ReadyPlanet.com


เครดิตภาษีเงินปันผล ผลประโยชน์ที่ถูกมองข้าม


เอามาจาก thaivi.com ค่ะ เป็นบทความที่ดีมาก มาก

=====================

เครดิตภาษีเงินปันผล ผลประโยชน์ที่ถูกมองข้าม

โดย ธันวา เลาหศิริวงศ์ (Re-Publish)

ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจกับเรื่องการเสียภาษีรายได้ส่วนบุคคลไม่มากนัก ทั้งนี้เนื่องจาก บริษัทที่ทำงานประจำได้คำนวณภาษีจากฐานเงินได้สุทธิและนำภาษีที่หัก ณ. ที่จ่าย ส่งกรมสรรพกรเป็นประจำทุกเดือน สิ่งที่ทำก็คือการกรอกรายละเอียดให้ถูกต้องและยื่นแบบการเสียภาษีให้ทันช่วงปลายเดือนมีนาคมของทุกๆ ปี

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า หรือ value investor นั้น นอกจากการลงทุนในกิจการที่เห็นว่าต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานเพื่อหวังส่วนต่างของราคาหุ้นในระยะยาวแล้ว เงินปันผลก็เป็นผลตอบแทนที่นักลงทุนแบบเน้นคุณค่าให้ความสำคัญอย่างมาก ช่วงเดือนเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคมของทุกปีจะเป็นช่วงที่นักลงทุนมีความสุขกันทั่วหน้า เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ได้ทยอยส่งเช็คเงินปันผลมาให้ผู้ถือหุ้นทุกคนถึงบ้าน ทั้งนี้จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับผลประกอบการและนโยบายการจ่ายเงินปันผลของบริษัทนั้น ๆ ทั้งนี้มีบริษัทจดทะเบียนจำนวนหนึ่งที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผลรายไตรมาส หรือราย 6 เดือน

นักลงทุนจำเป็นจะต้องรู้และเข้าใจเรื่องภาษี เพราะการจ่ายภาษีอากรให้ถูกต้องและครบถ้วนตามกฎหมายกำหนดเป็นสิ่งที่ผู้ลงทุนจะต้องถือปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ความเข้าใจเรื่องภาษียังอาจช่วยประหยัดรายจ่ายภาษีได้ด้วย สำหรับนักลงทุนประเภทบุคคลธรรมดาจะได้รับยกเว้นภาษีสำหรับ "กำไรจากการขายหลักทรัพย์" หรือ กำไรส่วนต่างราคาจากการซื้อขายหลักทรัพย์ (capital gain) ขณะที่ "เงินปันผล" นั้นบริษัทจะหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 10 นักลงทุนมีสิทธิเลือกที่จะนำเงินปันผลนั้นมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีปลายปีหรือไม่ก็ได้ ซึ่งหากเลือกที่จะนำเงินปันผลนั้นมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ปลายปี กรณีนี้จะได้รับเครดิตภาษีเงินปันผล

เพื่อจะให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นผมจะยกตัวอย่างการคำนวณภาษี และ การขอเครดิตภาษีเงินปันผล การคำนวณดังกล่าวเป็นการคำนวณในกรณีที่ผู้ลงทุนไม่มีรายได้อื่น ดังนั้นฐานภาษีจะอยู่ในระดับต่ำสุด หากผู้ลงทุนมีรายได้ประจำหรือรายได้อื่น ต้องนำรายได้ทั้งหมดมารวมกันแล้วจึงคำนวณการเสียภาษีในอัตราที่กำหนด ขอยกตัวอย่างดังนี้

เงินปันผลที่ได้รับ 70,000 บาท (1)

หักภาษี ณ.ที่จ่าย 10% 70,000 x 10% = 7,000 บาท (2)

เงินปันผลรับจริง (1) - (2) 70,000 - 7,000 = 63,000 บาท (3)

ขอเครดิตภาษีเงินปันผลได้ 70,000 x 3 / 7 = 30,000 บาท (4) *, **

ภาษีที่ถูกหักไว้ทั้งสิ้น (2) + (4) 7,000 + 30,000 = 37,000 บาท (5)

หากไม่มีรายได้อื่น จะมีรายได้ (1)+(4) 70,000 + 30,000 = 100,000 บาท (6)

หักค่าลดหย่อนส่วนตัว = 30,000 บาท

รายได้เหลือหลังค่าลดหย่อน = 70,000 บาท

เงินได้พึงประเมินต่ำกว่า 80,000 บาท ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ ***, ****

แต่เนื่องจากเงินได้จากเงินปันผลนี้ไม่ใช่เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) และมียอดตั้งแต่ 60,000 บาทขึ้นไป

จึงต้องนำมาคำนวณภาษีเงินได้ร้อยละ 0.5 ของเงินได้ก่อนหักค่าใช้จ่าย

ในกรณีนี้คือ 100,000 x 0.5% = 500 บาท (7)

ขอเงินภาษีคืนส่วนชำระเกิน (5) - (7) 37,000 - 500 = 36,500 บาท (8 )

เงินปันผลได้รับจริง (3)+(8 ) 63,000 + 36,500 = 99,500 บาท (9)


หมายเหตุ

* บริษัทจดทะเบียนเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราร้อยละ 30 จึงสามารถขอเครดิตภาษีคืนได้ในอัตรา 3/7 ดังนั้นผู้ที่มีรายได้ที่ต้องเสียภาษีในอัตราร้อยละ 37 จะไม่มีโอกาสได้รับประโยชน์จากการของเครดิตภาษีปันผล

** ถือเป็นเงินได้พึงประเมินและให้ถือเป็นภาษีเงินได้ถูกหัก ณ. ที่จ่ายด้วย

*** เงินได้สุทธิ 80,000 บาทแรก ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ตั้งแต่ปีภาษี 2546 เป็นต้นไป

ในตัวอย่างดังข้างต้น เงินปันผลจริงที่ได้รับคือ 99,500 บาท ไม่ใช่ 63,000 บาทอย่างที่เข้าใจ หรือสามารถขอเครดิตภาษีปันผลคืนได้ 36,500 บาท นับว่าไม่น้อยเลย ตัวอย่างดังกล่าวเป็นการคำนวณสำหรับบริษัทที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราร้อยละ 30 จึงสามารถขอเครดิตภาษีคืนได้ในอัตรา 3/7 หากบริษัทเสียภาษีเงินได้ในอัตราร้อยละ 25 ก็จะสามารถขอเครดิตภาษีคืนในอัตราลดลงมาคือ 1/5 หรือมาจาก 25 / ( 100-25) นั่นเอง อนึ่งสำหรับบริษัทที่ได้สิทธิยกเว้นในการเสียภาษี เราไม่สามารถนำมาขอเครดิตภาษีเงินปันผลได้ สำหรับผู้ถือหุ้น PTTEP จะได้ประโยชน์จากการขอเครดิตภาษีเงินปันผลอย่างมากเพราะ PTTEP เป็นธุรกิจที่ได้รับจากกิจการตามพระราชบัญญัติปิโตเลียม พ.ศ. 2541 ซึ่งเสียภาษีเงินได้นิติลบุคคลในอัตราร้อย 50 นั่นหมายความว่า ผู้ถือหุ้นของ PTTEP สามารถขอเครดิตเงินภาษีเงินปันผลได้ทั้งจำนวนนั่นเอง

หากจะอธิบายง่าย ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็คือ มีการเสียภาษีซ้ำซ้อนเนื่องจาก บริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรได้ชำระภาษีนิติบุคคลแล้ว ขณะที่ผู้ลงทุนนั้นนำเงินปันผลมาคำนวณเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกครั้งหนึ่ง ทางการจึงอนุญาตให้นักลงทุนประเภทบุคคลธรรมดามีสิทธิเลือกที่จะนำเงินปันผลนั้นมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีปลายปีเพื่อขอเครดิตภาษีปันผล ทั้งนี้นักลงทุนที่มีฐานภาษีอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำจะยิ่งได้ประโยชน์มากขึ้น การขอเครดิตภาษีเงินปันผลนี้จะเป็นประโยชน์มากสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่มีรายได้ประจำหรือวัยหลังเกษียณเนื่องจากไม่มีฐานภาษีดังตัวอย่างข้างต้น

สำหรับผมนั้น มองข้ามการขอเครดิตภาษีเงินปันผลมาหลายนาน นับจากนี้อัตราภาษีที่จ่ายของแต่ละบริษัทถือเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจลงทุนเนื่องจากผลประโยชน์เพิ่มเติมจากการขอเครดิตภาษีเงินปันผลดังกล่าว คำถามก็คงอยู่ที่ว่า ท่านพร้อมที่จะให้ความสนใจกับผลประโยชน์ที่ควรจะได้รับนี้ หรือยังคงละเลยผลประโยชน์ส่วนนี้ต่อไปอีก


ผู้ตั้งกระทู้ Nickie กระทู้ตั้งโดยสมาชิก โพสต์และแสดงความเห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น :: วันที่ลงประกาศ 2007-02-25 15:11:31 IP : 58.64.107.241


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (518170)

อยากแชร์ประสบการณ์ จากประสบการณ์จริง

ผมเคยได้รับเงินปันผล 10000 กว่าบาท

ตอนแรกกระหยิ่มยิ้มย่องใจว่าจะได้เงินภาษีคืนแน่นอนจากเครดิตภาษีเงินปันผลก้อนนี้

ปรากฏว่าเงินปันผลในหนังสือที่บริษัทส่งมาให้ มีที่มาจากกำไรจากการดำเนินกิจการ 2 ส่วนคือ

1.กำไรจากกิจการได้รับ BOI ส่วนนี้ไม่ต้องเสียภาษี คือได้รับการยกเว้นการเสียภาษีทั้งจำนวน

2.ไม่ได้รับ BOI ส่วนนี้ต้องเสียภาษีนิติบุคคลตามปกติ 30%

ผมคำนวณโดยเอาส่วนที่ 2 มาคำนวณปรากฏว่าจะได้รับเงินคืน 2 พันกว่าบาท

ผมเดินทางไปที่สรรพากรอำเภอที่ผมอยู่เพื่อคุยเรื่องนี้เพราะปกติผมเป็นพนักงานกินเงินเดือนต้องยื่น ภงด.91 ทุกปีแต่ปีนั้นถ้าจะเครดิตภาษีเงินปันผลต้องยื่น ภงด.90

เมื่อไปคุยกับเจ้าหน้าที่สรรพากร ปรากฏว่า เขาไม่ยอมแยกคำนวณให้ โดยอ้างว่า ต้องยึดเอาจำนวนทั้งจำนวนในหนังสือที่ทางบริษัทแจ้งมา จึงจะยอมให้เครดิตภาษีให้

ปรากฏว่าเมื่อคำนวณแล้วตามที่กระทู้ข้างบนเขียนไว้ ปรากฏว่า ผมต้องจ่ายเงินภาษีเพิ่มอีก ถ้าจำไม่ผิด พันกว่าบาท ผมเลยไม่ขอคืน ทั้งๆที่ผมพยายามอธิบายให้เขาเข้าใจว่าผมจะขอคำนวณเฉพาะส่วนที่ 2 เท่านั้นคือส่วนที่บริษัทเสียภาษีนิติบุคคล โดยในหนังสือฉบับนั้นก็เขียนแยกแยะไว้อย่างชัดเจน เขาก็ไม่ยอม เขายืนยันให้ผมไปขอเอกสารที่มีแยกเฉพาะแต่ละส่วนมาให้ แต่ ณ.เวลานั้น ผมอยู่ต่างจังหวัด จะให้ผมมาขอหนังสือใหม่ ใครบ้างจะมีเวลามากขนาดนั้น (อ้อ ผมนึกออกล่ะ บริษัท ไทยรับเบอร์ ไงครับ อยู่ในกลุ่มเกษตร) แต่หนังสือนั้นน่าจะออกมาจากศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ หรือไงนี่แหละ (ถ้าจำผิดก็ขออภัยด้วยครับ)

เรื่องเครดิตภาษีเงินปันผล ผมรู้มานานแล้ว ว่าขอคืนได้ แต่เมื่อมาเจอกับตัวเองแบบนี้ ผมชักไม่แน่ใจว่าจะขอคืนได้หรือเปล่า กรณีนี้ไม่ทราบว่าเป็นความงี่เง่าของผม หรือเป็นการแกล้งโง่ของเจ้าหน้าที่สรรพากรกันแน่

อยากจะบอกว่า ใครที่เป็นคนออกเอกสาร เรื่องเงินปันผล ควรแยกแยะทีละส่วนมาให้ชัดเจนและควรออกเอกสารมาอย่างละชุดให้ชัดเจน อย่ารวมกันมา ทำเหมือนกับประหยัดกระดาษ(หรือขี้เกียจกันแน่) ทำให้ประชาชนต้องมาเสียโอกาสที่จะได้เงินภาษีคืนและต้องมาเจอกับปัญหาความไม่เข้าใจของเจ้าหน้าที่สรรพากรบางคนอีก (หรือแกล้งโง่ ไม่รู้)

ตั้งแต่นั้นมาผมเลยเข็ดกับการซื้อหุ้นเพื่อเอาเงินปันผล  จะซื้อหุ้นเพื่อเอามาร์จินอย่างเดียวเท่านั้น

นี่กระมังอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำไม เรื่องการเครดิตภาษีเงินปันผลในประเทศไทยไม่ได้รับการพูดคุยมากมายนัก

และนี่กระมังที่ทำให้นักลงทุน กลายเป็นนักเก็งกำไร เพราะไม่รู้จะถือหุ้นไปหาพระ...อะไร สู้ขายเอากำไรดีกว่า

เขาถึงบอกว่าหุ้นในเมืองไทย คือหุ้นเก็งกำไร นั่นเอง หานักลงทุนยาก มีแต่ speculator

ดังนั้นขอเตือนคนที่จะลงทุนเพื่อเอาเงินภาษีคืนจากเครดิตภาษีเงินปันผล อย่าคิดว่าง่ายนะครับ

เดี๋ยวจะเจอเหมือนผม

เจ้าหน้าที่สรรพากรในท้องที่ของคุณ เขาเป็นยังไง?  ลองไปคุยกับเขาหรือยัง?

นี่แหละเมืองไทย

(ถ้าว่างๆจะสแกนเอกสารใบนั้นมาโพสต์ให้ดูครับ)

ขอบคุณครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น p ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2007-02-26 20:58:27 IP : 222.123.193.237


ความคิดเห็นที่ 2 (518266)

เป็นความรู้ที่น่าสนใจและมีประโยชน์มากครับ

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นทั้งสองท่านครับ

เดี๋ยวผมจะลอง update หุ้นปันผลดู และจะนำมาเรียงลำดับให้เพื่อนสมาชิกดูว่าหุ้นไหน ให้ Yield เท่าไหร และจะ XD วันไหน เผื่อจะใช้สำหรับเล่นกลยุทธ์เก็งกำไรซื้อหุ้นก่อน XD

ผู้แสดงความคิดเห็น dr ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2007-02-26 21:59:18 IP : 58.64.86.79


ความคิดเห็นที่ 3 (521154)

ผมคิดว่า เท่าที่ผมเห็นคนลงทุน ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก (ซื่งก็เป็นส่วนน้อยในตลาด) เป็นพวก speculator เท่านั้นครับ พวก investor ติดหุ้น เจ็งระเนระนาดกันหมด เพราะหุ้นบ้านเรา เอาพื้นฐานมาวัดไม่ได้แน่ มีแต่พวกเจ้าของ เจ้าที่และเจ้ามือ ครับพื้นฐานดีที่นักพาไปรับเคราะห์ ..เอ้ย พูดผิดนักวิเคราะห์เชียร์ซื้อ ให้เป้าหมายเท่านั้น เท่านี้ นะ..ฝันไปเถิดครับ

สู้พวกมึงมากูมาตาม มึงเลิกกูเลิก มึงทิ้งกูทิ้ง ไม่ได้ครับ ..แต่ต้องมีความสามารถและวินัยนะครับ หุ้นผลประกอบการแย่นะแหล่ะถ้ามีเจ้าของและมี Volume นะครับ Celiing ทุกวัน

แต่พื้นฐานดี มีปันผล ล่วงทุกวัน.....ยิ่งลงทุน ยิ่งสูงยิ่งหนาววววว...

                                              เห้ยค่อยสบายใจหน่อยครับ..

ผู้แสดงความคิดเห็น pon g ตอบโดยสมาชิกวันที่ตอบ 2007-03-01 21:28:02 IP : 203.150.235.242


ความคิดเห็นที่ 4 (713133)
ผู้แสดงความคิดเห็น _ ›ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2007-07-18 14:55:13 IP : 203.146.127.159


ความคิดเห็นที่ 5 (748468)
ผู้แสดงความคิดเห็น _ ›ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2007-08-24 17:09:30 IP : 203.146.127.179



[1]


Copyright © 2010 All Rights Reserved.