การเปรียบเทียบราคาเป้าหมายของหุ้นแต่ละตัว เทียบกับราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน สามารถ บอกอะไร ได้บ้าง

หนึ่งในหน้าเวปไซด์ที่ นักลงทุนหลายท่านอาจจะเคยรู้จัก หรือไม่เคย รู้จัก ซึ่งเป็นหน้าหนึ่งที่อยู่ในหน้า SETTRADE ที่เรียกว่า Analyst Consensus นั้นจะมีราคาเป้าหมาย จากโบรกเกอร์ ต่างๆ ที่ให้มูลค่าที่เหมาะสมของหุ้นแต่ละตัว แต่ข้อมูลเหล่านี้ ไม่มีการวิเคราะห์ซ้ำหรือเปรียบเทียบว่า หากลงทุนตามนั้นจะให้ผลตอบแทนที่ดีหรือไม่

ดังนั้น หากนักลงทุน ต้องการนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ ควรจะต้องพิจารณา และสังเกต ว่าข้อมูลเหล่านี้ ว่าน่าเชื่อถือเพียงใด
ซึ่งบ่อยครั้ง ข้อมูลที่เราลงทุนตามอาจ ช้าเกินไป หรือเมื่อราคาหุ้น แซงราคาเป้าหมาย ก็จะเห็นว่า เหล่านักวิเคราะห์จึงมาทำบทวิเคราะห์ตามราคาหุ้นตัวนั้น เพื่อหาเหตุและผลเพื่อสนับสนุนถึง เหตุที่ราคาหุ้นนั้นปรับขึ้นไป ซึ่งส่วนหนึ่งของเหตุผลที่นักวิเคราะห์ต้องปรับเป้าขึ้นไปก็คือนักลงทุนต่างอยากรู้ และอยากหาเหตุผลเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อหุ้นตัวนั้น เพราะเห็นราคาวิ่งขึ้น

แต่อย่างไรก็ดี หากได้ดูตาราง สรุปข้อมูลจาก i-Consensus จะเห็นได้ว่า หุ้นที่มีการปรับตัวแรงในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา กลับมีราคาเป้าหมายที่ปรับเพิ่มขึ้น เมื่อ เทียบกับ 3 เดือนที่แล้ว
ซึ่งการปรับราคาเป้าหมาย นั้น ส่วนใหญ่มักจะช้ากว่าราคาหุ้นที่ปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึง ราคาหุ้นเหล่านี้ ณ ปัจจุบัน ก็มีราคาสูงกว่า ราคาเป้าหมายโดยเฉลี่ยแล้ว ซึ่งอาจสรุปว่าหุ้นเหล่านี้ ไม่น่าลงทุนแล้ว

แต่เหตุใด ราคาหุ้นเหล่านี้ จึงสามารถปรับตัว ต่อเนื่อง ได้อีก แม้ราคาหุ้นจะเกินราคาเป้าหมายไปแล้วก็ตาม ดังเช่น หุ้น CP7-11, ATC, TTA , MAKRO, BANPU, LPN

สิ่งนี้จึงพิสูจน์ได้ว่า การลงทุน ด้วยการเลือกหุ้นลงทุน โดยดูจากมูลค่าที่เหมาะสม จากบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ เพียงอย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องทั้งหมด เพราะเราไม่สามารถมองเห็นถึงวาระซ่อนเร้นที่ทำให้ราคาหุ้นนั้นปรับตัวขึ้นไปได้

โดยสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้สามารถวิเคราะห์เพื่อเห็นมุมมองเพิ่มขึ้นได้นั้น คือการดูปริมาณการซื้อขายเพื่อให้ทราบถึง Demand และ Supply ที่ผลักดันราคาหุ้นขึ้นไป เพื่อศึกษาพฤติกรรมของนักลงทุน ผู้อาจรู้ข้อมูลภายในเหล่านั้น (หรือข่าวดี) ที่สามารถดันราคาให้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องได้

ซึ่งการพิจารณาขายนั้น หากดูแต่เพียงราคาเป้าหมายท่านคงต้องขายหุ้นไปก่อน เพราะราคาเกินราคาเป้าหมาย จากนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ทีประเมิณไว้ ดังนั้นการประเมิณ แรงซื้อต่างหากที่จะบอกถึงจุดขายหุ้นได้ ซึ่งจะสังเกตได้ว่า เมื่อหุ้นขึ้นจนถึงระดับหนึ่งก็จะมีแรงซื้อน้อยลง และอ่อนตัวหลุดเส้นแนวโน้ม หรือราคาเฉลี่ย ดังนั้นหากเราใช้องค์ประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค ก็จะสามารถประเมิณ ถึงราคาที่เหมาะสมสำหรับการขาย จาก พฤติกรรมของราคาหุ้นนั้นๆได้

รายละเอียด สำหรับ ตาราง สามารถ Download i-Concensus ได้ที่
http://www.investorchart.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=500863&Ntype=5