ReadyPlanet.com


เปิดหุ้นกลุ่มทุน"ประชาธิปัตย์" ผงาดฟ้า


แกะรอยกลุ่มทุนใหญ่พรรคประชาธิปัตย์พบ บมจ.น้อยใหญ่อาทิ BBL-SEAFCO-ASCON-SPALI-PRIN ตระกูลล่ำซำร่วมวงส่งท่อน้ำเลี้ยงเพียบ งานนี้ IEC-D1 ก็ร่วมวงด้วย จับตาผลประโยชน์ต่างตอบแทนในรูปแบบต่างๆทั้งงาน ราคาหุ้นบนกระดาน วงการคาดตอบแทนกันแง่นโยบาย แนะเลือกเล่นหุ้นการเมืองกลุ่มท่องเที่ยว-ส่งออก-หุ้นรับเหมาฯ

หลังจากที่การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)นัดแรกของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีผ่านไปอย่างราบรื่น คงต้องจับตาการแถลงนโยบายของรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 29-30 ธันวาคมนี้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร และการขัดขวางการแถลงนโยบายของกลุ่ม นปช.จะนำพาไปสู่ความรุนแรงเหมือนเมื่อครั้งวันที่ 7 ต.ค.51หรือไม่เป็นสิ่งที่ยังต้องรอดูว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะพาจุดนี้ไปได้หรือไม่

อย่างไรก็ดี การขึ้นสู่อำนาจอีกครั้งของรัฐบาลประชาธิปัตย์ในยุค "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ครั้งนี้จะสำเร็จไม่ได้เลยหากไม่ได้รับแรงสนับสนุนจากนักธุรกิจรายใหญ่ หากมาตามรอยกลุ่มนายทุนที่เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของพรรคประชาธิปัตย์นั้นมีหลายกลุ่มที่ชื่อคุ้นหูและเป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง

จากข้อมูลพบว่า เมื่อเดือนต.ค. 2551 กลุ่มเดอะมอลล์กรุ๊ปและสยามพารากอนบริจาคให้ประชาธิปัตย์ 2 ล้านบาท กลุ่มเอเชียน พร็อพเพอร์ตี้ฯ (AP) กลุ่มแอล.พี.เอ็น.(LPN) รายละ 1 ล้านบาท

และในเดือนพฤศจิกายที่ทางประชาธิปัตย์จัดงานระดมทุนครั้งใหญ่ ตัวเลขเฉพาะที่แจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คือเกือบ 120 ล้านบาท ขณะที่พลังประชาชน 10 ล้านบาท รวมใจไทยชาติพัฒนา 3.7 ล้านบาท และกิจสังคม 20,000 บาท

ในการระดมทุนครั้งนี้มีกลุ่มทุนขาใหญ่ขาประจำเข้าร่วมเพียบ ทั้ง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ,นายแทน เทือกสุบรรณ บุตรชาย, นายประกอบ จิรกิติ กลุ่มทุนยักษ์อย่างเครือ ซี.พี. เจ้าสัวเจริญ ศิริวัฒนภักดี แบงก์กรุงเทพ กลุ่มสหพัฒน์ ตระกูลล่ำซำ

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าเฉพาะงวดเดือน พฤศจิกายน รายนามตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไปมี 53 ราย

สูงสุด คือนายแทน เทือกสุบรรณ 8 ล้านบาท รองลงมานายสุเทพ 5.5 ล้านบาท, นายประกอบ จิรกิติ 5 ล้านบาท, นายชุมพล จุลใส 3 ล้านบาท, นายกำลาภ วิวัฒน์มงคลกุล 3 ล้านบาท, นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ 3 ล้านบาท, บริษัทเซนต์หลุยส์ โฮลดิ้ง จำกัด 3 ล้านบาท

นายสงคราม ชีวประวัติดำรงค์ 2 ล้านบาท นายโพธิพงษ์ ล่ำซำ 2 ล้านบาท, หจก.ไพโรจน์ สมพงษ์พาณิชย์ 1,075,000 บาท, นายเฉลิมพันธ์ ศรีวิกรณ์ 1.1 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีตระกูล ศรีวิกรณ์ เป็นผุ้บริหารของ บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (GOLD) บมจ.พฤกษาเรียลเอสเตท (PS) 1.1 ล้านบาท, ม.ล.อภิมงคล โสณกุล 1,005,000 บาท

บริจาค 1 ล้านบาท ได้แก่ บริษัท เอทีเอ็น พร็อพเพอร์ตี้, บริษัท พีระมิด คอนกรีต จำกัด, นายวรพจน์ อำนวยพล, บริษัท บัญชากิจ จำกัด, บริษัท ทีวีแสตนดาร์ด จำกัด, บริษัท ประยูรวิศว์ จำกัด (กลุ่มนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ), บริษัท ที.เอส.ปาล์ม จำกัด, บริษัท พระนครศรีอยุธยาพาณิชย์ และอุตสาหกรรม จำกัด, บริษัท ธาราวัญ คอนสตรัคชั่น จำกัด, บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป(MAJOR)

นายเทพไท เสนพงศ์, นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์, นายอาคม เอ่งฉ้วน, นางฐิติมา เปี่ยมพงศ์สานต์, นางสาวภานี อรวัฒนศรีสกุล , นายเกียรติ สิทธีอมร, นายศิริชัย แซ่โค้ว, นายองอาจ คล้ามไพบูลย์, นางเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์, นายชาญ โสภณพนิช, บริษัท วัฒนาโชติ จำกัด, บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนลเอนจิเนียริ่ง จำกัด(มหาชน) (IEC) , บริษัท ดอนเมืองการช่าง จำกัด , บริษัท มาสเตอร์ แอนด์ มอร์ จำกัด, บริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด, บริษัท ยุพงษ์ จำกัด

บริษัท สุปรีมโบรคเกอร์ จำกัด , บมจ. ซีฟโก้(SEAFCO), บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ,หจก. สามประสิทธิ์ (กลุ่มนายสมบัติ เพ็ชรตระกูล) ,นายไพบูลย์ ควรทรงธรรม, นายถาวร เสนเนียม, นายแพทย์บุญ วนาสิน, ธนาคารกรุงเทพ(BBL), บริษัท เศรษฐีวรรณพัฒนาการ จำกัด, บมจ.ประกันภัยไทยวิวัฒน์, บริษัท อมตะบี กริม เพาเวอร์ จำกัด, บมจ.สหพัฒนพิบูล (SPC), บริษัท อุตสาหกรรมมิตรเกษตร จำกัด, บริษัท วิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยส์ จำกัด

ผู้บริจาคต่ำกว่า 1 ล้านบาท 24 ราย ได้แก่ นายพูลชัย ลักษณวิศิษฎ์ 6.2 แสนบาท อีก 22 รายบริจาค 5 แสนบาท ได้แก่ บริษัท ซัมมิท แหลมฉบัง โอโต ซีท แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด (กลุ่มจึงรุ่งเรืองกิจ), บมจ.โรงพยาบาลธนบุรี, บริษัทคลองถม ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด , นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ, บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน(HEMRAJ), บริษัท ซีเอ โพสท์ (ไทยแลนด์) จำกัด , นายสมเกียรติ ฉันทวานิช , นายพัฒนพงษ์ ตนุมัธยา ผู้บริหารหนุ่มของ บมจ. แอสคอน คอนสตรัคชั่น (ASCON), นายสาธิต ปิตุเตชะ

บริษัท ผาสุก จำกัด, หจก.นภาก่อสร้าง, บริษัท เสริมสงวนก่อสร้าง, บริษัท ทีพีเอส การ์เด้น เฟอร์นิเจอร์ จำกัด, บริษัท กลุ่ม 79 จำกัด, บริษัท วัสดุภัณฑ์ธุรกิจ (ตระกูลสะสมทรัพย์), บริษัท ไฮ-เทค เน็ทเวิร์ค จำกัด, บริษัท อมตะ สปริง ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด, บริษัท โปรเกรส คอนซัลแตนท์ แอนด์เทรนนิ่ง จำกัด, บริษัท กรุงธนสถาปัตย์ (2003) จำกัด, น.ส.ประกายดาว เขมะจันตรี อดีตผู้บริหารของ บมจ.บลิส-เทล(BLISS) , บมจ.ปัญจพลพัลพ์ อินดัสตรี, บริษัท จีเนียส ทราฟฟิค ซิสเต็ม จำกัด

นอกจากนี้กลุ่ม ซี.พี. 2 บริษัท คือ บมจ.ทรูวิชันส์ 3 แสนบาทกับบริษัท เซเว่นสตาร์ โฮลดิ้ง 1 แสนบาท บริษัท ทีซีซีแลนด์ จำกัดของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี 1 แสนบาท, บมจ.เมเจอร์ดีเวลลเม้นท์ (MJD) 2 แสนบาท, บมจ.ดรากอนวัน(D1) 3 แสนบาท, นายมนตรี ศรีไพศาล 1 แสนบาท, บมจ.ศุภาลัย(SPALI) 1 แสนบาท, บมจ.ปริญสิริ(PRIN) 2 แสนบาท, บมจ.ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ (CMO)4 แสนบาท , บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด 3 แสนบาทเป็นต้น

มีรายงานข่าวแจ้งว่า การระดมทุนครั้งนี้เป็นครั้งแรก "แบงก์กรุงเทพ" เปิดตัวอย่างชัดเจน หลังจากบริจาคผ่านคนในตระกูลโสภณพนิชมานาน

กล่าวอย่างถัดไปที่ต้องจับตาคือ ผลประโยชน์ต่างตอบแทนระหว่างกลุ่มนายทุนและผู้รับทุนว่าจะออกมาในรูปแบบไหน แต่ที่แน่ๆราคาหุ้นบนกระดานหลายตัวที่มีรายชื่อออกหน้าเป็นนายทุนของพรรควิ่งออฟไซด์ไปเรียบร้อยแล้ว อย่าง SEAFCO เองบทวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างมองว่า มีภาษีดีสุดที่จะคว้างานเสาเข็มรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่ตอนนี้รัฐบาลอภิสิทธิ์กำลังเร่งวันเร่งคืน และหากไม่มีอะไรผิดพลาดงานนี้ก็น่าจะเป็นของ SEAFCO แน่นอน เพราะอะไรนั้นคนในวงการรู้ดี

ส่วนหุ้นแบงก์ยักษ์ใหญ่อย่าง BBL หรือแบงก์ในเครือตระกูลล่ำซำนั้น คนในวงการคาดว่าน่าจะได้รับอานิสงส์ผลบุญในการปล่อยสินเชื่อ

กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เองก้ถือว่าเป็นแหล่งเงินใหญ่ หากปีหน้าธุรกิจไม่ดีเงินทุนอาจหดหาย ดังนั้น มาตรการอะไรที่พอจะช่วยหนุนการทำธุรกิจดีต่อผู้ประกอบการและผู้บริโภคย่อมน่าจะเร่งผลักดันออกมา เพราะไม่เช่นนั้นเศรษบกิจไทยอาจไปไม่รอด ดังนั้น ต้องจับตาจากนี้รัฐบาลจะมีมาตรอะไรออกมาฟื้นตลาดอสังหาฯหรือไม่ นี่ยังไม่นับรวมบรรดาหุ้นเก็งกำไรใหญ่น้อยทั้ง IEC,D1 ที่ผลประโยชน์ต่างตอบแทนน่าจะมาในรูปแบบต่างๆ



ผู้ตั้งกระทู้ dr_morky (dr_morky-at-hotmail-dot-com) กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2008-12-29 18:11:02 IP : 203.154.146.54


Copyright © 2010 All Rights Reserved.