ReadyPlanet.com


เศรษฐกิจไทยจะโตต่ำสุดในรอบ 5-6 ปี



 สมคิด เอนกทวีผล
 Positioning Magazine   มกราคม 2550


“เศรษฐกิจไทยปี 2550 จะมีอัตราเติบโตต่ำสุดในรอบ 5-6 ปี เพราะได้รับผลกระทบจากนอกประเทศ จะคล้ายกับปี 2001 ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ตกต่ำจากปัญหาคดีล้มละลายแต่งบัญชีของ Enron และ Wordcom แต่ครั้งนี้จะเป็นเพราะสหรัฐฯ มีปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ฟองสบู่อสังหาฯ แตก ทั้งหมดนี้จะกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวตลอดปี 2550 และกดดันให้เงินบาทต่อดอลลาร์แข็งตัวทั้งปีเช่นกัน”

เป็นบทสรุปเศรษฐกิจไทยปีนี้ 2550 ของ ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง ที่เคยผ่านงานผู้บริหารและที่ปรึกษาสถาบันการเงินและองค์กรศึกษาวิจัยมาหลายแห่ง ปัจจุบันเป็นนักเศรษฐศาสตร์อิสระที่มีงานบรรยายและงานเขียนเต็มมือ

ดร.อนุสรณ์ มองว่า ปี 2550 จะมี 3 ประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตมากเพราะส่งออกได้มาก คือ จีน อินเดีย และเวียดนาม ประเทศเหล่านี้มีเงินสดสำรองมาก เก็บไว้เป็นพันธบัตรสหรัฐ เมื่อดอลลาร์อ่อน ประเทศเหล่านี้ โดยเฉพาะจีน จะไม่อยากถือสินทรัพย์สกุลดอลลาร์ จะพากันขายพันธบัตรสหรัฐออกมา ซ้ำเติมให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลงไปอีก ต้องจับตามองเพราะจะกระเทือนให้ค่าบาทไทยแข็งเกินไปได้

ระวัง “ยาแรง” ของแบงก์ชาติ

ดร.อนุสรณ์ พยากรณ์ว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยคงต้องออก “ยาแรง” หรือมาตรการเข้มงวดอีกหลายขนานเพื่อไม่ให้บาทแข็งเกินไปจนทำให้ยอดส่งออกลดลงนัก ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ แต่ต้องระวังกว่าที่ผ่านมา ต้องนิ่มนวลและรักษาเสถียรภาพกว่าที่ผ่านมา

มาตรการบังคับสำรองเงินไหลเข้า อย่างวันที่ 19 ธันวาฯ ที่หุ้นลงร้อยกว่าจุดนั้น ถือเป็นบทเรียนของคลังและแบงก์ชาติว่าจะทำอะไรต้องคำนึงถึง “โลกาภิวัตน์” มากกว่านี้ เพราะยุคนี้เงินมหาศาลไหลไปมาได้ทั่วโลกอย่างรวดเร็วและส่งผลได้รุนแรงกว่าอดีตมากขึ้นเรื่อยๆ การแก้ปัญหาโดยลดดอกเบี้ย น่าจะดีกว่าบังคับกันสำรองแบบที่ทำไป

นอกจากนี้แล้ว ปี 2550 ผลกระทบจากน้ำท่วมในปลายปี 49 จะส่งผลทางเศรษฐกิจชัดขึ้นเรื่อยๆ จากการที่มีประชาชนมากมายสูญเสียผลผลิต ที่ทำกิน และบ้านเรือนไป รัฐบาลต้องใส่ใจและแก้ปัญหาปากท้องหลังการน้ำท่วมให้มากด้วย


จับตาดู...

1.เดือนกุมภาฯ OPEC จะลดกำลังการผลิต ราคาน้ำมันน่าจะหยุดลงและอาจจะกลับขึ้นได้ แต่คงไม่เร็วนักเพราะที่สหรัฐฯ และยุโรปจะสิ้นสุดฤดูหนาวพอดี เศรษฐกิจไทยคงไม่กระเทือนมากเท่ารอบก่อน เพราะทุกฝ่ายปรับตัวได้ยืดหยุ่นขึ้น ชินและรับมือได้มากขึ้น

2.การส่งออกจะลดลง เพราะเงินบาทแข็งขึ้นมาต่อเนื่องและคงจะอยู่ระดับนี้ไม่อ่อนลง กลุ่มที่จะลดลงมากคืออิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยี เพราะตลาดหลักคือสหรัฐฯ นั้นเศรษฐกิจชะลอตัวมีปัญหา ส่วนการส่งออกภาคเกษตรไทยจะไม่กระทบเท่าไรนัก ซึ่งก็เป็นสภาวะที่พอรับได้ เพราะถ้าการส่งออกภาคเกษตรแย่ คนไทยจะได้รับผลร้ายกว้างขวางกว่า

3.การเมือง ทั้งรัฐธรรมนูญและการเตรียมการเลือกตั้ง ถ้าเป็นไปอย่างถูกต้อง บริสุทธิ์ยุติธรรม ชัดเจน ต่างชาติจะยอมรับ การลงทุนต่างประเทศก็จะกลับเข้ามาได้มาก


รัฐบาลควรทำ...

ดร.อนุสรณ์อยากเห็นรัฐบาลใช้ตลอดปี 2550 วางแนวทางให้สังคมไทยหลายๆ ด้านดังนี้

1.การสะสางคดีทุจริตควรต้องเสร็จสิ้นในปีนี้

2.รัฐบาลต้องวางกรอบการปฏิรูปประเทศให้มีประชาธิปไตยที่แท้จริง อย่าให้เป็น Money Politic แบบเดิม สร้างกลไกตรวจสอบมากขึ้น

3.ต้องสร้างความเป็นธรรมในสังคม เช่นการกระจายรายได้จากคนรวยลงไปคนจน ภาษีทรัพย์สิน ภาษีมรดก ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกโจมตีว่าไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เพราะถ้ารัฐบาลชุดหลังจากนี้ที่มาจากการเลือกตั้งอยากแก้ไขข้อไหน ก็ค่อยมาแก้ไขภายหลังได้ตามระบบ เรื่องนี้รัฐบาลแต่งตั้งอาจจะกล้าทำได้เพราะไม่ต้องห่วงกลุ่มผู้สนับสนุนต่างๆ แต่ก็อาจจะมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งกล้าทำก็ได้เพราะเป็นผลดีต่อประชาชนส่วนใหญ่ แต่ทั้งนี้การเลือกตั้งต้องบริสุทธิ์ จึงจะได้รัฐบาลเลือกตั้งที่จะมาสร้างไทยให้เป็น “รัฐสวัสดิการ” ได้ คือมีหลักประกันสุขภาพ ความปลอดภัยในการทำงาน คุณภาพชีวิต ถ้วนหน้าอย่างพอเพียง ต่างจาก “ประชานิยม” ที่เน้นแค่สร้างความพอใจ หลายอย่างก็เป็นแค่ความพอใจระยะสั้น ผลดีระยะสั้นๆ

4.ต้องตีความ “เศรษฐกิจพอเพียง” เพื่อส่วนรวม คือสร้างภูมิคุ้มกันภายในให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพบนความเป็นธรรม ไม่ใช่ตีความปกป้องผลประโยชน์ของกลุ่มใด หรือสร้างชาตินิยมในทางที่ผิด เช่นปฏิเสธโลกาภิวัตน์ ประเทศไทยต้องแข่งขันกับต่างประเทศในทางการค้าได้

5.รัฐบาลต้องเปิดเสรีให้มีการวิพากษ์วิจารณ์รัฐได้ ให้มีการชุมนุมได้ เช่นอย่างการชุมนุมของพันธมิตรฯ เมื่อปีที่แล้ว เป็นสิ่งดี อย่าไปมองเป็นปัญหา ทั้งหมดเป็นกระบวนการเรียนรู้ของภาคประชาชน เป็นส่วนหนึ่งของระบอบประชาธิปไตย ที่ผ่านมาประชาธิปไตยไทยเหมือนเด็กที่ยังไม่โต แล้วผู้ปกครองก็หงุดหงิดที่ไม่ยอมโตเสียที ก็เลยจับไปขัง ลงโทษเป็นระยะๆ ยิ่งขังก็ยิ่งซ้ำเติมให้ไม่โตเข้าไปอีก ประเทศอื่นๆ คุยกันเรื่องจะค้าขายจะวิจัยอะไรใหม่ๆ แต่ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงการปกครองมาแล้ว 74 ปี ก็ยังคงเถียงกันเรื่องร่างรัฐธรรมนูญอยู่ แปลว่าที่ผ่านมายังเดินไม่ถูกทางในการสร้างประชาธิปไตย

อย่าลงทุนมาก

ปี 2550 ดร.อนุสรณ์ฝากว่าคนไทยต้องระวังในการจะลงทุนใหญ่ๆ หรือจะสร้างภาระให้ตัวเอง ต้องไม่ใช้จ่ายเกินตัวเด็ดขาด แต่ก็ไม่ต้องระวังเกนเหตุจนเสียโอกาสในบางครั้งที่จำเป็นจริงๆ สำคัญจริงๆ ถ้าคิดรอบคอบแล้ว ก็ลงทุนหรือใช้จ่ายได้ บนความรอบคอบและระวัง เพราะเศรษฐกิจจะชะลอตัวแน่ แต่ไม่ถึงขั้นวิกฤตแน่นอน

คนไทยทุกคนต้องเชื่อมั่นในการทำสิ่งที่ดี แม้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ถือว่าเราทำดีที่สุดแล้ว ให้พอใจกับสิ่งที่ทำไป แต่ทั้งนี้ “ทำดี” ต้องทำอย่างรู้เท่าทัน ต้องระวังไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของใครกลุ่มไหนมาหลอกใช้ ต้องรอบคอบใช้สติปัญญา หลุดให้พ้นจากกระแสสังคม มองทุกอย่างตามความเป็นจริง และสุดท้ายไม่ลืมคำว่า “อนิจจัง” ทุกอย่างไม่เที่ยง และประโยคสำคัญที่ว่า “มันเป็นเช่นนั้นเอง”


Profile :

Name : ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ
Education :
- ปริญญาเอกเศรษฐศาสตร์ Fordham University, New York, U.S.A.
- Ph.D. Candidate (Economics) Fordham University, New York, U.S.A. (สำเร็จหลักสูตรปริญญาเอกเฉพาะ Course,Work)
- ปริญญาโทเศรษฐศาสตร์ Fordham University นิวยอร์กสหรัฐอเมริกา
- ปริญญาโทบริหารธุรกิจ Southeastern University, Washington, D.C., U.S.A.
- ปริญญาตรีรัฐศาสตร์ (เกียรตินิยม) สาขาบริหารรัฐกิจ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Career Highlights
อดีต Senior Vice President สำนักวิจัยและวางแผน ธนาคารไทยธนาคาร
อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนบีที
อดีตกรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการพัฒนานโยบายสาธารณะ สำนักนายกรัฐมนตรี
ฯลฯ
ที่มา http://www.positioningmag.com/magazine/Details.aspx?id=55327


ผู้ตั้งกระทู้ dr กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2007-01-11 01:12:14 IP : 125.25.194.96


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (713171)
ผู้แสดงความคิดเห็น _ ›ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2007-07-18 14:55:31 IP : 203.146.127.159


ความคิดเห็นที่ 2 (748591)
ผู้แสดงความคิดเห็น _ ›ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2007-08-24 17:16:22 IP : 203.146.127.179



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.