i-Home | i-About | i-Knowledge | i-Download | i-Webboard | i-Training | i-Gallery | i-Contact | i-FAQ |
เจาะลึกมาตรการกู้วิกฤติการเงินสหรัฐวงเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ | |
Source - เว็บไซต์สำนักข่าวเนชั่น (Th) ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชของสหรัฐได้เสนอแผนการที่จะอนุญาตให้กระทรวงการคลังสหรัฐซื้อสินทรัพย์ที่ขาดสภาพคล่องได้ในวงเงินสูงถึง 7 แสนล้านดอลลาร์ในความพยายามที่จะยุติวิกฤตการณ์ตลาดการเงินที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ยุคเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ ทั้งนี้ องค์ประกอบสำคัญของอำนาจที่จะมอบให้กับกระทรวงการคลังสหรัฐภายใต้แผนของฝ่ายบริหารสหรัฐซึ่งมุ่งเป้าหมายไปที่หนี้ที่เกี่ยวข้องกับการจำนองรวมถึงรายละเอียดต่างๆจากข้อเสนอของสมาชิกสภานิติบัญญัติจากพรรคเดโมแครตซึ่งครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรส มีดังต่อไปนี้ --แผนการของกระทรวงการคลัง-- * อนุญาตให้กระทรวงการคลังเข้าถือครองสินทรัพย์ด้านการจำนองมูลค่าสูงถึง 7 แสนล้านดอลลาร์ได้ในครั้งเดียว * อนุญาตให้กระทรวงการคลังซื้อสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการจำนองทั้งเพื่อการอยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์ในระยะเวลา 2 ปี แต่แผนดังกล่าวไม่ได้ระบุรายละเอียดประเภทของสินทรัพย์จำนองซึ่งอาจครอบคลุมถึง และ/หรือระยะเวลาที่รัฐบาลอาจถือครอง และไม่ได้ระบุวิธีที่จะประเมินมูลค่าของสินทรัพย์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หากจำเป็นต้องส่งเสริมเสถียรภาพของตลาดการเงิน ก็อาจอนุญาตให้มีการซื้อเครื่องมือทางการเงินประเภทต่างๆ * สินทรัพย์ดังกล่าวจะต้องมีขึ้น หรือออกโดยสถาบันการเงินที่มีการดำเนินงานในสหรัฐก่อนวันที่ 17 ก.ย.2008 แต่เงื่อนไขนี้อาจได้รับการยกเว้น หากจำเป็นต้องส่งเสริมเสถียรภาพทางการเงิน * สินทรัพย์ต่างๆสามารถซื้อจากสถาบันการเงินใดๆก็ได้ โดยรวมถึงแต่ไม่จำกัดอยู่เพียงธนาคาร, สหภาพสินเชื่อ, โบรกเกอร์-ดีลเลอร์ และบริษัทประกัน และหากจำเป็นต้องส่งเสริมเสถียรภาพตลาด ก็อาจมีการซื้อสินทรัพย์ต่างๆจากบริษัทที่ไม่ได้ดำเนินธุรกิจด้านการเงิน * ให้อำนาจในวงกว้างแก่กระทรวงการคลังในการตัดสินใจเกี่ยวกับแนวทางในการซื้อ, จัดการ และขายสินทรัพย์ ซึ่งรวมถึงผ่านกองทุนพิเศษและระบุชื่อสถาบันการเงินที่ดำเนินการสำหรับกองทุนดังกล่าว * รมว.คลังจะได้รับอำนาจเหล่านี้ เพื่อรับประกันถึงความมีเสถียรภาพหรือป้องกันความผันผวนในตลาดการเงินและปกป้องผู้เสียภาษี * ศาลหรือหน่วยงานใดๆของรัฐบาลจะไม่สามารถทบทวนการตัดสินใจของรมว.คลังได้ ขณะที่รมว.คลังจะรายงานต่อสภาคองเกรสภายใน 3 เดือนแรก และหลังจากนั้นปีละ 2 ครั้ง * เพดานการก่อหนี้ของรัฐบาลสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 7 แสนล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนแผนดังกล่าว สู่ระดับ 11.315 ล้านล้านดอลลาร์ จาก 10.615 ล้านล้านดอลลาร์ --ข้อเสนอของวุฒิสมาชิกสังกัดพรรคเดโมแครต-- * สมาชิกวุฒิสภาสังกัดพรรคเดโมแครตเรียกร้องให้กระทรวงการคลังถือ"หุ้นสำรอง"ในบริษัทที่ขายสินทรัพย์ โดยหุ้นเหล่านั้นอาจเป็นหุ้นของสถาบันการเงิน,บริษัทแม่, บริษัทโฮลดิง หรือบริษัทในเครือ * ให้มีการตรวจสอบแผนฟื้นฟูนี้โดยการจัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลฉุกเฉินที่ประกอบด้วยประธานของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), บรรษัทประกันเงินฝากรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC), คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และอื่นๆ รวมทั้งให้คณะกรรมการกำกับดูแลฉุกเฉินพิจารณาทบทวนการแต่งตั้ง"ตัวแทนทางการเงิน"ในการบริหารเงินทุน * ให้มีการนำรายได้ส่วนหนึ่งเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เจ้าของบ้าน, ท้องถิ่นต่างๆ เพื่อป้องกันการยึดทรัพย์สินที่จำนองไว้ * ให้มีการจำกัดการจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้บริหารขององค์กรต่าง ๆ ที่ขายสินทรัพย์ภายใต้แผนฟื้นฟู * ให้การตัดสินใจของรมว.คลังจะต้องอยู่ภายใต้การทบทวน * ให้อำนาจรัฐบาลในการ"ยึดคืน"การจ่ายค่าตอบแทนแก่ผู้บริหารสถาบันการเงิน หากพบในภายหลังว่าข้อมูลต่างๆ อาทิ ผลประกอบการ ไม่ถูกต้อง --ข้อเสนอของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคเดโมแครต-- * เรียกร้องให้จำกัดเงินเดือนผู้บริหาร และลดความพยายามในการยึดบ้าน * ให้อำนาจแก่ Comptroller General ซึ่งเป็นผู้ตรวจเงินแผ่นดินของรัฐบาลสหรัฐ ในการกำกับดูแลโครงการนี้ * ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลที่ประกอบด้วยสมาชิกสภาคองเกรส 7 คนเพื่อตรวจสอบรมว.คลังและผลกระทบจากแผนฟื้นฟูดังกล่าว ซึ่งสมาชิกแต่ละคนจะมีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี * รมว.คลังต้องปรึกษาหารือกับบอร์ดผู้ว่าการของเฟด, เฟดสาขานิวยอร์ค, บรรษัทประกันเงินฝากรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) และสำนักงานพัฒนาที่อยู่อาศัย และเมือง เพื่อซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงิน * กำหนดความหมายของสินทรัพย์ด้อยคุณภาพว่าหมายถึงสินเชื่อจำนองเพื่อที่อยู่อาศัยหรือเพื่อการพาณิชย์ และหลักทรัพย์, หนี้หรือเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ ที่อ้างอิงหรือเกี่ยวข้องกับสินเชื่อจำนองดังกล่าว * ให้มีการจำกัดการจ่ายเงินชดเชยกรณีถูกเลิกจ้างสำหรับผู้บริหารของสถาบันการเงินที่ขายสินทรัพย์ภายใต้แผนฟื้นฟู * ให้รมว.คลังประสานงานกับเจ้าหน้าที่ทางการเงินและธนาคารกลางของประเทศต่างๆ เพื่อจัดทำโครงการในรูปแบบเดียวกัน * ให้เปิดเผยรายละเอียด, จำนวนและราคาของสินทรัพย์แก่ประชาชนทั่วไปหลังการซื้อหรือขายสินทรัพย์ดังกล่าวเป็นเวลา 48 ชั่วโมง ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com | |
ผู้ตั้งกระทู้ dr_morky (dr_morky-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 0000-00-00 00:00:00 IP : 58.64.81.220 |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Visitors : 610400 |