MIDA เป็นอย่างไร

MIDA เป็นอย่างไร
อยากทราบเทคนิคหุ้น MIDA ครับ เมื่อไหร่จะเป็นแนวโน้มขาขึ้น(ระยะสั้นและระยะกลาง) ปัจจัยพื้นฐานถือว่าธรรมดา ราคาที่ซื้อขายอยู่ก็ต่ำกว่า BV ค่อนข้างมาก ขอบคุณครับ
ผู้ตั้งกระทู้ eiam :: วันที่ลงประกาศ 2006-12-12 02:15:58 IP : 203.144.187.18

[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (464457)

ขอเวลาวิเคราะห์ตัวนี้หน่อยนะครับ เพราะดูเป็น Case Study ที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นหุ้นที่ มีStory หลายชั้น

เพราะเป็นหุ้นที่เข้าตลาดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2546 ราคา IPO 10บาท เริ่มต้นเข้าตลาดด้วยหุ้นสามัญของ จำนวน 500,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ราคาเปิดตลาดวันแรก 14.20บาท (กำไรกว่า 40%) หลังจากนั้น ลากหุ้นประมาณ 5 เดือน ทำ high ที่ 26.63บาท และหลังจากนั้น ปรับตัวลงมากว่า 3 ปี ทำจุดต่ำสุดที่ 1.38 บาท ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2549 หรือต่ำกว่า ราคา ipo -98.6%

ผู้แสดงความคิดเห็น dr วันที่ตอบ 2006-12-13 01:03:30 IP : 221.128.106.246

ความคิดเห็นที่ 2 (464464)

จะเห็นว่าเจ้าของหุ้น ลากหุ้นขึ้นมาและเอาหุ้น ออกมาขาย ปล่อยให้เน่าอยู่ 3 ปี คิดดูแล้วกันครับพาร์แค่ 1บาท สร้างข่าวผลประกอบการ ตอนเอาหุ้นเข้าตลาด และปั่นหุ้นขึ้นมากกว่า 25บาท

แต่หลังจากนั้น ก็ยังมี อีก สอง Strory ให้นักลงทุน ช้ำใจเล่นคือ
1.มีการเพิ่มทุน อัตราส่วน 1:1 จำนวน 512ล้านหุ้น ราคา 2บาท XR date 08 Sept 2005

2.มีการออก Warrant อัตราส่วน 5หุ้นเก่า ได้ 2 หุ้นใหม่ ราคาแปลงสภาพ 2บาท จำนวน 409ล้านหุ้น

ซึ่งทั้งสองส่วนทำให้มีจำนวนหุ้นเพิ่มขึ้น เกิด Dillution Effect คือมีหุ้นมากกว่าเดิมถึง 3เท่าตัว รวมถึง จำนวน Warrant ที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิแปลงสภาพ

และเมื่อดูผลประกอบการในภาพ จะเห็นว่าไตรมาสที่ 3 มีผลประกอบการแย่ที่สุดในรอบ 4ไตรมาสที่ผ่านมา

สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่3(F45-3)
                           บริษัท ไมด้า แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน)

                                                          สอบทาน
                                 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน      (หน่วย : พันบาท)
                                     ไตรมาสที่ 3          งวด 9 เดือน
              ปี                    2549        2548        2549        2548

   กำไร (ขาดทุน) สุทธิ              57,883    81,010    264,362    310,993
   กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท)    0.06    0.15    0.26    0.61

ผลการดำเนินงาน ในไตรมาสที่ 3 ปี 2549 บริษัทฯ มีรายได้รวม 208.80 ล้านบาทกำไรสุทธิ 57.88 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2548 ซึ่งบริษัทฯ มีรายได้รวม532.76 ล้านบาท กำไรสุทธิ 81.01 ล้านบาท ซึ่งกำไรสุทธิลดลง 28.5 % สาเหตุที่เนื่องจากรายได้จากการขายลดลงจากปี 2548 323.92 ล้านบาท หรือเท่ากับ 60.80 %เนื่องจากธุรกิจเช่าซื้ออยู่ในสภาวะชะลอตัวตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ประชาชนชะลอตัวการใช้จ่ายและเก็บออมเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ในไตรมาสนี้ได้เกิดมีอุทกภัยขึ้นในหลายจังหวัดแถบภาคกลางของประเทศไทย ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ยอดขายลดลง

ประเด็นที่น่าจับตา* จะมีการใช้สิทธิในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ ซึ่ง อาจมีการไล่ราคาก่อนที่ลูกหุ้นจะเข้าตลาด คือประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังจากวันใช้สิทธิ แต่ ในระยะกลาง หุ้นก็จะปรับตัวลง เพราะมีการ Dillute จากหุ้นใหม่ที่เข้ามา โดย Warrant นี้จะมีการใช้สิทธิทุก 3เดือน หรือในทุกวันที่ 15ของเดือนมีนาคม มิถุนายน กันยายน และธันวาคมของแต่ละปี ตลอดอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ 3ปี

ผู้แสดงความคิดเห็น dr ตอบโดยสมาชิก

วันที่ตอบ 2006-12-13 01:24:41 IP : 221.128.106.246

ความคิดเห็นที่ 3 (464466)
เมื่อมาดูมุมมองทางเทคนิค จะเห็นว่าภาพระยะยาวของหุ้น MIDA ระดับ month เริ่มจะเปลี่ยนทิศทางจากขาลงเป็นขาขึ้น บ้างแล้วโดยมีสัญญาณการเคลื่อนที่ออกด้านข้างพร้อมปรับตัวเป็นขาขึ้นอีกครั้ง ซึ่งจะเห้นว่าเส้น SMA5 month และ SMA10 month เข้าหากันพร้อมตัดขึ้นเป็นสัญญาณเชิงบวก
ผู้แสดงความคิดเห็น dr วันที่ตอบ 2006-12-13 01:30:57 IP : 221.128.106.246

ความคิดเห็นที่ 4 (464468)
และเมื่อดูภาพเทคนิคในระดับweek จะเห็นว่าสัญญาณ indicator ต่างๆ บอกว่าหุ้น mida เกิดสัญญาณบวกจาก RSI ที่ยกตัวสูงทำ Bullish Divergence และ MACD ปรับตัวขึ้นเหนือเส้นศูนย์ รวมถึงเส้นค่าเฉลี่ยที่เรียงตัวเป็นสัญญาณเชิงบวก เพียง แต่การปรับตัวขึ้นอย่างชัดเจนสวยงามได้นั้นหุ้นไม่ควรถอยลงมาต่ำกว่า 1.71บาท
ผู้แสดงความคิดเห็น dr วันที่ตอบ 2006-12-13 01:38:05 IP : 221.128.106.246

ความคิดเห็นที่ 5 (464470)
ส่วนภาพระยะสั้นระดับ Day จะเห็นว่าหุ้น mida มีการพักตัวทำกรอบสามเหลี่ยม อ่อนตัวลงมา โดยจะมีแนวรับสำคัญคือจุดต่ำสุดในครั้งก่อนที่ 1.71 บาท โดยการทะลุกรอบใดกรอบหนี่งจะเป็นตัว บอกถึงแนวโน้ม ซี่งจะเห็นว่า วอลุ่มที่หุ้นปรับตัวลงมามีเพียงเล็กน้อย นั้นหมายถึง แรงขายที่อ่อนตัวจึงมีโอกาสทีหุ้นจะดีดกลับ ได้ เพื่อปรับตัวขึ้นต่อ แต่อย่างไรก็ดี ให้รอซื้อตอนเบรค กรอบจะดีกว่าครับ เพราะหากตลาดไม่ดี และเกิด panic sell หุ้นจะลงแรง โดยมีแนวรับถัดไปที่ บริเวณ 1.65 และ 1.55บาท โดย indicator RSI ส่งสัญญาณเตือนจากการทำ new low ใหม่ รวมถึง macd ที่ตัดศูนย์ ลงด้านล่าง เป็นสัญญาณ Bearish แล้ว * รวมความแล้วหุ้นตัวนี้ ค่อนข้างเล่นยากครับ เพราะมีเจ้ามือคอยคุม อาจดึงขึ้น ดึงลง ได้ตลอด หรือหลอกด้วยเทคนิคก็มี ดังนั้นกลยุทธ์ที่สำคัญคือการคาดเดา ครับ ว่า เจ้าของและเจ้ามือคิดอย่างไร จะเอาหุ้นกลับเมื่อไหร่ เมื่อนั้น คุณก็จะเห็นเหตุผลมาสนับสนุนต่างๆ นาๆ ครับ และ วอลุ่มจะคึกคักให้เห็นอีกครั้งครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น dr วันที่ตอบ 2006-12-13 01:48:52 IP : 221.128.106.246

ความคิดเห็นที่ 6 (464476)
หุ้นนี้เล่นได้แต่เก็งกำไร ระยะสั้น ก่อนครับ เพราะหากหุ้น ปรับเหนือ 2บาท เมื่อไหร่ ก็จะมีวอแรนต์ รอแปลงสภาพ อีก 400กว่าล้านหุ้น ซึ่งจะมีแปลงทุก 3 เดือน คงอีกนานเหมือนกันหากจะเอาขึ้นผ่านทะลุ 2 บาท ดังนั้นต้องมี ข่าวดี จริง หรือไม่ Warrant อยู่ในมือเจ้ามือหมดแล้ว ไม่มีขายในกระดาน ก็จะทำให้ไม่มีคนแปลงหุ้น ออกมา หลังจากนั้น ค่อยลากหุ้นแม่ขึ้น ไปให้มากที่สุด อย่างน้อยก็คือ 3บาท ครับ และ ค่อยรอขาย วอแรนต์ตอนหลัง เพื่อให้ได้กำไร ซึ่งก็คืออย่างน้อยเท่าตัวจากราคาปัจจุบันตอนนี้ที่ 50กว่าสตางค์ ดังนั้นก็ต้องขายอย่างน้อยที่เป้าหมาย 1 บาทครับสำหรับ วอแรนต์
ผู้แสดงความคิดเห็น dr วันที่ตอบ 2006-12-13 01:57:45 IP : 221.128.106.246

ความคิดเห็นที่ 7 (464477)
แม้ว่า Book value จะอยู่ที่ 3 บาท หรือ P/BV ที่ 0.56 เท่า เมื่อเทียบในกลุ่มก็ถือว่าถูกครับ แต่แนวโน้มทางธุรกิจยังไม่เด่นชัด และยังคงเป็นแนวโน้มธุรกิจขาลง เปรีบบได้เหมือนกับ Singer ดังนั้น Book Value จึงจะยังไม่เกิดประโยชน์จนกว่าธุรกิจจะเปลี่ยนแนวโน้มหรือสัญญาณหุ้นจะเปลี่ยนทิศ ครับ รวมถึงการบันทึกทางบัญชี อาจจะไม่เป็นอย่างที่เห็นก็ได้ครับ เพราะดูจากนิสัยของหุ้น และเจ้าของ ก็บ่งบอกแล้วครับ ว่าเชื่อถือได้ไหม
ผู้แสดงความคิดเห็น dr วันที่ตอบ 2006-12-13 02:06:57 IP : 221.128.106.246

ความคิดเห็นที่ 8 (464633)
อธิบายได้รายละเอียด ขอบพระคุณครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น eiam วันที่ตอบ 2006-12-13 10:38:05 IP : 203.144.187.18

ความคิดเห็นที่ 9 (467035)
หุ้นตัวนี้ดูจากหลักธรรมาภิบาล ไม่ควรเข้าไปยุ่ง ปีที่แล้ววันก่อนประชุมboardลากราคาขื้นไป2.40บาทพอประชุมเสร็จประกาศงดจ่ายปันผล ทั้งๆที่ดูจากผลประกอบการแล้วควรจะจ่ายได้ แตมีการร่วมมือกับนักวิเคราะห์บางคนออกมาเชียร์ให้คนซื้อทางทีวี มีคนเสียหายมากจากปีที่แล้ว จึงอยากเตือนทุกคนเวลาฟังนักวิเคราะห์ให้ใช้หลัก กาลามสูตรคือฟังหูไว้หู
ผู้แสดงความคิดเห็น Likhit วันที่ตอบ 2006-12-17 15:10:15 IP : 210.203.183.54

ความคิดเห็นที่ 10 (713172)

ผู้แสดงความคิดเห็น _ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2007-07-18 14:55:33 IP : 203.146.127.159

ความคิดเห็นที่ 11 (748570)

ผู้แสดงความคิดเห็น _ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2007-08-24 17:14:32 IP : 203.146.127.179

[1]