความตอนที่แล้ว เรื่องบนนำกลยุทธ์การเก็งกำไร ซึ่ง นักลงทุน หลายท่านชื่นชอบ ดังนั้นผมจึงสรุปหัวข้อเกี่ยวกับกลยุทธ์การเก็งกำไร มาให้ ซึ่งมีถึง 12ข้อ แต่วันนี้จะขอนำเสนอ ข้อที่ 1-4ก่อน โดยส่วนตัวแล้ว ผมเชื่อว่าท่านหลายคนอาจจะกลัว เรื่องการเก็งกำไร แต่หากท่านสามารถเข้าใจ เรื่องความเสี่ยงแล้ว ท่านก็จะเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จได้เช่นกัน เพราะไม่มีผู้ประสบความสำเร็จคนใด ได้ความสำเร็จ มาโดยไม่เคยเสี่ยง
โดยท่านสามารถหา อ่านหนังสือแปล ได้จากเรื่อง "กลยุทธ์การเก็งกำไร" ซึ่งแปลโดย ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ
ข้อ 1. เรื่องของความเสี่ยง
ความวิตกกังวลไม่ใช่ความเจ็บป่วย หากแต่เป็นสัญลักษณ์ของความสุขสมบูรณ์ ถ้าหากว่าคุณยังไม่มีความวิตกกังวลแล้ว แสดงว่าคุณยังไม่ได้เผชิญกับความเสี่ยงที่มากพอ
1.1 จงเล่นเพื่อผลลัพธ์ที่มีคุณค่าพอเท่านั้น
1.2 จงหลีกเลี่ยงการกระจายความเสี่ยง
การกระจายความเสี่ยงมีข้อเสียใหญ่ๆ ด้วยกันสามประการคือ
การกระจายความเสี่ยงขัดกับหลักรองข้อ1 ซี่งกล่าวว่าคุณควรเล่นเพื่อผลลัพธ์ที่มีคุณค่าพอเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เองถ้าหากคุณตั้งต้นด้วยเงินทุนที่น้อยแล้ว การกระจายความเสี่ยงก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลงกว่าเดิมอีก
การกระจายความเสี่ยงทำให้ผลกำไรและขาดทุนของหลักทรัพย์แต่ละตัวลบล้างกันไป ผลก็คือคุณจบลงที่จุดตั้งต้น
การกระจายความเสี่ยงทำให้คุณกลายเป็นนักเล่นกลที่พยายามโยนลูกบอลขึ้นไปในอากาศมากลูกเกินไปในเวลาเดียวกัน หากคุณมีลูกบอลถึงหนี่งโหลลอยอยู่ในอากาศพร้อมกัน โดยที่ครึ่งหนึ่งทำท่าว่าจะวิ่งเฉไปทางอื่นแล้ว โอกาสที่คุณจะแก้ไขสถานการณ์คงเป็นไปได้ยาก และอาจพลอยทำให้บอลที่เหลือตกพื้นไปหมดด้วย
ข้อ 2. เรื่องของความโลภ
จงฉวยกำไรโดยเร็วที่สุด ทำไมถึงต้อง เร็วที่สุด ด้วย? เพราะคุณควรจะหยุดเล่นและเก็บเงินเข้ากระเป๋าก่อนที่โชคของคุณจะหมดไปซิ จงอย่าพยายามเล่นจนเฮือกสุดท้าย เพราะโอกาสที่คุณจะเป็นผู้ชนะจนถึงจุดนั้นคงเป็นไปได้น้อยมาก จงอย่ากังวลว่าโชคของคุณจะยังคงดีติดต่อกันอีกนานหรือไม่ เพราะคุณไม่มีโอกาสที่จะทราบว่าโชคครั้งสุดท้ายของคุณในวันนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อไร ขอให้เอากำไรใส่กระเป๋าและเลิกเล่นจะดีกว่า
2.1 จงตัดสินใจก่อนว่าคุณต้องการทำกำไร และจงเลิกเล่นทันทีที่คุณทำได้ตามเป้านั้น
ในโลกแห่งการพนันหรือการเสี่ยงโชคนั้น คุณไม่สามารถมองหาจุดหมายปลายทางได้ คุณจะต้องเป็นผู้กำหนดจุดหมายปลายทางของคุณเองเท่านั้น จริงอยู่มันเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับคนส่วนใหญ่ และหลายคนได้มองข้ามจุดนี้ไปโดยสิ้นเชิง แต่คุณจำเป็นต้องฝึกหัดตนเองเอาไว้ เพราะมันคือเครื่องมือที่จำเป็นอย่างหนึ่งในการเก็งกำไรของคุณ ขอให้คุณปลูกฝังนิสัยนี้เอาไว้ และทันทีที่คุณบรรลุถึงเป้าหมาย ขอให้คุณเลิกเล่นทันที เว้นเสียแต่ว่าคุณจะมีเหตุผลที่จำเป็นจริงๆ ซึ่งต้องเป็นเหตุการณ์ไม่คาดฝันบางอย่างเกิดขึ้นและทำให้คุณมั่นใจว่าคุณจะยังคงเป็นผู้ชนะไปอีกระยะ จึงจะยังไม่เลิกเล่น
ข้อ 3. เรื่องของความหวัง
ถ้าเรือกำลังจะล่ม อย่ามัวแต่สวดภาวนา ให้กระโดดลงน้ำทันที
การรู้จักหลบเลี่ยงจากเหตุการณ์ที่เลวร้าย ถือเป็นพรสวรรค์อย่างหนึ่ง เพราะมันเป็นเรื่องยากที่จะฝีกสอนกันได้ มันเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ มันเป็นเรื่องที่ทำให้คนๆหนึ่งแตกต่างจากคนที่เหลือ บางคนถึงกับกล่าวว่าการรู้จักทางหนีทีไล่เป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สุดของนักเก็งกำไร หรือนักการพนัน
การที่นักเก็งกำไรไม่รู้จักกระโดดออกจากเรือที่กำลังจะจมโดยเร็วเป็นเหตุผลใหญ่ที่ทำให้พวกเขาเสียเงินมากกว่าเหตุผลอื่นและเป็นเหตุผลที่ได้ทำให้นักเก็งกำไรน้ำตาตกกันมามากต่อมากแล้ว ขอให้สังเกตคำพูดให้ดีว่า เรือกำลังจะจม จงอย่ารีรอเรือจมไปแล้วครึ่งลำจึงค่อยกระโดดหนี
การตัดสินใจที่จะกระโดดออกจากเรือนั้นจะมีอุปสรรคอยู่ด้วยกัน 3 ประการ
อุปสรรคข้อแรก คือ ความกลัวว่าจะผิดหวัง กลัวว่าหุ้นที่คุณขายทิ้งจะมีราคาสูงขึ้นอีก และทำให้คุณพลาดโอกาสทองไป
อุปสรรคข้อสอง คือ คุณจะขาดทุนทุกครั้งที่คุณใช้หลักใหญ่ข้อ 3 หลายคนจะรู้สึกเจ็บใจต่อการขาดทุน แต่อย่างไรก็ตามคุณจะเจ็บใจน้อยลงเมื่อถึงเวลาปฏิบัติจริง
อุปสรรคข้อสาม คือ มนุษย์เรามักปากแข็งและไม่ยอมรับว่าตนเองทำผิด เพราะฉะนั้นคุณจะต้องยอมรับให้ได้เสียก่อนว่าคุณได้ทำผิดหรือคาดการณ์ผิดไปแล้ว ในกรณีที่คุณพลาดจริงๆ
3.1 จงถือว่าการสูญเสียเล็กๆน้อยๆ เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตและจงเตรียมพร้อมกับการสูญเสียเล็กน้อยหลายๆครั้ง ก่อนที่จะทำกำไรได้อย่างมหาศาลในวันข้างหน้า
โดยความเป็นจริงแล้ว คุณควรจะยินดีกับการสูญเสียเล็กๆน้อยๆบ้าง เพราะมันจะช่วยป้องกันมิให้คุณสูญเสียเงินก้อนใหญ่ในภายหลัง จงฝึกนิสัยการรู้จักสูญเสียเล็กๆน้อยๆเอาไว้ ถ้าหากลงทุนในหลักทรัพย์ชนิดหนึ่งไม่สัมฤทธิ์ผลแล้ว ก็ขอให้ลองกับหลักทรัพย์ชนิดใหม่ จงอย่าได้นั่งอยู่เฉยๆในเรือที่กำลังจะจมน้ำเพราะคุณจะพาลจมน้ำไปพร้อมกับเรือด้วย ใครก็ตามที่ไม่เข้าใจหลักนี้ย่อมเป็นนักเสี่ยงโชคที่ดีไม่ได้
ข้อ 4. เรื่องของการพยากรณ์
คุณไม่สามารถทำนายพฤติกรรมของมนุษย์ได้ ดังนั้นจงอย่าหลงเชื่อใครก็ตามที่อ้างว่ามองเห็นอนาคต
เพราะไม่มีใครที่สามารถทำนายอนาคตได้ ไม่ว่าอนาคตนั้นจะใกล้เพียงหนึ่งวันหรือไกลเป็นปีสองปีก็ตาม ดังนั้นถ้าหากคุณต้องการจะประสบความสำเร็จในการลงทุนแล้ว ขอให้คุณเลิกฟังคำทำนายทั้งหมด และที่สำคัญที่สุด คือ อย่าขอคำแนะนำจากนักเศรษฐศาสตร์ นักวิเคราะห์ตลาด หรือนักการเมืองหน้าใดทั้งนั้น เพราะตลาดหุ้นคือที่รวมความรู้สึกของมนุษย์จำนวนมาก ราคาของหุ้นจะขึ้นหรือลงก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่มนุษย์คิด ทำและรู้สึก ราคาหุ้นของบริษัทหนึ่งๆไม่ได้ขยับสูงขึ้นเนื่องจากตัวเลขในงบการเงินเปลี่ยน หากแต่เกิดจากการที่มนุษย์คิดว่าอนาคตของบริษัทจะดีขึ้นต่างหาก