i-chart30 09 Jun 06
บทวิเคราะห์ ล่าสุด เชิญ Download ที่นี่ i-chart30 090606.xls (430.00 KB 08.06.2006 17:45)
+ หุ้นที่เกิดสัญญาณ BUY DAY1 คือไม่มี
- หุ้นที่เกิดสัญญาณ SELL DAY1 คือ ไม่มี
* หุ้นเด่นที่น่าจับตา คือ KK มีแรงซื้อ แข็งแรงกว่าตลาด
ส่วนหุ้นที่เกิดสัญญาณ New Low (ทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 52 สัปดาห์) ได้แก่ SCIB, BECL, ITD, SATTEL,ASP,TMB,ITV,TPIPL,ZMICO
@สภาวะตลาดวานนี้ยังส่งสัญญาณลบต่อเนื่องจากวันก่อน รวมถึงตลาดหุ้นโลกล้วนแล้วแต่อ่อนตัวลดลง ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีดาวโจนส์และแนสแดก ต่างทำจุดต่ำสุดใหม่ ซึ่งส่งผลต่อเนื่องไปยังตลาดหุ้นยุโรป และตลาดหุ้นเอเซีย ซึ่งจะเห็นว่า ตลาดได้หวัน เกาหลี อินเดีย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ล้วนปรับตัวลงมากกว่า -3% ซึ่งถือว่ามาก หรือเมื่อดูเพื่อนบ้านอย่างสิงค์โปร และฮ่องกง ก็ปรับตัวลงเช่นเดียวกันไม่ต่ำกว่า -2% โดยตลาดหุ้นไทยยังมีแรงขายต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร โดยกลยุทธ ยังมองว่าจะซื้อได้ก็ต้องรอให้แรงขายน้อยลงกว่านี้ เพราะยังดูว่าแนวรับถัดไปยังคงอยู่ที่ บริเวณ 660จุด
ดัชนีปิตดลาดในวันที่ 8 มิ.ย.49 เวลา 18.00น

ข้อคิดเห็น ถึงแม้ว่า รอบนี้ตาราง i-chart จะมีการแนะนำให้ซื้อหุ้น บางตัวแล้วหุ้นปรับตัวลงไม่ได้ขึ้นต่ออย่างที่คิด นั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นระบบการคิดแบบการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพราะเมื่อสัญญาณเปลี่ยนจากซื้อเป็นขาย แม้จะขาดทุนก็ต้องทำตาม เพราะหากเรายังเชื่อมั่นในระบบการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งเมื่อมาดูคำแนะนำในการขายก็จะเห็นว่าหุ้นนั้นก็ลงจริงและแรง สร้างส่วนต่างอย่างที่เห็นซึ่งเมื่อมองผลตอบแทนในด้านลบ เมื่อดูจากราคาที่แนะนำขายจะเห็นว่าตาราง i-chart30 ก็ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการตัดสินใจให้นักลงทุนในด้านขายหรือตลาดขาลงเช่นเดียวกัน
คําแนะนําการลงทุนใน i-chart 30 นั้น เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลตามสัญญานทางเทคนิค ด้วยการบอกสัญญาน หรือทิศทางแนวโน้มของราคาหุ้น ว่าแต่ละสัญญาน มีการปรับตัวขึ้นและปรับลงเช่นใด ซึ่งจะมีคำแนะนำสำหรับการบอกช่วงเวลาที่เกิดสัญญานซื้อและสัญญาณขาย โดยใช้ราคาปิดของสิ้นสุดวัน มาเป็นตัวกำหนด รวมทั้งการบอกจำนวนวันที่เกิดสัญญานและการเปลี่ยนแปลงของราคาที่เกิดขึ้น ซึ่งนักลงทุนสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจ ว่าข้อมูลเหล่านี้ หน้าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด
คำนิยามและความหมาย 1) Stock = คือหุ้นที่เลือกมาจาก I-chart model โดยเน้นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าทางตลาดสูง และมีสภาพคล่อง 2) Last Trade (Close price, Change price, % change) = ราคาปิดของวันก่อน, การเปลี่ยนแปลงของราคา และเปอร์เซ็นการเปลี่ยนแปลง 3) Volume Monitor (Volume,Volume average 5 day) = ปริมาณการซื้อขายของจำนวนหุ้น, ปริมาณการซื้อขายหุ้นเฉลี่ยใน5วันที่ผ่านมา โดยเครื่องหมาย(+,-) เป็นการบอกว่ามีปริมาณการซื้อขายหุ้นวันนั้นมากกว่าหรือน้อยกว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย5วัน ***(จำนวนเต็มต้องคูณด้วย 1,000หุ้น) 4) Momentum Play (Simple Moving Average 5 days[sma 5days], Simple Moving Average 10 days [Sma 10days],Price Over5 days,Price Over10 days ,Sma cross, MACD cross, Bullish or Bearish) = สัญญานทางเทคนิคที่บอกทิศทางของหุ้นว่ามีแนวโน้มขึ้น (+)หรือลง(-) อย่างไร โดยราคาปิดที่มากกว่าราคาเฉลี่ย 5วัน สัญญานเป็น(+) หมายถึงแนวโน้มขึ้น , ราคาเฉลี่ย 5วันสูงกว่าราคาเฉลี่ย10วัน บอกถึงทิศทางขาขึ้น สัญญานเป็น+ , ส่วนสัญญาน MACD ที่เป็น+ เกิดจากค่าของเส้น MACD Line มากกว่าค่าของ Signal Line, และค่าMACD Line ที่มากกว่าศูนย์บอกถึงภาวะหุ้นตัวนั้นว่าเป็นแนวโน้มขาขึ้น (Bullish) หรือแนวโน้มทึ่เป็นขาลง (Bearish) หากค่าต่ำกว่าศูนย์ 5) Action and Recommend = บอกถึงสัญญาณซื้อหรือขาย จำนวนวันที่เกิดสัญญาณ ราคาที่ซื้อหรือขาย และเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของราคานับตั้งแต่ที่เริ่มเกิดสัญญาน 6) 52-weeks Range = ช่วงราคาที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดในรอบ 52 สัปดาห์
หมายเหตุ รายงานฉบับนี้จัดทําขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุน แต่มิได้มีวัตถุประสงค์จะชี้นําหรือชักชวนให้ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ระบุในรายงาน ผู้จัดทําได้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ใช้อย่างระมัดระวังแล้ว แต่ไม่อาจรับรองถึงความสมบูรณ์หรือความถูกต้องได้ ทั้งนี้ ข้อมูลและความเห็นต่างๆ ในรายงานอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จําเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า นักลงทุนควรใช้วิจารณญาณ และโปรดศึกษาข้อมูลของบริษัทผู้ ออกหลักทรัพย์และข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้จัดทําจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจลงทุนดังกล่าว