การวิเคราะห์ทางเทคนิค เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยทำให้เราได้เห็นถึง พฤติกรรมของหุ้นตัวนั้นๆ ครับ ซึ่งบางครั้งหุ้นบางตัว อาจจะไม่สามารถวิเคราะห์ได้ทางเทคนิค เนื่องจาก เจ้าของหุ้นหรือเจ้ามือ เป็นคน Control จำนวนหุ้น และทิศทางหุ้นได้ทั้งหมด ดังนั้น เราจึงควรเลือก ครับ ว่า หุ้น แบบใด ถึงจะสามารถใช้วิเคราะห์ทางเทคนิค ได้ และเรามีเวลาให้กับมันมากน้อยแค่ไหน

ซึ่งหลักการวิเคราะห์ทางเทคนิค ก็เปรียบเหมือนการคำนวนจากสถิติ และความน่าจะเป็น ทางคณิตศาสตร์ ดังนั้น จำนวนประชากร (population) หรือฐานข้อมูลที่นำมาคำนวนจึงมีความสำคัญ  ซึ่งหมายความว่าหุ้นที่มีจำนวนคนเล่นเยอะ และกระจายด้วย***ส่วนการถือหุ้นทึ่ใกล้เคียงกัน เช่น หุ้นที่มีสภาพคล่อง หรือหุ้นที่เหล่ากองทุนใช้ในการซื้อขาย ก็จะสามารถคำนวนได้แม่นยำกว่า

ส่วนหุ้นที่ มีเจ้ามือ ถือหุ้นเป็นส่วนใหญ่ และมีรายย่อยถือกันจำนวนน้อยไม่กีคน เช่น หุ้น IPO เข้าใหม่ หรือ หุ้นที่พึงกลับมาซื้อขาย หลังถูกแขวนไว้นาน ซึ่งหุ้นเหล่านี้จะไม่ค่อยมีสภาพคล่อง แต่มีเจ้ามือเข้าไปเก็บหุ้น แล้วสร้าง Story ร่วมกับเจ้าของ เช่นหาผู้ร่วมทุน เปลี่ยนเจ้าของ และอื่นๆ หลังจากนั้นลากหุ้นขึ้นไปพร้อมปล่อยข่าวต่างๆ

สรุปรวมความแล้ว นอกเหนือจากการวิเคราะห์ทางเทคนิค ยังมีอีกศาสตร์ที่สูงกว่า คือ การใช้จิตวิทยาการลงทุน ซึ่งจะต้องอ่านเกมส์ การลงทุน และต้องรู้เท่าทัน ประกอบกับวินัยการลงทุน จึงจะสามารถเข้าใจถึง อารมณ์ของนักลงทุนและตลาด ดั่งเช่น คุณเอกยุทธ ที่สามารถอ่านเกมส์ และเล่นเกมส์กับหุ้นเหล่านั้นได้ แต่บอกได้เลย ครับผมเชื่อว่าอย่างไร เขาต้องใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิค ประกอบการตัดสินใจ หรือแม้แต่เจ้ามือ เขาก็ต้องสร้างกราฟเทคนิค เพื่อดูอารมณ์ของนักลงทุนเช่นกัน ครับ

เยี่ยมครับอาจารย์

อาจารย์สอนด้วยนะครับ

การใช้จิตวิทยาการลงทุนครับ

ขอบคุณครับ