ReadyPlanet.com


ระวังหุ้นดิ่ง-ตลาดอนุพันธ์ล่ม บทความจากฐานเศรษฐกิจ


ระวังหุ้นดิ่ง-ตลาดอนุพันธ์ล่ม

       อย่างไรก็ตามนายวิศิษฐ์ กล่าวยอมรับว่า ขณะนี้มีสัญญาณไม่ดีที่อาจทำให้สภาพคล่องทั่วโลกหดหาย คือ การล้มละลายของ กองทุนบริหารความเสี่ยง(Hedge Fund)ที่ลงทุนในตราสารอนุพันธ์ โดยเฉพาะเฮดจ์ฟันด์ที่เกี่ยวเนื่องกับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สหรัฐอเมริกา ที่อาจขาดทุนจากฟองสบู่ภาคอสังหาฯในสหรัฐฯแตก และหากไม่สามารถจำกัดวงความเสียหายได้ก็จะทำให้เกิดการไถ่ถอนหน่วยลงทุน

       "ขณะนี้มีเงินลงทุนที่อยู่ในตราสารอนุพันธ์ทั่วโลก 400 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯซึ่งคิดเป็น 9 เท่าของจีดีพีโลก ถ้าไพร์มโลน ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐอเมริกามีปัญหา และมีอัตราที่สูงขึ้นเรื่อย ๆก็จะทำให้เฮดจ์ฟันด์ที่ลงทุนในตราสารอนุพันธ์เหล่านี้ ราคาถูกจนทำให้เฮดจ์ฟันด์ต้องขายหุ้น และขายสกุลเงินต่างๆ ที่ถืออยู่เพื่อนำมาปิดสถานการณ์ขาดทุนจากการลงทุนในตราสารอนุพันธ์" นายวิศิษฐ์ กล่าวและว่า

       เมื่อเร็ว ๆนี้ได้มีเฮดจ์ฟันด์ที่สูญเสียจากการลงทุนในตราสารอนุพันธ์ในสหรัฐ ฯแล้ว คือ แบ สเทียร์น กับดีลเลียน รีด ซึ่งเป็นเฮดจ์ฟันด์ที่ลงทุนในไพร์มโลน มีความสูญเสียประมาณ 16 % หรือคิดเป็นประมาณ 251,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ฯ ซึ่งถือว่าเป็นความสูญเสียที่มาก โดยเท่ากับ 20 % ของเงินทุนในธนาคารพาณิชย์ของสหรัฐฯทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันมีเงินทุนรวมกัน 850,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

       "สภาพคล่องที่มีอยู่ทั่วโลกตอนนี้ ไม่ว่าการเกินดุลย์บัญชีเดินสะพัดของประเทศในเอเชีย และการพิมพ์ธนบัตรของสหรัฐฯก็ไม่น่ากลัวเท่ากับตลาดอนุพันธ์ที่สร้างสภาพ คล่องทั่วโลกค่อนข้างมาก ดังนั้นถ้ามีระเบิดแตกที่ใดที่หนึ่งก็จะส่งผลลามไปทั่ว แต่ก็หวังว่าคงไม่เกิดขึ้น น่าจะมีกระบวนการป้องกันที่ดี"

       นายวิศิษฐ์ กล่าวยอมรับว่า ตอนนี้นักวิเคราะห์ทั่วโลกกลัวตลาดอนุพันธ์พัง เพราะไม่รู้ว่าใครถือครองอนุพันธ์อยู่บ้าง เนื่องจากมีการขายต่อเปลี่ยนมือและก็มีการทำราคาขึ้นไปอีกโดยอาศัยสภาพ คล่องทั่วโลกที่เกิดขึ้น ดังนั้นหุ้นแต่ละประเทศในโลกที่ทำนิวไฮอยู่ขณะนี้ ถ้ามีระเบิดเวลาขึ้นมาก็จะเกิดจากตราสารอนุพันธ์

       นอกจากนี้ถ้าญี่ปุ่นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าปี หน้าจะปรับขึ้นไปอยู่ที่ 1.50 % ต่อปี ก็จะทำให้นักลงทุนที่กู้เงินเยนไปลงทุนสินทรัพย์ทั่วโลกก็จะเกิดการไถ่ถอน เงินลงทุนคืนเพื่อนำเงินไปคืนหนี้สกุลเงินเยน โดยคาดว่ามีแนวโน้มที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

       ดังนั้นนักลงทุนสามารถป้องกันตัวเองได้โดย 1.ดูสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่น 2.ดูการล้มละลายของเฮดจ์ฟันด์ที่ลงทุนในตราสารอนุพันธ์ โดยหากมีการล้มละลายเพิ่มขึ้นและถูกถอนหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นนักลงทุนต้อง ระวัง เพราะเฮดจ์ฟันด์ลงทุนจนไม่รู้ว่าสินทรัพย์กระจายอยู่ที่ไหนบ้าง

ที่มา ฐานเศรษฐกิจ


ผู้ตั้งกระทู้ dr โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2007-07-18 09:53:29 IP : 58.64.89.150


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (713094)
ผู้แสดงความคิดเห็น _ ›ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2007-07-18 14:50:10 IP : 203.146.127.159


ความคิดเห็นที่ 2 (748424)
ผู้แสดงความคิดเห็น _ ›ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2007-08-24 17:01:36 IP : 203.146.127.179



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.