xBT> USA:รีพับลิกันแนะรบ."โอบามา"ปล่อยแบงก์ใหญ่ล้ม เลี่ยงทุ่มเงินอุ้มภาคธนาคาร

วอชิงตัน--9 มี.ค.--รอยเตอร์

สมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐจากพรรครีพับลิกันกล่าวว่า สหรัฐควรปล่อยให้

ธนาคารขนาดใหญ่บางแห่งล้มละลายแทนที่จะนำเงินจากรัฐบาลกลางไปช่วยพยุง

กิจการธนาคารกลุ่มนี้ต่อไป

ทั้งนี้ นายริชาร์ด เชลบี ซึ่งเป็นวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันคนสำคัญในคณะ

กรรมาธิการการธนาคาร กล่าวว่า สหรัฐไม่ควรทำตามอย่างญี่ปุ่น ซึ่งเคยเข้าช่วย

ฟื้นฟูกิจการธนาคารที่อ่อนแอในทศวรรษ 1990 และส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ

เป็นเวลายืดเยื้อยาวนานยิ่งขึ้น

นายเชลบีกล่าวในรายการโทรทัศน์ This Week ทางสถานี ABC ว่า

"ให้เราปิดธนาคารเหล่านี้ และปล่อยให้พวกเขาเลิกทำธุรกิจ และถ้าหากพวกเขา

ตายแล้ว เราก็ควรจะฝังพวกเขา เราฝังธนาคารขนาดเล็กอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น

เราจึงควรฝังธนาคารขนาดใหญ่บางแห่งด้วย และควรส่งสัญญาณที่แข็งกร้าวต่อตลาด"

เจ้าหน้าที่ทางการเงินของสหรัฐถูกโจมตีมากยิ่งขึ้นในระยะนี้ ในขณะที่

การปล่อยกู้หรือการอัดฉีดเงินทุนหลายแสนล้านดอลลาร์เข้าสู่สถาบันการเงินที่ประสบ

ปัญหาไม่สามารถยับยั้งภาวะเศรษฐกิจตกต่ำได้ จนทรุดตัวลงอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

ด้านนายจอห์น แมคเคน ซึ่งเป็นวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันและยังคงเป็นผู้นำ

พรรคหลังจากพ่ายแพ้การเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2008 กล่าววิจารณ์

มาตรการจัดการกับภาคธนาคารของรัฐบาลสหรัฐ

"ผมไม่คิดว่าพวกเขาได้ตัดสินใจอย่างเข้มแข็ง ซึ่งได้แก่การปล่อยให้ธนาคาร

เหล่านี้ล้มละลาย" นายแมคเคนกล่าวในรายการ Fox News Sunday

ในขณะที่รัฐบาลสหรัฐเพิ่มการถือครองหุ้นในธนาคารขนาดใหญ่อย่างเช่น ซิตี้กรุ๊ป

อิงค์ ข่าวลือเรื่องการยึดกิจการธนาคารเป็นของรัฐ ก็กระตุ้นให้เกิดการอภิปรายในประเด็น

ที่ว่า ผู้ควบคุมกฎระเบียบควรให้ความช่วยเหลือแก่ระบบการเงินมากเพียงใด

นายเชลบีไม่ได้ระบุชื่อธนาคารแห่งใด แต่เมื่อเขาได้รับคำถามเรื่องซิตี้กรุ๊ป

เขาก็กล่าวว่า "ซิตี้มักจะทำตัวเป็นเด็กมีปัญหา"

นายแมคเคนกล่าววิจารณ์ภาคธนาคารสหรัฐเหมือนนายเชลบี แต่วุฒิสมาชิก

ทั้งสองหลีกเลี่ยงการใช้คำว่า "การยึดกิจการเป็นของรัฐ" (nationalization)

ซึ่งเป็นแนวคิดที่สมาชิกพรรครีพับลิกันมักจะต่อต้าน เพราะเห็นว่าเป็นการเคลื่อนไหว

ในแบบสังคมนิยม

ต่อข้อถามที่ว่าสหรัฐควรทำเช่นใด นายแมคเคนตอบว่า "คุณควรจะขายสินทรัพย์

ของธนาคาร และเป็นเรื่องที่โชคร้ายที่ผู้ถือหุ้นกับคนอื่นๆจะต้องแบกรับความเสียหายนี้"

อย่างไรก็ดี นายทอม โดโนฮิว ประธานหอการค้าสหรัฐ กล่าวว่า "ไม่ใช่

สิ่งที่มีประโยชน์ในทางปฏิบัติในการกล่าวถึงเรื่องการปิดกิจการธนาคารที่ได้เป็นส่วนหนึ่ง

ของเศรษฐกิจโลก"

นายโดโนฮิวกล่าวในรายการ This Week ว่า "เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ในทาง

ปฏิบัติในการพูดถึงเรื่องการซื้อสินทรัพย์บางส่วนจากธนาคารกลุ่มนี้

และให้สถาบันแห่งหนึ่ง

ถือครองสินทรัพย์ดังกล่าว โดยทั้งภาครัฐและภาคเอกชนให้เงินแก่สถาบันแห่งนั้น"

ส่วนวุฒิสมาชิกคนสำคัญคนหนึ่งในพรรคเดโมแครตเรียกร้องให้มีการใช้

ความอดทนในขณะที่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐประเมิน

สถานะในปัจจุบันของธนาคารที่อ่อนแอ

ทางด้านกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า ทางกระทรวงจะอัดฉีดเงินทุนที่เพียงพอ

ให้แก่ธนาคารที่ใหญ่ที่สุด 20 แห่ง ถ้าหากผลการทดสอบพบว่าธนาคารจำเป็นต้องได้รับ

เงินทุนมากยิ่งขึ้นเพื่อให้รอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงเกินคาด

นายชาร์ลส์ ชูเมอร์ ซึ่งเป็นวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต กล่าวในรายการ

Meet the Press ทางสถานี NBC ว่า "เมื่อใดก็ตามที่มีการประเมินดังกล่าว

ก็อาจจะมีธนาคารบางแห่งที่ไม่ผ่านการทดสอบนี้ ซึ่งเราไม่รู้ว่าเป็นแห่งใด และผม

ก็จะไม่บอกว่าเป็นแห่งใด" และเขากล่าวเสริมว่า "คุณไม่สามารถอัดฉีดเงิน และ

อัดฉีดเงิน และอัดฉีดเงินเข้าไปเรื่อยๆ ในขณะที่ธนาคารไม่เคยแก้ปัญหาของตนเอง"

นายชูเมอร์ ซึ่งเป็นสมาชิกคณะกรรมาธิการการธนาคาร กล่าวว่า

มี "การยึดกิจการเป็นของรัฐในแบบที่ดี" โดยใช้วิธีการที่คล้ายคลึงกับวิธีการ

ที่บรรษัทประกันเงินฝากของรัฐบาลกลาง (FDIC) ใช้ในการปิดกิจการธนาคาร

--จบ--

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปล; ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

เรียบเรียง)

((jit.phokaew@reuters.com; โทร 0-2648-9741;

Reuters Messaging: jit.phokaew.reuters.com@reuters.net))